กทม.-ปริมณฑลอากาศดีมาก ทั่วไทยอากาศแจ่มใส เหลือแค่ “ลำพูน” จังหวัดเดียวฝุ่นพิษยังเกินมาตรฐาน ขณะที่แบบจำลองสภาพอากาศ (วาฟ-รอม) กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ชี้หน้าแล้งปีนี้ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ น่าห่วง ฝนน้อยกว่าค่าเฉลี่ยปกติ 40% อุบลรัตน์ เขื่อนทับเสลา กระเสียว น้ำน้อยต่ำกว่า 30% แฉฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่เกิดขึ้นในระยะ 65 วัน สร้างความเสียหายกว่า 2 หมื่นล้านบาท ยังไม่รวมความเสียหายด้านสุขภาพ

เมื่อวันที่ 18 ก.พ. กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายงานสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ เมื่อเวลา 09.00 น. ว่า คุณภาพอากาศอยู่ในระดับดีมากถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ฝุ่นละอองขนาดใหญ่ PM 10 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 32-76 มคก./ลบ.ม. (มาตรฐานไม่เกิน 120 มคก./ลบ.ม.) PM 2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 23-53 มคก./ลบ.ม.(มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) โดยพื้นที่ที่ยังเกินมาตรฐานคือ ต.บ้านกลาง อ.เมืองลำพูน 53 มคก./ลบ.ม. ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น ที่มีค่าเกินมาตรฐานติดต่อกันหลายวัน PM 2.5 ลดลงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน 40 มคก./ลบ.ม. โดย คพ.ยังขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่งดการเผาในที่โล่ง

ส่วนใน กทม.มีรายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ปริมาณเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ลดลงจากเมื่อวันที่ 17 ก.พ. ทุกพื้นที่ มีค่าฝุ่นละออง 10-29 มคก./ลบ.ม. โดยปริมาณฝุ่นละอองยังคงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม.) คุณภาพอากาศอยู่ในระดับดีถึงดีมาก

นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า สภาพอากาศที่ จ.ขอนแก่น มีฝนตกและมีหมอกปกคลุมไปทั่วเมือง ทำให้ชาวบ้านหลายคนเกิดความไม่แน่ใจว่าเป็นหมอกควัน หรือเป็นฝุ่นละอองพิษที่ลอยอยู่ในอากาศ ขอให้ชาวขอนแก่นไม่ต้องตกใจ กับสภาพอากาศที่เห็นเป็นฟ้ามืดครึ้มอยู่เพราะไม่ใช่ฝุ่นละอองหรือควันพิษในอากาศ เนื่องจากมีฝนตกลงมาช่วยลดฝุ่นละออง ตั้งแต่เมื่อเย็นวันที่ 17 ก.พ. วัดค่า PM 2.5 ได้ที่ 40 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เป็นค่าฝุ่นระดับปานกลาง ประชาชนสามารถใช้ชีวิตอยู่กลางที่โล่งแจ้ง โดยไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัย

...

ที่หน้าศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายคมสันต์ สุวรรณอำภา รอง ผวจ.เชียงใหม่ นำหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาร่วมทำความสะอาด เก็บขยะ และฉีดน้ำล้างถนน เพื่อลดปัญหาฝุ่นละออง นายคมสันต์เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่มีอากาศดีขึ้นมาตามลำดับ เตรียมบังคับใช้กฎหมาย ห้ามเผาป่าอย่างเด็ดขาด จากเดิมเริ่มในวันที่ 1 มี.ค.ถึงวันที่ 30 เม.ย. แต่จังหวัดเชียงใหม่เผชิญปัญหาหมอกควันเร็วกว่าที่คาดไว้ ต้องปรับแผนสั่งการห้ามเผาป่า 100 เปอร์เซ็นต์ แต่วันที่ 11 ก.พ.ไปจนถึงวันที่ 30 เม.ย. บังคับใช้กฎหมาย และให้รางวัลนำจับกับประชาชนที่แจ้งเบาะแสคนลักลอบเผาป่า

