รัสเซียประกาศจะไม่ทำสงครามกับตุรกี หลังถูกสอยเครื่องบินขับไล่ทิ้งระเบิด “ซูคอย ซู-24” ขณะที่กระทรวงกลาโหมแดนหมีขาวแถลงชัดนักบิน 2 นาย ที่โดดร่มออกจากเครื่องบินซู-24 และถูกยิงจากภาคพื้นดินขณะอยู่กลางอากาศตาย 1 ศพ ส่วนอีกคนถูกช่วยเหลือรอดมาได้ โดยทั้งสองฝ่ายยังเปิดศึกน้ำลายโต้กันไปโต้กันมาเรื่องล่วงล้ำแดน “ปูติน” สั่งประชาชนห้ามไปตุรกี พร้อมระงับความสัมพันธ์ทางการทหาร

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้า หลังกองกำลังรัฐอิสลาม (ไอเอส) โจมตีกรุงปารีส 6 จุดเมื่อ 13 พ.ย. มีผู้เสียชีวิต 129 ศพ ซึ่งปฏิบัติการ ค้นหาผู้ต้องสงสัยยังเข้มข้นทั้งในฝรั่งเศสและเบลเยียม ขณะที่กองทัพตุรกียิงเครื่องบินขับไล่ทิ้งระเบิด “ซูคอย ซู-24” ของรัสเซีย ซึ่งเข้าไปร่วมโจมตีกลุ่มไอเอส และกลุ่มก่อการร้ายอื่นๆตกในซีเรีย เมื่อ 24 พ.ย. โดยระบุว่าเครื่องบินรัสเซียรุกล้ำน่านฟ้าของตน ทำให้สถานการณ์ยิ่งสลับซับซ้อน

เมื่อวันที่ 25 พ.ย. นายเซอร์เก ชอยกู รมว.กระทรวงกลาโหมรัสเซีย แถลงว่า นักบิน 2 นายที่กระโดดร่มออกจากเครื่องบินซู-24 ถูกกระหน่ำยิงจากภาคพื้นดินขณะอยู่กลางอากาศ ทำให้นักบิน 1 นายเสียชีวิต ส่วนนักบินอีก 1 นายถูกช่วยเหลือจากกองกำลังพิเศษของรัสเซียและซีเรียโดยปลอดภัย และถูกส่งตัวไปที่ฐานทัพอากาศฮูเมมิมของรัสเซีย ใกล้เมืองลาตาเกียในซีเรียแล้ว

รัสเซียยังส่งเฮลิคอปเตอร์รุ่น “เอ็มไอ-8” สองลำพร้อมหน่วยกู้ชีพเข้าไปช่วยนักบินทั้งคู่ แต่เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งถูกกบฏซีเรียยิงเสียหาย ต้องลงจอดฉุกเฉิน ทหารนาวิกโยธิน 1 นายในเฮลิคอปเตอร์เสียชีวิต ส่วนหน่วยกู้ชีพอื่นๆ ถูกอพยพกลับไปยังฐานทัพฮูเมมิมโดยปลอดภัย ด้านกลุ่มกบฏชาวเติร์กในซีเรียแถลงว่าตนใช้จรวดต่อต้านรถถัง “โทว์” ของสหรัฐฯ ยิงทำลายเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวของรัสเซียหลังลงจอดฉุกเฉิน พร้อมทั้งเผยแพร่วีดิโอการยิงทำลายเพื่อยืนยัน

...

