รัฐบาลทรัมป์ประกาศแผนเก็บภาษีอุปกรณ์โซลาร์เซลล์ที่นำเข้าจากบริษัทจีนใน 4 ประเทศอาเซียนรวม ไทย ในอัตราสูงสุดถึง 3,521% ตอบโต้การอุดหนุนราคาและการทุ่มตลาด

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 22 เม.ย. 2568 ว่า กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ประกาศแผนตั้งกำแพงภาษีแผงโซลาร์เซลล์ ที่นำเข้าจากบริษัทต่างๆ ใน 4 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้แก่ ไทย, กัมพูชา, มาเลเซีย และเวียดนาม ในอัตราสูงสุดถึง 3,521%

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเมื่อปีก่อนผู้ผลิตอุปกรณ์โซลาร์เซลล์รายใหญ่หลายเจ้า เรียกร้องให้รัฐบาลซึ่งตอนนั้นยังเป็นยุคของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ปกป้องกิจการของพวกเขาในสหรัฐฯ ทำให้กระทรวงพาณิชย์เริ่มการสืบสวนข้อเท็จจริง

กระทรวงพาณิชย์ระบุว่า แผนตั้งกำแพงภาษีดังกล่าวมีขึ้นเพื่อตอบสนองต่อข้อกล่าวหาเรื่องการรับเงินอุดหนุนจากจีน และการทุ่มสินค้าราคาถูกอย่างไม่เป็นธรรมเข้าสู่ตลาดของสหรัฐฯ โดยที่คณะกรรมการการค้าระหว่างประเทศสหรัฐฯ จะมีการตัดสินใจขั้นสุดท้ายเรื่องอัตราภาษีดังกล่าวในเดือนมิถุนายนนี้

มาตรการภาษีล่าสุดของสหรัฐฯ รู้จักกันในชื่อภาษีตอบโต้การอุดหนุนและการทุ่มตลาด (countervailing and anti-dumping duties) จะส่งผลแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าสินค้านั้นๆ ผลิตโดยบริษัทใดและในประเทศอะไร

ผู้ส่งออกอุปกรณ์โซลาร์เซลล์บางรายในกัมพูชาจะเผชิญกำแพงภาษีสูงสุดถึง 3,521% เนื่องจากสหรัฐฯ มองว่าพวกเขาไม่ให้ความร่วมมือกับการสืบสวนของกระทรวงพาณิชย์ ขณะที่ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยบริษัท “Jinko Solar” ของจีนในมาเลเซีย จะถูกเก็บภาษีในอัตราต่ำสุดที่ราว 41%

ส่วนบริษัทจีนอีกแห่งอย่าง “Trina Solar” จะถูกเก็บภาษี 375% สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศไทย ขณะที่ผลิตภัณฑ์โซลาร์ที่นำเข้าจากบริษัทจีนในเวียดนามจะถูกเรียกเก็บภาษี 395.9%

...

ทั้งนี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทจีนจำนวนมากย้ายการผลิตไปยังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเลี่ยงภาษีนำเข้าที่สหรัฐฯ บังคับใช้ตั้งแต่โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีสมัยแรก

คณะกรรมการพันธมิตรการค้าเพื่อผู้ผลิตโซลาร์อเมริกัน (American Alliance for Solar Manufacturing Trade Committee) แสดงความยินดีกับผลการสืบสวนของกระทรวงพาณิชย์ โดยระบุว่านี่เป็นชัยชนะอย่างเด็ดขาดของผู้ผลิตอเมริกัน และเป็นการยืนยันสิ่งที่พวกเขารู้มานานแล้วว่า บริษัทโซลาร์ของจีนเล่นไม่ซื่อกับระบบ

ในปี 2566 สหรัฐฯ นำเข้าอุปกรณ์โซลาร์จาก ไทย, กัมพูชา, มาเลเซีย และเวียดนามรวมมูลค่าสูงถึง 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยภาษีแผงโซลาร์เซลล์จะถูกบวกเพิ่มเข้าไปในกำแพงภาษีอื่น ที่รัฐบาลทรัมป์บังคับใช้ไปแล้วก่อนหน้านี้

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : bbc