ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ปีนี้ประเทศไทยจะเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ ส่งผลให้มีอุณหภูมิสูงกว่าปกติและมีปริมาณน้ำฝนต่ำกว่าปกติ อาจส่งผลกระทบกับลิ้นจี่และลำไยของภาคเหนือได้ นายสำราญ สาราบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า เพื่อดูแลเกษตรกรให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ได้สั่งการให้สำนักงานเกษตรจังหวัด 8 จังหวัดภาคเหนือ ออกให้คำแนะนำพร้อมแจ้งแนวทางการปฏิบัติของเกษตรกรผู้ปลูกลิ้นจี่และลำไยในช่วงสภาวะฝนแล้ง ฝนทิ้งช่วงโดยเร่งด่วน
“การผลิตลิ้นจี่จะเน้นส่งเสริมพัฒนาลิ้นจี่คุณภาพ โดยใช้เทคโนโลยีการห่อช่อผล ในช่วงผลเริ่มติดสี หรือก่อนเก็บเกี่ยว 45 วัน เพื่อลดเปอร์เซ็นต์การเข้าทำลายของหนอนเจาะขั้วผล รวมทั้งควรเก็บผลผลิตในระยะผลแก่ (หลังดอกบาน 4 เดือน) เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ซึ่งปีนี้ลิ้นจี่มีปริมาณผลผลิตลดลงจากปีที่ผ่านมา รวมทั้งเนื้อที่ให้ผลลดลง สาเหตุจากเกษตรกรปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่นแทน คาดว่าจะไม่มีปัญหาด้านราคา”
แต่สภาพอากาศจะส่งผลกระทบต่อลำไยที่จะออกมามากในช่วงเดือนสิงหาคม การพัฒนาของดอกและผลเปลี่ยนแปลง ออกดอกหลายรุ่นและติดผลจำนวนมาก เมื่อฝนตกน้อย ลำไยได้รับน้ำไม่สม่ำเสมอจะทำให้การพัฒนาของผลไม่เต็มที่ ผลมีขนาดเล็ก เปลือกบาง ผลแตกเสียหายได้ เพื่อให้เกษตรกรเตรียมรับมือกับสภาพอากาศ จะมีการแจ้งเตือน ให้คำแนะนำเกษตรกรจัดการสวนลำไยให้เหมาะสมกับสภาพอากาศแห้งแล้ง และประเมินสถานการณ์การติดผล ตัดแต่งช่อผลเพื่อเพิ่มขนาดผลให้มีความสม่ำเสมอ และเก็บเกี่ยวได้เร็วขึ้น
...
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร แนะหลักการตัดแต่งช่อผล ตัดแต่งช่อผลต้นที่ติดดก ติดทั้งต้น แต่ละช่อมีมากกว่า 60 ผล ระยะเวลาที่เหมาะสม ควรตัดแต่งในช่วงที่ผลมีขนาดเท่าเมล็ดถั่วเหลือง ไม่เกินขนาดมะเขือพวง หรือมีเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 1 ซม. การตัดแต่งช่อผลทำได้ 2 รูปแบบ ตัดแต่งทุกช่อ ตัดปลายช่อลำไยทิ้งให้เหลือผลไว้ประมาณ 60 ผลต่อช่อ หรือเลือกตัดทิ้งทั้งช่อ โดยเลือกช่อที่ไม่สมบูรณ์ทิ้ง
พร้อมใช้วัสดุคลุมดินโคนต้นลำไย เพื่อป้องกันการระเหยของน้ำจากผิวดินในช่วงฤดูแล้ง รวมทั้งช่วยทำให้อุณหภูมิในดินไม่สูงหรือต่ำเกินไปในช่วงกลางวันและกลางคืน ควบคุมวัชพืชต่างๆไม่ให้งอก เพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุให้กับดิน โดยใช้ฟางข้าว เศษหญ้าแห้ง ใบไม้แห้ง คลุมให้หนาประมาณ 8-10 ซม. จากโคนต้นไปยังชายทรงพุ่ม หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเกษตรจังหวัด สำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่.