ปี 2564 “ประเทศไทย” จะเข้าสู่ “สังคมสูงอายุสมบูรณ์” คือมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด ผู้สูงอายุจะมีมากกว่าเด็กเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

และในปี 2574 ประเทศไทยจะเข้าสู่ “สังคมสูงอายุระดับสุดยอด” มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปสูงถึงร้อยละ 28 ของประชากรทั้งหมด

ความท้าทายสำคัญคือความสำคัญของ “ผู้สูงอายุ” ในมิติ...“คุณค่า” และ “คุณูปการ” ที่ผู้สูงอายุมีต่อสังคม นับรวมไปถึง...ปัญหาการถูกกระทำความรุนแรงและละเมิดสิทธิผู้สูงอายุ

“ผู้สูงอายุ”...ที่มีจำนวนสูงขึ้น ที่ผ่านมารัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการดูแลและการพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยมีมาตรการรองรับสังคม

จ้างงานผู้สูงอายุ สร้างคุณค่าผู้สูงวัย

ผู้สูงอายุทั้งในด้านการจ้างแรงงานผู้สูงอายุ โครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ มาตรการสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ รวมทั้ง...เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ ให้มีระบบการออมเพื่อการดำรงชีพยามชราภาพเพียงพอหลังเกษียณ

...

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ย้ำว่า ปี 2560 ประเทศไทยมีผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) จำนวน 11.35 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 16.8 ของประชากรทั้งประเทศ และมีผู้สูงอายุทำงานจำนวน 4.06 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 35.8 ของผู้สูงอายุทั้งหมด

แยกเป็น...ทำงานในระบบ 0.47 ล้านคน และนอกระบบ 3.59 ล้านคน

จ้างงานผู้สูงอายุ สร้างคุณค่าผู้สูงวัย

ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเป็นผู้ปฏิบัติงานที่มีฝีมือด้านการเกษตรและประมง รองลงมา...เป็นพนักงานบริการและผู้จำหน่ายสินค้า ช่างฝีมือและผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบอาชีพพื้นฐาน

ข้อมูลด้านชั่วโมงการทำงานพบว่า ผู้สูงอายุทำงานเฉลี่ยสัปดาห์ละ 40 ชั่วโมง ได้รับค่าจ้างหรือเงินเดือนประมาณ 11,600 บาท ส่วนที่ทำงาน

ด้านภาคการค้าและบริการได้รับค่าจ้างเฉลี่ย 16,946 บาทต่อเดือน...ภาคการผลิต 10,557 บาทต่อเดือน และภาคเกษตรกรรม 4,874 บาทต่อเดือน

กระทรวงแรงงานมีเป้าหมายขับเคลื่อนส่งเสริมการมีงานทำและยกระดับคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ช่วงอายุ 60-69 ปี 100,000 คน แบ่งเป็นผู้สูงอายุในระบบ 20,000 คน ประกอบด้วย...ลูกจ้างเอกชน 15,000 คน และลูกจ้างภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ 5,000 คน และผู้สูงอายุนอกระบบอีก 80,000 คน

จ้างงานผู้สูงอายุ สร้างคุณค่าผู้สูงวัย

เริ่มจากส่งเสริมการประกอบอาชีพอิสระ 70,000 คน...ส่งเสริมการรับงานไปทำที่บ้าน 10,000 คน โดยให้หน่วยงานในสังกัดรับผิดชอบภารกิจที่เกี่ยวข้องคร่าวๆ ดังนี้

สำนักปลัดกระทรวงแรงงานกำหนดอัตราค่าจ้างรายชั่วโมงสำหรับผู้สูงอายุ กรมการจัดหางานส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุในอาชีพที่เหมาะสมกับวัย...ประสบการณ์ การประกอบอาชีพอิสระ รวมถึงเป็นศูนย์บริการจัดหางานผู้สูงอายุ...กรมพัฒนาฝีมือแรงงานส่งเสริมและพัฒนาฝีมือแรงงาน ศักยภาพผู้สูงอายุ เพื่อให้มีทักษะที่เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการตลาดแรงงาน มีความรู้ ประกอบอาชีพ สร้างรายได้

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานให้ความรู้ด้านสวัสดิการ เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่วัยเกษียณ เสริมสร้างความรู้ให้กับ
แรงงานผู้สูงอายุ และสำนักงานประกันสังคมปรับระบบประกันสังคมให้สอดคล้องกับการจ้างงานผู้สูงอายุ...ออกหน่วยเคลื่อนที่ด้านสุขภาพ

ความคืบหน้าการจ้างงานผู้สูงอายุเมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมาได้มีพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการส่งเสริมการมีงานทำให้ผู้สูงอายุ ระหว่างกรมการจัดหางาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สำนักงานประกันสังคม กรมกิจการผู้สูงอายุ กรมการพัฒนาชุมชน

...

