พูดถึงฟักทอง ไม่ว่าใครต่างพากันหลับตานึกถึงพืชผักที่ให้ลูกผลทรงกลมแบน เปลือกแข็ง ผิวขรุขระ เนื้อในสีเหลืองเข้มแน่น มัน เหนียว

แต่วันนี้บ้านเรามีฟักทองไทยพันธุ์ใหม่ออกมาให้ยลและชิมกัน รูปร่างหน้าตาเปลี่ยนโฉมราวกับไปทำศัลยกรรมที่เกาหลียังไงยังงั้น...จากรูปทรงคล้ายซาลาเปา กลายมามีทรวดทรงองเอว คล้ายดัมเบล ผลเล็กน่ารัก

แต่รสชาติไม่เล็ก มีความมันแบบฟักทองไทยๆ แถมได้ความหวาน ทำอาหารไทยก็ได้ อาหารฝรั่งยิ่งดี จะทำพายฟักทอง ซุปหรือเอาไปนึ่งหรือหั่นเป็นแว่นๆเข้าไมโครเวฟ 7 นาที กินได้เลย

อะไรจะไวปานเกมการเมืองพลิก...ทำง่ายกินง่ายไม่เหมือนฟักทองลูกใหญ่เนื้อหนา จะเอาเข้าเวฟได้แต่ละทีต้องหั่นแทบมือหัก

...

มองผ่านๆ หลายคนคงนึกว่าเป็นบัตเตอร์นัทลูกเหลือง พืชผักในตระกูลสควอช แต่ไม่ใช่ มันคือฟักทองพันธุ์ใหม่ของไทยมีชื่อเรียกว่า “ฟักทองบัตเตอร์นัทเจียไต๋” เกิดจากการปรับปรุงพันธุ์โดย บริษัท เจียไต๋ จำกัด

“ถ้าเป็นบัตเตอร์นัทเนื้อจะหวานอย่างเดียวและปลูกได้เฉพาะในพื้นที่อากาศหนาวเย็นเท่านั้น แต่นี่คือฟักทองจริงๆ เพราะปลูกในทุกพื้นที่ในประเทศไทย มีรสชาติทั้งหวานและมัน เราเพียงแต่เอารูปทรงบัตเตอร์นัทมาปรับปรุงพันธุ์ให้ดูแปลกตาเท่านั้นเอง โดยวิธีดั้งเดิม ไม่มีการใช้วิธีการตัดต่อยีนและไม่ใช่ GMO เราใช้วิธีเลือกพันธุ์พ่อพันธุ์ไทย แม่พันธุ์ยุโรป ผสมกันไปมาจนได้ลูกหน้าตาอย่างที่เราต้องการ กว่าจะได้พันธุ์นี้ต้องใช้เวลานานถึง 5 ปี”

เสรีวัฒน์ มูลทองแสง นักปรับปรุงพันธุ์พืช ให้เหตุผลถึงการปรับปรุงพันธุ์ ฟักทองบัตเตอร์นัทเจียไต๋...เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้คนผู้บริโภคที่อาจจะชอบฟักทองที่มีรสหวานมัน เนื้อไม่แข็ง กินง่าย ลูกเล็ก สามารถกินได้หมดภายใน 1 มื้อ ไม่ต้องผ่าแบ่ง ทำให้ได้ฟักทองใหม่สดทุกครั้งที่รับประทาน และสามารถซื้อไปรับประทานได้ทีหลายๆ ลูก เพราะเก็บได้นานเป็นเดือน จึงเหมาะกับครอบครัวขนาดเล็กในยุคปัจจุบัน

สำหรับเกษตรกรการปลูกไม่ยาก สามารถปลูกได้ทุกภาค ได้ตลอดปี เหมือนปลูกฟักทองทั่วไป...พื้นที่ 1 ไร่ ปลูกได้ 800 ต้น ให้ผลผลิต 4-6 ตัน ขึ้นอยู่กับการดูแล

และจากการที่ เจียไต๋ ได้นำพันธุ์ไปให้เกษตรกรทดลองปลูกชุดแรก ปรากฏว่า สามารถขายส่งได้ราคา กก. 20-30 บาท ในขณะที่ฟักทองทั่วไปได้ราคาเพียง 8-15 บาท

...

ที่สำคัญถือเป็นตัวเลือกใหม่ของเกษตรกรไทยที่น่าสนใจ เพราะยังไม่ค่อยมีใครปลูกกัน น่าจะมาแรงแซงของเก่า...ใครที่อยากลองของใหม่ เมล็ดพันธุ์ลอตที่ 2 พร้อมวางตลาดประมาณเมษายน

เตรียมวางแผนปลูกได้เลย...ถ้าอยากเป็นผู้นำ ไม่ต้องการเดินตามก้นคนอื่น.

ชาติชาย ศิริพัฒน์