ก่อนหน้านี้ ตุรกียืนยันว่า ใช้ขีปนาวุธจากอากาศสู่อากาศยิงเครื่องบินซู-24 ของรัสเซียตกหลังตุรกีแจ้งเตือนว่ารุกล้ำน่านฟ้าถึง 10 ครั้ง แต่ตุรกียอมรับว่า เครื่องบินรัสเซียรุกล้ำน่านฟ้าไม่กี่วินาที ส่วนประธานาธิบดีเรเซป ทายยิป แอร์โดกัน แห่งตุรกี ยืนยันว่ากองทัพตุรกีปฏิบัติการภายใต้ “กฎแห่งการพัวพัน” ทุกฝ่ายต้องเคารพสิทธิในการปกป้องดินแดนของตุรกี และว่าตุรกีไม่ต้องการให้ความขัดแย้งกับรัสเซียบานปลาย

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียแถลงว่า การที่ตุรกียิงเครื่องบินรบของรัสเซียตก เป็นการ “แทงข้างหลัง” ของ “ผู้สมรู้ร่วมคิดกับผู้ก่อการร้าย” จะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่างกัน ปูตินยังอ้างว่าเครื่องบินรัสเซียอยู่ลึกเข้าไปในดินแดนซีเรีย 1 กม.ขณะถูกยิงตก และตุรกีไม่ได้แจ้งเตือนก่อนดังที่กล่าวอ้าง

รัสเซียยังใช้มาตรการตอบโต้ตุรกี โดยนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย ยกเลิกกำหนดการเยือนตุรกีในวันที่ 25 พ.ย. พร้อมระงับความสัมพันธ์ด้านการทหารกับตุรกี และเตรียมส่งเรือลาดตระเวนติดระบบป้องกันภัยทางอากาศเข้าไปในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เพื่อทำลายทุกเป้าหมายที่เป็นภัยต่อกองกำลังรัสเซียในซีเรีย และจะส่งระบบขีปนาวุธต่อต้านเครื่องบินแบบ “เอส-400” เข้าไปยังฐานทัพอากาศฮูเมมิมในซีเรียด้วย และต่อไปเครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซียที่ไปโจมตีทางอากาศในซีเรีย จะมีเครื่องบินขับไล่บินคุ้มกันด้วยเสมอ

ปูตินยังเรียกร้องไม่ให้พลเมืองของตนเดินทางไปตุรกีไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ ส่วน “นาตาลี ทัวร์” หนึ่งในบริษัทนำเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซียสั่งระงับการให้บริการลูกค้าแล้ว นอกจากนี้ ยังมีกระแสเรียกร้องในรัสเซียให้ใช้มาตรการคว่ำบาตรด้านเศรษฐกิจต่อตุรกี และให้รัสเซียยกเลิกเที่ยวบินโดยสารทั้งหมดไปตุรกีด้วย

ด้านนานาชาติ ทั้งสหรัฐฯ สหภาพยุโรป (อียู) สหประชาชาติ (ยูเอ็น) และจีน เรียกร้องให้ทุกฝ่ายยับยั้งชั่งใจและอยู่ในความสงบ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ โทรศัพท์ถึงประธานาธิบดีแอร์โดกัน ยืนยันว่าสหรัฐฯ และองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) สนับสนุนสิทธิ์ในการปกป้องอธิปไตยของตุรกี แต่สำคัญยิ่งที่ต้องสืบสวนให้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น และใช้มาตรการต่างๆ ยับยั้งไม่ให้สถานการณ์ลุกลามบานปลาย

ขณะที่ความคืบหน้าเหตุโจมตีกรุงปารีส อัยการเบลเยียมตั้งข้อหาผู้ต้องสงสัยรายที่ 5 ที่ถูกจับกุมในคดีโจมตีกรุงปารีส ทั้งยังออกหมายจับสากลล่าตัวนายโมฮาเหม็ด อาบรินี วัย 29 ปี หลังตรวจสอบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่ปั๊มน้ำมันในเมืองเรสซงส์ริมทางด่วนมุ่งหน้าไปกรุงปารีสเมื่อ 11 พ.ย. ก่อนการโจมตีกรุงปารีส 2 วัน พบว่าเขาขับรถ “เรโนลต์ คลิโอ” ไปกับนายซาลาห์ อับ-เดสลาม คนร้ายที่หลบหนีกลับเข้าเบลเยียม และรถยนต์คันนั้นถูกใช้ในการโจมตีกรุงปารีสด้วย โดยตำรวจเตือนประชาชนอย่าเข้าใกล้อาบรินีซึ่งเป็นบุคคลอันตรายและอาจมีอาวุธ ตำรวจยังระบุชื่อบางส่วนของผู้ถูกจับกุมอีก 2 คนว่าชื่อ “อาลี โอ” และ “ลาเซซ เอ” ซึ่งอาศัยอยู่ที่เขตโมเลนบีคในกรุงบรัสเซลส์

