แตงโมเริ่มออกดอก ในระยะอากาศร้อนและมีฝนตก กรมวิชาการเกษตร เตือนพี่น้องชาวสวนแตงโม...ระวังโรคเถาเหี่ยวเกิดจากเชื้อ
จะพบอาการใบล่างมีสีเหลือง โดยเริ่มจากใบบริเวณโคนเถาและลุกลามเหลืองต่อเนื่องไปสู่ยอดจนเหลืองทั้งต้น ต่อมาเถาแตงจะแห้งเหี่ยวตาย
บางครั้งมีรอยแตกตามยาวลำต้นบริเวณโคนเถาใกล้ผิวดิน เมื่อผ่าเถาจะเห็นภายในเป็นสีน้ำตาล มักพบระบาดรุนแรงในพื้นที่สภาพดินเป็นกรด และพื้นที่ที่มีการปลูกแตงโมซ้ำๆต่อเนื่องกัน
หากพบอาการของโรคเถาเหี่ยวหลังเก็บเกี่ยวแตงโมเรียบร้อยแล้ว ให้เก็บเศษซากพืชส่วนที่หลงเหลือในแปลงปลูกนำไปเผาทำลายนอกแปลงปลูก ทันที เพื่อลดการสะสมเชื้อสาเหตุโรค
ควรปลูกพืชหมุนเวียนชนิดอื่น ไม่ใช่ พืชตระกูลแตง (แตงกวา ฟักทอง มะระ แคนตาลูป) และพืชในกลุ่มพริก มะเขือเทศ และมันฝรั่ง เพราะเป็นกลุ่มพืชที่อ่อนแอต่อโรค
และหลีกเลี่ยงการปลูกแตงโมซ้ำที่เดิมติดต่อกันเกิน 3 ปี
ก่อนปลูกแตงโมในฤดูถัดไป ควรไถกลบหน้าดินและตากดินไว้นานกว่า 2 สัปดาห์ และควรตรวจสภาพความเป็นกรด-ด่างของดิน ถ้าดินมีสภาพเป็นกรดจัด ให้ใส่ปูนขาวปรับสภาพดิน อัตรา 100-150 กิโลกรัมต่อไร่ จะสามารถช่วยลดปริมาณเชื้อในดินลงได้มาก
อีกทั้งไม่ควรปลูกแตงโมแน่นจนเกินไป เพื่อให้ในแปลงปลูกสามารถระบายความชื้นได้ดี
หากพบการระบาดของโรค ให้ถอนต้นที่เป็นโรคออกไปเผาทำลายนอกแปลงปลูกทันที จากนั้นให้ใช้สารป้องกันกำจัดโรค อีไตรไดอะโซล 24% อีซี อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ อีไตรไดอะ-โซล+ควินโตซีน 6%+24% อีซี อัตรา 30-40 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร ราดรดดินตรงจุดที่พบโรคในหลุมและบริเวณใกล้เคียง เพื่อป้องกันโรคระบาดไปยังต้นข้างเคียง.
สะ-เล-เต