ประธานาธิบดีอิหร่านเยือนฝรั่งเศส เพื่อร่วมลงนามในการสั่งซื้อเครื่องบินโดยสาร จากบริษัทแอร์บัสรวดเดียว 118 ลำ โดยสั่งเครื่องบิน A380 ไป 12 ลำ เพื่อใช้บินระยะไกล ทดแทนเครื่องบินเก่าที่มีการใช้งานมากกว่า 20 ปี...

เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2559 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บริษัทสายการบินแห่งชาติอิหร่านได้ลงนามสัญญาสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัสจำนวน 118 ลำ โดยมีเครื่องบิน A380 ด้วยจำนวน 12 ลำ เพื่อใช้ในการบินทั้งระยะกลางและระยะยาว ในโอกาสที่นายฮัสซัน โรฮานี ประธานาธิบดีอิหร่าน เดินทางเยือนกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส


แถลงการณ์ของประธานาธิบดีฝรั่งเศสระบุว่า สัญญาการสั่งซื้อเครื่องบินดังกล่าวลงนามโดยนายฟาบริซ เบรจิเอร์ ประธานกรรมการบริษัทแอร์บัส กับนายฟาร์ฮัด ปาร์เวเรช ประธานกรรมการบริษัทสายการบินแห่งชาติอิหร่าน

...


รายละเอียดการสั่งซื้อเครื่องบินในครั้งนี้ประกอบด้วย เครื่องบินโดยสารพิสัยไกลลำตัวกว้างแบบ A350-1000 จำนวน 16 ลำ เครื่องบินโดยสารพิสัยไกลลำตัวกว้างแบบ A380  จำนวน 12 ลำ เครื่องบินโดยสารลำตัวแคบแบบ A320-Neo และ A320 (ceo) รวมจำนวน 45 ลำ เครื่องบินโดยสารพิสัยกลางลำตัวกว้าง A330-900 (Neo) และ A330 (ceo) รวมจำนวน 45 ลำ บริษัทแอร์บัสระบุ โดยมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 25,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (900,000 ล้านบาท) โดยการทำเป็นบันทึกความตกลง ไม่ได้ทำเป็นสัญญาซื้อขายทางการค้า เนื่องจากอิหร่านถูกคว่ำบาตรและได้มีการยกเลิกเพียงบางส่วนเท่านั้น


มูลค่าการสั่งซื้อจำนวนมหาศาลในครั้งนี้จะถูกแบ่งตามสัดส่วนให้กับประเทศผู้ร่วมทุนได้แก่ เยอรมนี ฝรั่งเศส และสเปน บริษัทสายการบินอิหร่านได้ถูกคว่ำบาตรโดยประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 2538 ทำให้ประเทศตะวันตกไม่สามารถขายเครื่องบินหรืออะไหล่เครื่องบินให้กับอิหร่านได้เลย เครื่องบินของอิหร่านส่วนใหญ่ถูกจอดทิ้งไว้

ผู้จัดการสายการบินอิหร่านได้กล่าวเมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่า ในช่วงสิบปีข้างหน้า อิหร่านจำเป็นจะต้องสั่งซื้อเครื่องบินจำนวน 400-500 ลำ เพื่อใช้ในการบินพาณิชย์ ขณะนี้ อิหร่านมีเครื่องบินพาณิชย์ประจำการอยู่จำนวน 140 ลำ มีอายุเฉลี่ย 20 ปี.