ชาวอังกฤษกว่าแสน ร่วมลงนามในคำร้องให้ราชวงศ์อังกฤษต้องเป็นฝ่ายจ่ายเงินในโครงการปรับปรุงซ่อมแซม พระราชวังบักกิงแฮม ราว 1.6 หมื่นล้านบาท ไม่ใช่ใช้เงินจากภาษีของประชาชน
เมื่อ 21 พ.ย. เว็บไซต์มิร์เรอร์รายงาน ประชาชนในอังกฤษกว่า 100,000 คน ร่วมลงชื่อในคำร้องขอให้ราชวงศ์อังกฤษ จ่ายเงินในโครงการปรับปรุงพระราชวังบักกิงแฮม ในกรุงลอนดอน วงเงินนับ 369 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท) หลังจากทางการอังกฤษได้ประกาศจะเริ่มโครงการปรับปรุงพระราชวังบักกิงแฮม ระยะเวลา 10 ปี เมื่อวันศุกร์ที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมกับแจ้งว่า เงินที่จะนำมาใช้ปรับปรุงพระราชวังบักกิงแฮม ซึ่งเป็นที่ประทับของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 นั้น จะเป็นเงินที่ได้จากภาษีของประชาชน
คำประกาศดังกล่าวของทางการ ส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไม่เห็นด้วยของชาวอังกฤษบางส่วนขึ้นมาทันที โดยชี้ว่าเงินภาษีของประชาชนควรถูกนำไปใช้ในเรื่องที่มีความจำเป็นเรื่องอื่นๆ อย่างเช่น โรงเรียน และโรงพยาบาล จนนำไปสู่การล่ารายชื่อในคำร้องให้ราชวงศ์อังกฤษต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบในโครงการปรับปรุงพระราชวังบักกิงแฮม ไม่ใช่เป็นเงินภาษีของประชาชน
...
นายมาร์ค จอห์นสัน ผู้เริ่มรณรงค์ล่ารายชื่อร้องเรียนเรื่องนี้ ภายใต้ชื่อ ‘คำร้อง 38 องศา’ ชี้ว่า ขณะนี้มีวิกฤติการณ์เรื่องที่พักอาศัยในประเทศ และรัฐบาลได้ใช้ ‘มาตรการรัดเข็มขัด’ ตัดค่าใช้จ่ายในเรื่องบริการประชาชนจำนวนมาก แต่ตอนนี้ราชวงศ์อังกฤษยังคาดหวังให้เราต้อง ‘เฉือนเนื้อตัวเองมากขึ้นอีก’ เพื่อนำมาปรับปรุงพระราชวังบักกิงแฮม
ทั้งนี้ นายฟิลิป แฮมมอนด์ รมว.ต่างประเทศอังกฤษ จากพรรคอนุรักษ์นิยม เป็นหนึ่งใน 3 ของผู้จัดการทรัพย์สินราชวงศ์อังกฤษ รวมทั้งนายกรัฐมนตรีเธเรซา เมย์ และเซอร์ อลัน รีดที่ได้เสนอแนะให้นำเงินภาษีมาใช้ในการซ่อมแซมพระราชวังบักกิงแฮม กล่าวว่า พระราชวังบักกิงแฮม เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอังกฤษ เช่นเดียวกับอนุสาวรีย์อันทรงคุณค่าและเป็นสัญลักษณ์ของอังกฤษทั้งหลาย.