ต่อให้หล่อล่ำเป้าตุง เป็นที่คลั่งไคล้ของสาวๆทั้งโลกขนาดไหน แต่พระเอกเบอร์ต้นของโลกอย่าง “แบรด พิตต์” ก็ยังโดนเมียเลิฟขาลุย “แองเจลินา โจลี” ฟ้องหย่าขอแยกทางจนได้ กลายเป็นข่าวคึกโครมกระฉ่อนโลก เพราะถือเป็นการปิดฉากชีวิตรัก 12 ปีของ

คู่รักขวัญใจฮอลลีวูด ที่สร้างความช็อกไม่ต่างจากโดนสึนามิถล่มจนแอบหวั่นว่าอาจมีอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกหลายระลอก

แวบแรกที่รู้ข่าวช็อก สาวๆส่วนใหญ่บ่นเสียดาย “แบรด พิตต์” เพราะยิ่งแก่ยิ่งหล่อยิ่งฮอต 50 กำลังเฟิร์ม มีแต่คนจ้องจะคว้าทำผัว ผิดกับ “แองเจลินา โจลี” นางเอกแม่ลูกดก ที่ระยะหลังผอมแห้งกรังดูเหี่ยวโทรมเหมือนคนอมทุกข์ แถมปีนี้ปาเข้าไป 41 แล้ว จะหาผู้ชายทั้งหล่อรวยฮอตระดับ “แบรด พิตต์” คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เหมือนเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ที่ไปแอบฉกพระเอกดังจากอ้อมอก “เจนนิเฟอร์ อานิสตัน” จนทุกวันนี้ยังเขม่นกันไม่เลิก

แต่ถ้าใช้หัวอกคนเป็นเมียเป็นแม่ตัดสิน บอกได้คำเดียวว่า ผู้ชายพันธุ์นี้ควรตัดหาง ปล่อยวัดไปนานแล้ว ที่ต้องกัดฟันทน 12 ปี ก็เพราะสงสารลูกๆ ทั้ง 6 คน กลัวจะขาดพ่อ!!

ถึงโฆษกส่วน ตัวของทั้งสองฝ่ายจะออกโรงปฏิเสธว่า สาเหตุรักร้างครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับมือที่สามที่สี่ที่ห้า โดยทนายของฝ่ายหญิงยื่นร้องต่อศาลว่า โจลีต้องการสิทธิในการเลี้ยงดูลูกๆเพียงคนเดียว เพราะแบรดมีปัญหาเกี่ยวกับการใช้สารเสพติด และมีภาวะอารมณ์แปรปรวน กลัวส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของลูกๆ แต่ถ้าล้วงให้ลึกจริงๆ พระเอกสุดฮอตคนนี้มีประวัติเรื่องนอกใจเมียมาตลอดชีวิต!!

แต่ก็เพราะความหล่อความฮอตความดัง ทำให้ไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าทิ้ง “แบรด พิตต์” ถึงจะจับได้กี่ครั้งกี่หน ก็ยอมให้อภัย ตลอด 12ปีที่อยู่กินกันมา แม้แต่สาวมั่นอย่างโจลียังไม่เคยปริปากประจานผัวเรื่องเจ้าชู้ ได้แต่กล้ำกลืนฝืนทนไปเพื่อลูกๆ อย่างมากก็ส่งนักสืบตามส่องพฤติกรรม เพิ่งจะหมดความอดทนก็หนนี้ เลยฟ้องหย่าให้สะใจ

...

คาดว่าฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ถึงทางตัน เกิดจากกระแสข่าวสะพัดว่า “แบรด พิตต์” แอบเป็นชู้กับนางเอกสาวฝรั่งเศสเสน่ห์แรง “มารียง กอติยาร์” กลางกองถ่ายหนังเรื่อง “Allied” ตั้งแต่ช่วงต้นปี จนโจลีหึงหนัก ลงทุนจ้างนักสืบสะกดรอยตาม ด้วยความนอยด์กลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอยตัวเอง ที่เคยสร้างตำนานปีนต้นงิ้วมาแล้วระหว่างถ่ายหนัง “Mr. & Mrs.Smith” เมื่อ 10 กว่าปีก่อน จนทำลายชีวิตคู่ของแบรดกับอานิสตันพังเละ

อย่างไรก็ดี “มารียง” ออกมาสยบข่าวมือที่สาม ประกาศออกสื่อว่ากำลังตั้งท้องลูกคนที่สองกับสามีชาติเดียวกัน แต่แทนที่กระแสจะซาลง กลับกลายเป็นว่า สื่อยิ่งกระพือหนัก และพยายามขุดคุ้ยทุกทาง เผื่อจะโป๊ะแตกเจอหลักฐานเด็ด...ลูกในท้องนางเป็นของแบรด พิตต์!! เรื่องนี้โจลีกังวลใจมาตลอด และนี่อาจเป็นเหตุผลแท้จริงให้คุณแม่ลูกดกต้องลุกขึ้นฟ้องหย่ากู้หน้าตัวเอง

ทีมแบรด พิตต์ ก็เข้าข้างกันไปว่า การที่แบรดเผลอไผลออกนอกลู่นอกทาง เพราะระยะหลังโจลีปล่อยเนื้อปล่อยตัวเป็นไม้เสียบผี แถมไม่ปรนนิบัติดูแลสามี เอาแต่ทุ่มเวลาให้ลูกๆ และทำตัวเป็นแม่พระของผู้ลี้ภัยทั้งโลก แต่ที่น่าช็อกกว่านั้นคือ แท็บลอยด์สุดแซบ “ดิ เอ็นไคว์เรอร์” แฉว่า เหตุผลแท้จริงที่ทำให้เลิกกัน เป็นเพราะแบรดจับได้ว่าเมียรักแอบกลับไปเล่นยาเหมือนสมัยสาวๆ จนสภาพใกล้ซอมบี้เข้าทุกวัน แถมโจลียังเคยนอกใจแบรดหลายหน ล่าสุด ก็ระหว่างไปกำกับหนังเรื่อง “First They Killed My Father” ในกัมพูชา แม้แต่ “จอห์นนี เดปป์” ยังเคยติดบ่วงเสน่ห์โจลีกลางกองถ่ายหนัง “The Tourist” จนต้องเลิกกับเมีย “วาเนสซา พาราดิส” เมื่อต้นปีที่แล้ว แบรดเลยแก้แค้นเมีย แอบไปขายขนมจีบซุป’ตาร์วัยเอ๊าะ “เซเลนา โกเมซ” ถึงกับชวนเป็นนางเอกหนังที่เขากำกับเอง

การให้เหตุผลสั้นๆว่า “เลิกกันเพราะเข้ากันไม่ได้” อาจฟังดูน่าเบื่อ แต่สุดท้ายก็คงดีกว่าสาดโคลนเข้าหากัน เพราะยิ่งคุ้ยลึกเท่าไหร่ ก็ยิ่งเจอความเน่าเฟะเท่านั้น ใครผิดใครถูกไม่ขอฟันธง รู้แต่ว่า ถ้าไม่ใช่คนพันธุ์เดียวกัน คงเป็นผัวเมียมาถึงป่านนี้ไม่ได้!!

มิสแซฟไฟร์