ศ.นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้องค์การอนามัยโลก (WHO) และหลายประเทศจับตาเรื่องการคลายล็อกกัญชาทางการแพทย์ของไทยตลอด ทั้งนี้ชัดเจนว่าทั่วโลกกัญชายังเป็นยาเสพติด แต่ประกาศเพิ่มว่าสาร THC ไม่เกิน 0.2% สามารถนำไปผสมในผลิตภัณฑ์อื่นๆได้ แต่กัญชาสายพันธุ์ไทยมีสาร THC สูงประมาณ 10% ถ้าสกัดไม่ดีเอามาหยดใต้ลิ้นอาจจะทำให้โคม่าได้ จึงขอย้ำว่ากัญชามีประโยชน์ แต่ถ้าใช้ไม่เป็นก็มีโทษมหันต์เช่นกัน การใช้ต้องอยู่ภายใต้การควบคุม แพทย์ที่สั่งจ่ายต้องผ่านการอบรมการใช้กัญชาทางการแพทย์และมีใบอนุญาต ส่วนกรณีแพทย์ รพ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ที่หยดน้ำมันกัญชาให้ผู้ป่วย ขณะนี้มอบให้นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัด สธ.ตรวจสอบตามกระบวนการยืนยันว่านี่ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งเราต้องทำตามกฎหมาย

เมื่อถามว่ากำลังจะมีรัฐบาลใหม่ที่มีกระแสว่าพรรคการเมืองที่ขับเคลื่อน เรื่องกัญชาเสรีจะมานั่งที่ สธ. ศ.นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ห่วงอะไร ใครจะมากฎหมายปัจจุบันเราทำเพื่อประโยชน์ประชาชนและประเทศ หากจะปรับแก้กฎหมาย ก็ต้องผ่านกระบวนการ และหากแก้กฎหมายจริงก็ต้องแก้ให้ดีให้เป็นประโยชน์ด้านการแพทย์จริงๆ ไม่ใช้สันทนาการ เพราะขณะนี้มีข้อมูลว่ามีผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดอาการเสพติดกัญชาเกือบ 3,000 คนเราต้องให้ความสำคัญส่วนนี้ด้วย

ด้านนพ.มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่าสำหรับการปรุงตำรับยาที่มีกัญชาผสม กรมฯจะผลิตผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป 2 สูตร คือน้ำมันสนั่นไตรภพ ที่ช่วยลดอาการแทรกซ้อนในผู้ป่วยมะเร็งรังไข่ มดลูก ตับ และยาทาริดสีดวงทวารหนักและโรคผิวหนัง โดยจะทำเครื่องยากลาง 3 สูตรคือช่อดอกกัญชากับพริกไทยล่อนอัตรา 1:1 ใบกัญชากับพริกไทยล่อนอัตรา 1:0.25 และก้านกัญชากับบอระเพ็ด อัตรา 1:1 เพื่อกระจายให้แพทย์แผนไทยใช้ปรุงและจ่ายยาแก่ผู้ป่วย ซึ่งทั่วประเทศน่าจะใช้กัญชา 11 ตันต่อปี

...