จูฮง...ชื่อลิ้นจี่พันธุ์นี้ไม่เคยมีใครรู้จักมาก่อน แต่เกิดขึ้นมาแล้วในเมืองไทย เพราะเป็นพันธุ์ที่ได้แบบบังเอิญของ นฤดม พิสิษฐเกษม เกษตรกรนักปรับปรุงพันธุ์พืช ต.ทุ่งช้าง อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน ที่ชอบกินลิ้นจี่เป็นชีวิตจิตใจมาตั้งแต่เด็ก กว่า 30 ปี ผู้ชอบไปสรรหาลิ้นจี่พันธุ์แปลกๆ จากย่านตลาดน้อย กทม. มากินเป็นประจำ รวมทั้งมีญาติซื้อลิ้นจี่ จากประเทศจีนมาฝากให้รับประทาน

17 ปีก่อน ไม่รู้ว่าซื้อมากินเอง หรือญาตินำมาฝาก ได้ลิ้มรสลิ้นจี่ไม่รู้จักชื่อ ผลใหญ่ รสชาติหวาน มีกลิ่นหอม แกะเปลือกน้ำไม่ไหลเยิ้ม แถมเมล็ดในยังเล็กลีบ เนื้อเยอะ ด้วยความชอบหลงใหลในรสชาติ จึงคัดหาผลที่มีเมล็ดใหญ่ปะปนมา นำไปทดลองเพาะเมล็ด...มีต้นงอกกว่า 100 ต้น จึงนำปลูกในสวน ที่ จ.น่าน ขยายต้นพันธุ์ออกไปเรื่อยๆ แต่ไม่เคยให้ผลผลิต

“ช่วงนั้นรัฐบาลส่งเสริมให้ปลูกยางล้านไร่ ชาวบ้านพากันโค่นลิ้นจี่ไปปลูกยางกันหมด เหลือแต่สวนของเราที่ยังคงปลูกลิ้นจี่สายพันธุ์นี้ไว้ แม้มันจะไม่ให้ลูก เราก็ยังตัดแต่งกิ่งทุกปี จึงคิดวิธีใหม่ที่จะให้ได้ผลผลิต ลองเอาลิ้นจี่พันธุ์อื่นๆที่ปลูกแล้วได้ผลผลิต ไม่ว่า พันธุ์ฮงฮวย จักรพรรดิ
กิมเจง โอวเฮียะ กวางเจา และกิมจี๊ มาทำเป็นต้นตอเพื่อติดตา ต่อกิ่ง ทดลองทำดูว่าจะได้ลูกมั้ย หลังจากอดทนทำมานานนับ 10 ปี จนช่วงปีสองปีที่ผ่านมา เกิดมีสภาพอากาศที่หนาวเย็นติดต่อกันนานกว่า 1 สัปดาห์ ส่งผลให้ลิ้นจี่ที่ปลุกปล้ำมานานออกลูกมาให้เห็นผล รสชาติเหมือนเมื่อ 17 ปีที่ได้ลองกินครั้งแรกไม่ผิดเพี้ยน”

...

สิงห์ บอกว่า ลิ้นจี่พันธุ์นี้ดั้งเดิมจะชื่อพันธุ์อะไรไม่รู้ แต่พันธุ์ที่ตัวเองทำมาตั้งชื่อว่า “จูฮง” เพื่อเป็นที่ระลึกถึงญาติผู้ใหญ่ที่ซื้อลิ้นจี่จีนมาให้กินประจำ...และผลจากฤดูหนาวที่ผ่านมา อากาศเย็นติดต่อกันนานเป็นปีที่ 2เลยได้ผลผลิตไร่ละ 200 กก. เกษตรกรสนใจปลูกลิ้นจี่ เมล็ดลีบ เนื้อเยอะ ไม่ฉ่ำน้ำ สอบถามได้ที่ 08-1313-6324.