พระศพของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ซึ่งอัญเชิญลงบรรทมในหีบพระศพ ได้ถูกอัญเชิญอย่างสมเกียรติจากโบสถ์ซานตา มาร์ตา ในเขตนครวาติกัน ถึงมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ เพื่อให้ประชาชนร่วมถวายสักการะ
พระศพของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ซึ่งอัญเชิญลงบรรทมในหีบพระศพ ได้ถูกอัญเชิญอย่างสมเกียรติจากโบสถ์ซานตา มาร์ตา ในเขตนครวาติกัน ถึงมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ เพื่อให้ประชาชนร่วมถวายสักการะ
พระคาร์ดินัล นักบวช ภราดาผู้ถือเทียน และทหารองครักษ์สวิส เดินอย่างช้าๆ เข้าสู่ลานกว้างที่มีแสงแดดส่อง ขณะที่คณะนักร้องประสานเสียงสวดบทสวดและสวดมนต์เป็นภาษาละติน ขณะที่ระฆังขนาดใหญ่ของมหาวิหารดังขึ้น
โดยพระศพของสมเด็จพระสันตะปาปา พระชนมายุ 88 พรรษา ซึ่งสิ้นพระชนม์เมื่อ 2 วันก่อน ณ ที่ประทับอาคารนักบุญมาร์ธา หลังจากทรงประสบภาวะสมองขาดเลือด หรือสโตรก หลังจากหัวใจล้มเหลว ได้รับการอัญเชิญขึ้นสู่แท่นไม้ โดยผู้แบกพระศพ 14 คน ซึ่งสวมถุงมือสีขาวและชุดสูทสีดำ
พระคาร์ดินัล เควิน ฟาร์เรลล์ กล่าวในช่วงเริ่มต้นพิธีว่า "พี่น้องที่รัก ด้วยความโศกเศร้าอย่างสุดซึ้ง ขณะนี้พวกเรากำลังร่วมเดินทางกับพระบรมศพของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสของเราไปยังมหาวิหารวาติกัน" ขณะที่หีบพระศพเคลื่อนผ่านจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ ฝูงชนหลายพันคนปรบมือให้กันอย่างกึกก้อง ซึ่งถือเป็นการแสดงความเคารพตามธรรมเนียมอิตาลี

...
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ซึ่งเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลนานถึง 5 สัปดาห์เมื่อต้นปีนี้ด้วยอาการปอดบวมทั้งสองข้าง ได้ปรากฏตัวต่อสาธารณชนครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 20 เม.ย. โดยพระองค์สร้างความประหลาดใจให้กับผู้แสวงบุญ ด้วยการประทับรถสีขาวแบบเปิดประทุนไปรอบๆ จัตุรัสที่แน่นขนัดไปด้วยผู้คน
พระศพของพระองค์จะประดิษฐานอยู่ที่มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์จนถึงเย็นวันที่ 25 เม.ย. เพื่อให้ประชาชนสามารถแสดงความเคารพได้ โดยพิธีพระศพมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 26 เม.ย. นี้ ที่มหาวิหารนักบุญเปโตร หรือ มหาวิหารเซนต์ ปีเตอร์ส บาซิลิกา ในนครรัฐวาติกัน โดย ผู้นำของรัฐและรัฐบาลจากทั่วโลก รวมถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เช่นเดียวกับผู้นำจากอิตาลี ฝรั่งเศส เยอรมนี อังกฤษ ยูเครน สถาบันของสหภาพยุโรป และอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นบ้านเกิดของพระสันตะปาปาฟรานซิส ก็ได้ยืนยันการมาร่วมงานด้วยเช่นกัน
ฟาบิโอ ซิซิเลียโน หัวหน้าหน่วยงานป้องกันพลเรือนของอิตาลี เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ Corriere della Sera ว่าคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานพิธีที่จัดขึ้นกลางแจ้งอย่างน้อย 200,000 คน
คาดว่าการประชุมลับเพื่อเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่จะเริ่มขึ้นก่อนวันที่ 6 พฤษภาคม เนื่องจากขณะนี้พระคาร์ดินัลได้เริ่มทยอยเดินทางมายังกรุงโรมเพื่อกำหนดวันประชุมลับ หลังจากที่มีการหารือกันอย่างยาวนาน
ไม่มีตัวเก็งผู้สืบทอดตำแหน่งจากพระสันตะปาปาฟรานซิสที่ชัดเจน แม้ว่าบริษัทรับพนันของอังกฤษ จะระบุชื่อหลุยส์ อันโตนิโอ ตาเกล พระนักปฏิรูปจากฟิลิปปินส์ และเปียโตร ปาโรลิน จากอิตาลี ว่าเป็นผู้ที่ที่เป็นตัวเก็งในช่วงแรกๆ ก็ตาม
ในระหว่างนี้ ในช่วงเวลาที่เรียกว่า "sede vacante" (ที่นั่งว่าง) ของคริสตจักรนิกายโรมันคาธอลิกทั่วโลก พระคาร์ดินัล ฟาร์เรลล์ จะเป็นผู้รับผิดชอบภารกิจประจำวันแทนโป๊ปฟรานซิส.
ที่มา Reuters
อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign