IMF เผยแพร่รายงานฉบับใหม่ เตือนว่าเศรษฐกิจโลกและสหรัฐฯ จะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากมาตรการภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ และนโยบายที่ไม่มีความแน่นอน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ออกโรงเตือนในวันอังคารที่ 22 เม.ย. 2568 ว่า นโยบายภาษีที่คาดเดาไม่ได้ของโดนัลด์ ทรัมป์ และมาตรการตอบโต้จากหุ้นส่วนการค้าของสหรัฐฯ จะสร้างผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจโลก โดยที่สหรัฐฯ จะได้รับผลกระทบหนักเป็นพิเศษ
IMF ระบุในรายงาน “แนวโน้มเศรษฐกิจโลก” (World Economic Outlook) ของพวกเขาว่า การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้จะชะลอตัวลงไปอยู่ที่ 2.8% จาก 3.3% ในปีก่อน ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในประวัติศาสตร์อย่างมาก
แต่ IMF คาดการณ์ว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะชะลอตัวลงมากยิ่งกว่า โดยในปี 2568 เศรษฐกิจของสหรัฐฯ น่าจะโตเพียง 1.8% เท่านั้น จากที่ในปี 2567 โต 2.8%
การคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุดของ IMF เลวร้ายลงกว่ารายงานในเดือนมกราคม เนื่องจากมันเกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศมาตรการภาษีสินค้านำเข้าจากทั่วโลก และเก็บภาษีต่างตอบแทนจากประเทศที่เกินดุลการค้าสหรัฐฯ ทำให้ค่าเฉลี่ยอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ พุ่งสูงที่สุดในรอบศตวรรษ
“ความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และความไม่แน่นอนเชิงนโยบายในระดับสูงมาก คาดว่าจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจโลก” IMF ระบุ
ด้านนาย ปิแอร์-โอลิวิเยร์ กูแรงชาส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ IMF ระบุว่า เกือบครึ่งของการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่จะหายไป 1% เป็นผลมาจากมาตรการภาษีใหม่ของโดนัลด์ ทรัมป์ และความไม่แน่นอนเรื่องนโยบายส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ในสหรัฐฯ ตั้งแต่ก่อนจะมีการประกาศมาตรการภาษีในปัจจุบันแล้ว
...
รายงานฉบับล่าสุดของ IMF ระบุว่า มาตรการเก็บภาษีนำเข้าจากทั่วโลกที่นายทรัมป์ประกาศเมื่อ 2 เม.ย. บีบให้พวกเขาต้องทิ้งการคาดการณ์ต่างๆ ที่ตอนนั้นเกือบจะเสร็จแล้วทิ้งไป
IMF ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการค้าที่มีแต่แนวโน้มเศรษฐกิจ โดยระบุว่า หากความตึงเครียดทางการค้าเพิ่มขึ้น ร่วมกับความไม่แน่นอนในนโยบายการค้า การเติบโตก็อาจลดลงไปอีก แต่ในทางกลับกัน หากอัตรากำแพงภาษีในปัจจุบันลดลง รวมถึงมีการทำข้อตกลงใหม่และนโยบายการค้าที่มั่นคง การเติบโตก็อาจสูงขึ้น
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : cnn