นายดิดอเยร์ รีนเดอร์ส รมว.ต่างประเทศเบลเยียม เผยว่า ตำรวจกำลังตามล่าตัวผู้ต้องสงสัย อีกประมาณ 10 คน ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับแผนโจมตีอื่นๆ รวมทั้งห้างสรรพสินค้า อย่างไรก็ตาม เมื่อ 25 พ.ย. โรงเรียนประถม มัธยม มหาวิทยาลัย และการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ รวมทั้งรถไฟใต้ดินในกรุงบรัสเซลส์เปิดตามปกติแล้ว แม้ทางการยังคงระดับเตือนภัยไว้ที่ระดับ 4 ระดับสูงสุดต่อไปจนถึงวันจันทร์ที่ 30 พ.ย. เพราะยังมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดเหตุโจมตีหลายจุดเช่นกรุงปารีส

...

อัยการฝรั่งเศสแถลงว่า จากการตรวจสอบข้อมูลทางโทรศัพท์มือถือ พบว่านายอับเดลฮามิด อาบาอูด หัวหน้าผู้วางแผนโจมตีกรุงปารีส ซึ่งเสียชีวิตในการบุกจู่โจมของเจ้าหน้าที่ ที่อพาร์ตเมนต์ในเขตแซงต์ เดอนีส์ ชานกรุงปารีสในภายหลัง ได้ย้อนกลับเข้าไปอยู่ใกล้ๆ โรงละคร “บาตากล็อง” หนึ่งใน 6 จุดที่ถูกโจมตี และมีผู้เสียชีวิตมากที่สุด 89 ศพ หลังเขาขับรถไปส่งพรรคพวกโจมตีกรุงปารีส โดยอาบาอูดอยู่ใกล้บาตากล็องขณะคนร้ายกำลังจับตัวประกัน เขายังกลับไปสำรวจร้านอาหารและร้านกาแฟที่ถูกโจมตี อีกทั้งมีหลักฐานว่าเขาวางแผนโจมตีย่านธุรกิจ “ลา เดฟองเซอ” ในกรุงปารีสด้วย

วันเดียวกัน ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ โอลองด์ แห่งฝรั่งเศส พบปะหารือกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่ทำเนียบขาว ในกรุงวอชิงตัน เมื่อ 24 พ.ย. เพื่อหาทางผนึกกำลังต่อสู้กับกลุ่มไอเอสและการก่อการร้าย จากนั้นร่วมแถลงข่าว โดยโอบามากล่าวว่า โลกต้องไม่อดทนอดกลั้นต่อกลุ่มไอเอส ไอเอสต้องถูกทำลาย สหรัฐฯ และฝรั่งเศสจะร่วมทำลายกลุ่มไอเอสด้วยกัน โดยเพิ่มความร่วมมือโจมตีทางอากาศถล่มไอเอสในอิรักและซีเรีย พร้อมเรียกร้องให้รัสเซียเข้าร่วมความพยายามระดับโลกยุติสงครามกลางเมืองซีเรียที่ยืดเยื้อมาเกือบ 5 ปี จากนั้นนายโอลองด์เดินทางต่อไปพบปะเจรจากับนางแองเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เพื่อผนึกกำลังกวาดล้างกลุ่มไอเอส

