ปัญหาหนักใจของบรรดาคุณแม่หลังคลอดทั้งหลาย นั่นก็คือ การฟื้นคืนหุ่นฟิตแอนด์เฟิร์มให้กลับมาโดยเร็ว ไม่อยากให้ดูเหมือนว่า...คลอดลูกตั้งหลายเดือนแล้ว ทำไมเหมือนยังท้องอยู่เลย
และนั่นจึงเป็นสาเหตุให้เกิดข่าวเศร้าที่เมื่อคุณแม่หลังคลอดรายหนึ่งไปซื้อยาลดความอ้วนมากินจนเสียชีวิต
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย ให้ความเห็นว่า โดยปกติน้ำหนักของแม่จะลดลงทันทีหลังคลอดประมาณ 6 กิโลกรัม และจะลดลงอีกเรื่อยๆเมื่อร่างกายขับน้ำส่วนเกินที่สะสมอยู่ออกไป
“สาเหตุที่บางครั้ง คุณแม่หลังคลอดเมื่อคลอดแล้วไม่ได้ผอมทันที ก็เพราะร่างกายยังเก็บสะสมสารอาหารเอาไว้เพื่อผลิตน้ำนมให้กับลูกในช่วง 6 เดือนแรก ทำให้ยังคงมีน้ำหนักเกินหรือมากกว่าก่อนตั้งครรภ์อยู่บ้าง แต่เมื่อเวลาผ่านไปน้ำหนักก็จะค่อยๆลดลง” คุณหมอพรรณพิมลบอกและว่า จริงๆแล้ววิธีที่จะทำให้น้ำหนักลดลงโดยไม่ต้องกินยาลดความอ้วน เป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายๆนิดเดียว
อธิบดีกรมอนามัย บอกว่า โดยปกติแม่หลังคลอดที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เป็นเทคนิควิธีธรรมชาติที่สามารถช่วยลดไขมันในร่างกายได้ เพราะการสร้างน้ำนมจะดึงเอาไขมันในร่างกายไปใช้ จากการวิจัยพบว่าการให้นมลูกสามารถช่วยเผาผลาญพลังงานในร่างกายได้ถึง 500-800 กิโลแคลอรีต่อวัน หากให้นมลูกอย่างต่อเนื่อง 4-6 เดือน ก็จะ ช่วยลดขนาดส่วนเกินของสะโพก หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขาได้เป็นอย่างดี และช่วยให้น้ำหนักกลับมาปกติได้เร็วขึ้น
...
“การกินยาลดความอ้วนเป็นเรื่องอันตรายมากๆสำหรับแม่หลังคลอด เนื่องจากยาลดความอ้วนบางชนิดกินแล้วไปกดที่สมองทำให้เบื่ออาหาร บางชนิดทำให้มีการเผาผลาญอาหารมากขึ้น บางตัวกินมากๆ อาจทำให้ติดยา ประสาทหลอน หรือหัวใจวายได้ และยาบางตัวยังส่งผ่านน้ำนมไปทำอันตรายต่อตัวลูกอีกด้วย”
คุณหมอพรรณพิมล อธิบายด้วยว่า นอกจากให้นมลูก คุณแม่หลังคลอดโดยเฉพาะที่คลอดเองตามธรรมชาติ สามารถออกกำลังกายเบาๆ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้แผลฝีเย็บแตกหรือแผลแยก เพราะไม่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกาย
“ส่วนใหญ่แล้วคุณแม่ที่คลอดลูกใหม่ๆมักกังวลกับแผลจากการคลอด แต่จริงๆแล้ว คุณแม่สามารถออกกำลังกายเบาๆได้อย่างน้อยวันละ 30 นาที อาจแบ่งเป็นช่วงเช้า 15 นาที และเย็น 15 นาที ในช่วงที่ลูกหลับหรือมีคนช่วยดูแล โดยอาจจะใช้การเดินบ่อยๆ เดินออกกำลังกายที่สวนสาธารณะ คุณแม่บางคนใช้การทำงานบ้าน เช่น ทำความสะอาด กวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างจาน เป็นส่วนหนึ่งของการออกกำลังกาย” คุณหมอพรรณพิมลแนะนำ