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย สมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย และหน่วยงานภาคเอกชน 12 แห่ง อาทิ สมาคมผู้ค้าปลีกไทย, บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด, บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน), บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด, บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)

บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท บางจากกรีนเนท จำกัด, บริษัท บิซิเนส เซอร์วิสเซส อัลไลแอนซ์ จำกัด, บริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด, บริษัท ไทยโตชิบาอุตสาหกรรม จำกัด และบริษัท เมซโซ่ จำกัด รวม 23 หน่วยงาน

ภายใต้โครงการ “รวมพลังประชารัฐ ส่งเสริมการมีงานทำให้ผู้สูงอายุ” สร้างคุณค่า สร้างหลักประกันที่มั่นคงทางรายได้ให้
ผู้สูงอายุเป้าหมาย 100,000 คนทั่วประเทศ

จ้างงานผู้สูงอายุ สร้างคุณค่าผู้สูงวัย

รายละเอียดในภาพรวมการขับเคลื่อนส่งเสริมการมีงานทำและยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้สูงอายุ คณะกรรมการค่าจ้างได้มีการประชุมเพื่อพิจารณากำหนดอัตราค่าจ้างที่เหมาะสมสำหรับการจ้างงานผู้สูงอายุ ซึ่งได้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว ดังนี้

...

1) ช่วงอายุสำหรับการจ้างแรงงานผู้สูงอายุ...ใช้สำหรับการจ้างลูกจ้างผู้สูงอายุ ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

2) ประเภทงาน...งานเสมียนพนักงาน งานอาชีพเกี่ยวกับการค้า งานอาชีพด้านบริการ หรืองานซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัยของลูกจ้างผู้สูงอายุ

3) อัตราค่าจ้างรายชั่วโมง...อัตราเดียวเท่ากันทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 45 บาทต่อชั่วโมง

4) การกำหนดระยะเวลาทำงานที่เหมาะสมสำหรับลูกจ้างผู้สูงอายุ โดยไม่ควรเกิน 7 ชั่วโมงต่อวัน และไม่เกิน 6 วันต่อสัปดาห์ และในปี 2562 มีเป้าหมาย 100,000 คน

พล.ต.อ.อดุลย์ บอกอีกว่า เพื่อส่งเสริมให้ภาคเอกชนจ้างแรงงานผู้สูงอายุเข้าทำงานมากขึ้น รัฐบาลได้ออกมาตรการจูงใจ โดยการตราพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 639) พ.ศ.2560 ซึ่งกำหนดให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลมีสิทธินำรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการจ้างผู้สูงอายุ มายกเว้นภาษีเงินได้ โดยสามารถหักรายจ่ายได้ 2 เท่า

ในการจ้างผู้สูงอายุเข้าทำงานในสถานประกอบการของตน และผู้สูงอายุต้องมีอายุ 60 ปีขึ้นไป ต้องมีสัญชาติไทยเท่านั้น และผู้สูงอายุที่จะเข้าทำงานจะเป็นลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จ้างอยู่ก่อนแล้ว เช่น เกษียณอายุงานและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นจ้างให้ทำงานต่อ เป็นต้น

หรือเป็นผู้สูงอายุที่ได้ขึ้นทะเบียนหางานไว้กับกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานก็ได้ และต้องไม่เป็นและไม่เคยเป็นกรรมการหรือผู้ถือหุ้นของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จ้างผู้สูงอายุดังกล่าว หรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลในเครือเดียวกัน ทั้งนี้...รายจ่ายที่จะได้รับการยกเว้นภาษีต้องเกิดจากรายจ่ายที่จ่ายเป็นค่าจ้างให้แก่ผู้สูงอายุไม่เกินเดือนละ 15,000 บาท

...

ผู้สนใจสามารถสมัครผ่าน 5 ช่องทาง ได้แก่...ศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย (Smart Job Center) สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด, สถานประกอบการ, เว็บไซต์ www.Smartjob.doe.go.th , ตู้งาน (Job Box), สายด่วน 1506 เปิดรับสมัครพร้อมกันแล้วทั่วประเทศ

รวมพลังประชารัฐ...ส่งเสริมสนับสนุน “ผู้สูงอายุ” ได้มีงานทำในอาชีพที่เหมาะสมกับวัยและประสบการณ์ สร้างรายได้ที่มั่นคง
เพิ่มบทบาท...สร้างคุณค่า...ความภาคภูมิใจให้แก่ผู้สูงอายุในบั้นปลาย.