ส่วนกรณีที่กลุ่มคนร้ายพร้อมอาวุธเต็มพิกัด รวมทั้งปืนอาร์ก้า บุกจับผู้จัดการธนาคารสาขาเมืองรูเบกซ์ ทางภาคเหนือฝรั่งเศส และครอบครัวเป็นตัวประกัน เพื่อบังคับให้เปิดตู้เซฟของธนาคาร เมื่อคืน 24 พ.ย.นั้น เหตุการณ์ยุติลงแล้วหลังการเผชิญหน้ากับตำรวจเกือบ 2 ชม. โดยคนร้ายถูกยิงตาย 1 คน ถูกจับ 1 คน ที่เหลือหลบหนีไปได้ ตำรวจเผยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายและการโจมตีกรุงปารีส

...

ที่ตูนิเซีย ประธานาธิบดีเบจิ คาอิด เอสเซบบี ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ และภาวะเคอร์ฟิวในกรุงตูนิสเมืองหลวง หลังเกิดเหตุโจมตีด้วยระเบิดถล่มรถบัสบรรทุกหน่วยองครักษ์ประธา-นาธิบดีเมื่อ 24 พ.ย. มีผู้เสียชีวิตถึง 12 คน บาดเจ็บกว่า 20 คน ในเบื้องต้นยังไม่มีกลุ่มใดอ้างความรับผิดชอบ แต่การโจมตีพิพิธภัณฑ์แห่งชาติบาร์โดในกรุงตูนิสเมื่อเดือน มี.ค. ทำให้นักท่องเที่ยว 21 คน ตำรวจ 1 นายเสียชีวิต และการโจมตีโรงแรม ในเมืองซูส เมืองรีสอร์ตชื่อดังเมื่อเดือน มิ.ย. ทำให้นักท่องเที่ยวเสียชีวิต 38 คนนั้น กลุ่มไอเอสอ้างความรับผิดชอบ โดยในช่วงหลังๆกลุ่มไอเอสมักเน้น โจมตีชาวต่างชาติในตูนิเซีย

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ตุรกีพยายามลดความตึงเครียดกับรัสเซีย โดยนายกรัฐมนตรีอาห์เหม็ด โดวูตากลู แห่งตุรกีแถลงว่า รัสเซียเป็นทั้ง “เพื่อนและเพื่อนบ้าน” ของตุรกี ส่วน รมว. ต่างประเทศตุรกี ก็โทรศัพท์หารือกับนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย และตกลงจะเจรจากันแบบตัวต่อตัวในเร็ววันนี้ นายลาฟรอฟยังแถลงว่า รัสเซียไม่มีแผนจะทำสงครามกับตุรกี แต่จะไม่ต้อนรับเจ้าหน้าที่ตุรกีใดๆ ในช่วงนี้ เขายังชี้ว่า การยิงเครื่องบินรัสเซียตก ดูเหมือนจะเป็น “การยั่วยุที่มีการวางแผนไว้” หวังว่าจะไม่มีการใช้เรื่องนี้ผลักดันให้มีการตั้ง “เขตห้ามบิน” ในซีเรีย และว่าไม่ใช่ความลับที่ “ผู้ก่อการร้าย” ใช้ดินแดนตุรกีเป็นฐานเตรียมโจมตีชาติเพื่อนบ้าน

ส่วนนายแบร์นาร์ด กาซเนิร์ฟ รมว.มหาดไทยฝรั่งเศสแถลงว่า ฝรั่งเศสจะระดมตำรวจและสารวัตร ทหารอีกเกือบ 11,000 คน อารักขาการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยสภาพอากาศโลกเปลี่ยนแปลงในกรุงปารีส ในวันที่ 30 พ.ย.-11 ธ.ค. นี้ ซึ่งจะมีผู้นำ 147 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วม ก่อนหน้านี้ ฝรั่งเศสได้ระดมตำรวจและทหารกว่า 120,000 นาย ออกมาตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยทั่วประเทศ หลังเกิดเหตุโจมตีกรุงปารีสเมื่อ 13 พ.ย.

...