ด้าน พล.ต.บัญชา ดุริยพันธ์ รองแม่ทัพภาคที่ 3 เปิดเผยว่า นำเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ บินไปดับไฟป่าในพื้นที่ จ.ลำพูน เนื่องจากพื้นที่ จ.ลำพูน ยังมีค่าหมอกควันเกินค่ามาตรฐาน ขณะเดียวกันกองทัพอากาศส่งเครื่องบิน บีที 67 บินขึ้นจากสนามบินจังหวัดเชียงใหม่ไปโปรยละอองน้ำ เพื่อเพิ่มความชื้นและขจัดฝุ่นละอองในอากาศจำนวน 2 เที่ยวบิน จำนวน 6,000 ลิตร เป้าหมายบริเวณเขตชุมชนเมือง จ.ลำพูน ทั้งเช้าและบ่าย เพื่อช่วยลดหมอกควันอีกทางหนึ่ง

วันเดียวกัน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีการจัดเสวนา “แนวทางและมาตรการป้องกัน และแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศของประเทศ ไทย” โดยนายสุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา อาจารย์คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ปัญหามลพิษทางอากาศมาจาก 2 ปัจจัย คือการระบายมลพิษ และสภาวะทางอุตุนิยมวิทยา 2 เดือนที่ผ่านมาสภาพอุตุนิยมวิทยาไม่เอื้อต่อการระบายอากาศ ควันรถก็สะสมอยู่ไม่ลอยไปไหน และจากตัวเลขการวิเคราะห์ความเสียหายทางเศรษฐกิจของสถาบันการเงินแห่งหนึ่งในช่วงเวลาที่เกิดฝุ่น PM 2.5 ใน กทม.และปริมณฑล ในระยะเวลา 65 วัน สร้างความเสียหายกว่า 2 หมื่นล้านบาท ยังไม่รวมความเสียหายด้านสุขภาพ ถ้าสะสมทุกปีความเสียหายจะมากขนาดไหน

ทางด้านแบบจำลองสภาพอากาศ (วาฟ-รอม) สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยถึงข้อมูลน้ำและน้ำฝนในช่วงฤดูร้อน ที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศว่าไทยจะเข้าสู่ฤดูร้อนตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ.เป็นต้นไป จนถึงประมาณกลางเดือน พ.ค.นั้น คาดว่าฤดูแล้งในปีนี้ ภาคอีสานตอนล่างจะมีฝนตกน้อยกว่าค่าเฉลี่ย 40% โดยเฉพาะพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ บางส่วนของ จ.ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา และ จ.เลย สำหรับน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ที่เหลือน้ำใช้อยู่ต่ำกว่า 30% ขณะนี้คือ เขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนทับเสลา เขื่อนกระเสียว และเขื่อนลำนางรอง

“ลักษณะของฝนในปี 2562 จะคล้ายกับปี 2550 คือปริมาณน้ำฝนในฤดูแล้งจะน้อยกว่าค่าปกติ หมายความว่า ฤดูแล้งที่ปกติ เช่น เมื่อปีที่ผ่านมาช่วงฤดูแล้ง มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นถึง 5 ครั้ง ปีนี้จะมีพายุฤดูร้อนน้อยกว่าปีที่แล้ว ซึ่งน้ำฝนจากพายุฤดูร้อนจะสามารถเข้ามาเติมปริมาณน้ำในเขื่อนได้ แต่ปีนี้อาจจะมีน้อย เพราะปีนี้เข้าสู่ช่วงของปรากฏการณ์เอลนีโญ กระแสลมแปซิฟิกจะพัดมาด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้น้อย อุณหภูมิโดยทั่วไปจึงสูงกว่าปีที่ผ่านมา “วาฟ-รอม” ระบุและว่าเดือน มี.ค.นี้ ปริมาณน้ำฝนโดยเฉลี่ยจะน้อยมากเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยปีที่แล้ว เดือน เม.ย.เดือนเดียว มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยถึง 400 มิลลิเมตร ที่ถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์”