รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยแผนการขั้นแรกในการจัดระบบองค์กรใหม่ โดยจะปิดสำนักงานนับร้อยแห่ง และปลดพนักงานอีกหลายร้อยคน
เมื่อวันอังคารที่ 22 เม.ย. 2568 นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยแผนการขั้นที่ 1 เพื่อจัดระบบกระทรวงของเขาใหม่ โดยจะปิดสำนักงานภายในประเทศ 132 แห่ง, ปลดพนักงานราว 700 ตำแหน่งในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และปิดสำนักงานที่มุ่งเน้นดูแลในเรื่องอาชญากรรมสงคราม และความขัดแย้งในโลก
เจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงต่างประเทศรายหนึ่งบอกกับสำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น ว่า ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาประสิทธิภาพและความเกี่ยวข้องในการทำงานของกระทรวง เนื่องจากผังองค์กรของกระทรวงต่างประเทศในปัจจุบันมีขนาดใหญ่เกินไป ซึ่งเป็นผลเสียต่อนโยบายต่างประเทศและองค์กร
เจ้าหน้าที่คนเดิมบอกด้วยว่า การเปลี่ยนแปลงนี้จะไม่ส่งผลให้เกิดการเลย์ออฟพนักงานในทันที แต่ส่งสัญญาณว่าจะมีเจ้าหน้าที่ที่ต้องสูญเสียงาน โดยตามแผนจัดระบบองค์กรใหม่ คาดว่าจะมีพนักงาน 700 ตำแหน่งภายในสำนักงานในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ถูกเลิกจ้าง
ขณะเดียวกัน ซีเอ็นเอ็น ยังรายงานโดยอ้างข้อมูลจากเอกสารภายในของกระทรวงต่างประเทศด้วยว่า ตามแผนจัดระเบียบองค์กรใหม่ ผู้ช่วยรัฐมนตรี (undersecretary) แต่ละคนจะต้องยื่นแผนการลดเจ้าหน้าที่ภายในสำนักงานในประเทศลง 15% เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายเพิ่มประสิทธิภาพแรงงานของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์
ส่วนเมโม่ที่นายคริสโตเฟอร์ แลนดู รัฐมนตรีช่วย (Deputy Secretary) ว่าการกระทรวงต่างประเทศส่งให้พนักงานเมื่อวันอังคารระบุว่า ผู้ช่วยรัฐมนตรีมีเวลา 30 วันในการร่างแผนการเพื่อให้ผู้นำองค์กรบังคับใช้ความเปลี่ยนแปลงภายในวันที่ 1 ก.ค.
...
ความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นจะทำให้สำนักงานของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ลดลงจาก 734 แห่งเหลือ 602 แห่ง หรือลดลง 22% ขณะที่สำนักงานอีก 137 แห่งจะถูกโยกไปอยู่ในส่วนอื่นๆ ของกระทรวงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน แต่ยังไม่มีการปิดสถานทูต, สถานกงสุล หรือสำนักงานในต่างประเทศ ณ ตอนนี้
ด้านนางแทมมี บรูซ โฆษกกระทรวงต่างประเทศยืนยันว่า กระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล หรือ DOGE ซึ่งมีนายอีลอน มัสก์ เป็นผู้นำ และดูแลเรื่องการลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล “ไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้”
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : cnn