ส่วนกรณีผ่าคลอดหรือการคลอดที่มีภาวะแทรกซ้อน อธิบดีกรมอนามัย แนะว่า ควรปรึกษาแพทย์ก่อน แต่โดยทั่วไปสามารถเริ่มมีกิจกรรมทางกายเบาๆได้ภายใน 4-6 สัปดาห์หลังคลอด ซึ่งในครั้งแรกๆ อาจเริ่มบริหารเพียงไม่กี่ท่าหรือท่าละไม่กี่ครั้ง เช่น เดิน ปั่นจักรยานอยู่กับที่ เพราะร่างกายยังอ่อนเพลียอยู่ แล้วจึงค่อยๆเพิ่มขึ้นไปทีละนิดเมื่อร่างกายแข็งแรง ที่สำคัญควรสนุกไปกับการออกกำลังกายที่ตนชอบ จะได้มีความตั้งใจและทำต่อไปได้เรื่อยๆ” อธิบดีกรมอนามัยกล่าว
พญ.พรรณพิมล ยังบอกด้วยว่า ช่วงที่ให้นมลูกร่างกายอาจต้องการอาหารที่มีแคลอรีเพิ่มขึ้น 300-500 กิโลแคลอรีต่อวัน จึงควรกินอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบทั้ง 5 หมู่ โดยเลือกอาหารที่มีโอเมกา 3 สูง เช่น ถั่ว ไข่ และปลา หลีกเลี่ยงอาหารที่มีโซเดียมและน้ำตาลสูง เลือกกินคาร์โบไฮเดรตที่ไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง จะช่วยให้อิ่มนานขึ้น
...
นอกจากนี้ ยังควรกินอาหารที่มีแคลเซียมและโปรตีนสูง เช่น นม โยเกิร์ต ถั่ว กล้วย ผักใบเขียว และเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน เน้นผักและผลไม้ที่มีแคลอรีต่ำ ให้วิตามิน และใยอาหารสูง ช่วยทำให้รู้สึกอิ่มท้องได้เร็ว ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการควบคุมปริมาณแคลอรี
“คุณแม่หลังคลอดจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดูแลตนเองในเรื่องของอาหารการกินและพฤติกรรม นอกจากอาหารแล้ว ยังต้องดื่มน้ำสะอาดให้มากเพียงพอ เพื่อป้องกันการขาดน้ำ ไม่ควรดื่มน้ำอัดลมหรือมีน้ำตาลสูงและควรหาเวลานอนพักทุกครั้งที่มีโอกาสหรือลูกหลับ ช่วยให้ร่างกายได้พักผ่อนเพิ่มขึ้นในแต่ละวัน เนื่องจากการนอนหลับไม่เพียงพอจะส่งผลให้หิวบ่อย ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้น้อย ทำให้การลดน้ำหนักหลังคลอดนั้นทำได้ยากขึ้น” คุณหมอพรรณพิมลทิ้งท้าย
ทั้งนี้ เป็นธรรมดาที่คนเราจะมีน้ำหนักขึ้นๆลงๆ แต่สิ่งที่ต้องตระหนักเสมอก็คือ การกินยาลดความอ้วนไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาเรื่องการลดน้ำหนัก ไม่ว่าจะเป็นคุณแม่หลังคลอดหรือคนทั่วไป
วิธีที่ดีที่สุดในการลดน้ำหนัก คือการควบคุมอาหาร ปรับพฤติกรรมการกินอาหาร ออกกำลังกาย ควบคุมปัจจัยที่มีผลต่อน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น เช่น การนอนดึกเป็นประจำ ความเครียดสะสม จะช่วยให้การควบคุมน้ำหนักเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังช่วยให้ไขมัน แปรเปลี่ยนเป็นกล้ามเนื้อได้เร็วขึ้น... ช่วยให้หุ่นฟิตแอนด์เฟิร์มไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไปสำหรับคุณอีกต่อไป.