• รัสเซียประกาศหยุดยิงช่วงอีสเตอร์ ซึ่งมีผลเพียง 30 ชั่วโมง สร้างความแปลกใจในเวทีระหว่างประเทศ เพราะเป็นการประกาศฝ่ายเดียวโดยไม่มีการประสานหรือเจรจากับรัฐบาลยูเครนล่วงหน้า ผลที่ตามมาคือความสับสนในแนวรบ ไม่ว่าจะเป็นกองกำลังยูเครนที่ยังเผชิญการปะทะต่อเนื่องในบางจุด หรือความคลุมเครือเรื่องเขตปลอดภัย ที่ควรจะมีในช่วงหยุดยิง
  • นักวิเคราะห์ชี้ว่าการกระทำของรัสเซียคล้ายการโยนหินถามทาง มากกว่าความพยายามสันติภาพอย่างแท้จริง เพราะไม่มีระบบติดตามหรือการตกลงร่วมกันระหว่างสองฝ่าย ส่งผลให้หยุดยิงครั้งนี้กลายเป็นเกมการเมือง มากกว่าจะเป็นเครื่องมือสร้างสันติภาพจริงจัง
  • ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์ชี้ว่า ปูตินหวังใช้การหยุดยิง มาเป็นข้อหลีกเลี่ยงแรงกดดันจากสหรัฐฯ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เรียกร้องให้รัสเซียแสดงท่าทีที่เป็นรูปธรรม หากยังต้องการเจรจาสันติภาพ พร้อมขู่ว่าสหรัฐฯอาจถอนตัวจากบทบาทคนกลางในเวทีสันติภาพ หากไม่เห็นความคืบหน้าที่จับต้องได้

เมื่อเย็นวันเสาร์ที่ผ่านมา (20 เม.ย) ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้ประกาศผ่านสถานีโทรทัศน์ของรัฐว่า รัสเซียจะ "หยุดยิงโดยทันที" เป็นระยะเวลา 30 ชั่วโมง เนื่องในโอกาสเทศกาลอีสเตอร์ของคริสตศาสนิกชน โดยอ้างเหตุผลด้านมนุษยธรรม เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่สงครามมีโอกาสพักฟื้นและร่วมพิธีทางศาสนา

แถลงการณ์ระบุว่า กองทัพรัสเซียจะหยุดปฏิบัติการรบต่อยูเครน ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันเสาร์ จนถึงเวลาเที่ยงคืนของวันอาทิตย์ โดยเฉพาะจะยุติการโจมตีต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและพื้นที่พลเรือน

อย่างไรก็ตาม จุดที่ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามคือ การประกาศหยุดยิงครั้งนี้เป็นฝ่ายเดียว (unilateral) โดย ไม่มีการหารือหรือข้อตกลงล่วงหน้ากับยูเครน ขาดกลไกในการควบคุม และไม่มีแผนงานชัดเจนเรื่องการประสานงานระหว่างแนวหน้า

...

ถอดรหัส "กลยุทธ์หยุดยิงอีสเตอร์ เกมการเมืองของปูติน

ท่าทีจากยูเครนและชาติตะวันตก
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ออกมาตอบโต้ทันทีว่า การประกาศหยุดยิงของรัสเซียเป็นเพียงกลยุทธ์ทางการเมืองและความพยายามเล่นเกมกับชีวิตมนุษย์อีกครั้งของปูติน พร้อมกันนี้เขาเสนอแนวทางหยุดยิงถาวร โดยขอให้รัสเซียและยูเครนยุติการใช้ขีปนาวุธ โดรน และการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานพลเรือนเป็นเวลาอย่างน้อย 30 วัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นก่อนเข้าสู่โต๊ะเจรจาอย่างแท้จริง

ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ระบุว่า ยินดีหากมีการขยายระยะเวลาหยุดยิง และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้โอกาสนี้ในการเปิดช่องทางสู่การเจรจาสันติภาพ อย่างไรก็ตาม กระทรวงกลาโหมยูเครนเผยว่าภายในช่วง 30 ชั่วโมงของการหยุดยิง รัสเซียยังคงโจมตีหลายพื้นที่ รวมถึงมีการยิงโดรนและจรวดเข้าสู่แนวหน้า และมีกว่ากว่า 3,000 ครั้งที่รัสเซียละเมิดคำสั่งหยุดยิงของตนเอง

ถอดรหัส "กลยุทธ์หยุดยิงอีสเตอร์ เกมการเมืองของปูติน

กลยุทธหลีกเลี่ยงแรงกดดัน

การประกาศหยุดยิงของปูตินมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ เรียกร้องให้รัสเซียแสดงท่าทีที่เป็นรูปธรรม หากยังต้องการเจรจาสันติภาพ พร้อมขู่ว่าสหรัฐฯอาจถอนตัวจากบทบาทคนกลางในเวทีสันติภาพ หากไม่เห็นความคืบหน้าที่จับต้องได้

การตอบสนองด้วยการประกาศหยุดยิงของปูติน จึงถูกมองว่าเป็นกลยุทธ์เพื่อบรรเทาแรงกดดันจากวอชิงตัน โดยเฉพาะเมื่อมีการขู่ว่าสหรัฐฯ อาจถอนตัวจากบทบาทคนกลางในเวทีสันติภาพ หากไม่เห็นความคืบหน้าที่จับต้องได้

ขณะเดียวกัน ปูตินอาจใช้การหยุดยิงนี้เป็นเครื่องมือกล่าวหายูเครนว่าเป็นฝ่ายไม่ร่วมมือ หากยูเครนยังเดินหน้าสู้รบหรือไม่สามารถหยุดยิงได้ในพื้นที่รบจริง ซึ่งในความเป็นจริง กองกำลังยูเครนไม่มีเวลาเตรียมตัว และต้องเผชิญความเสี่ยงหากฝ่ายตรงข้ามไม่หยุดยิงตามที่อ้าง

เผยความจริงหลังหยุดยิง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทันทีหลังหมดเวลาหยุดยิง จรวดและโดรนก็กลับมาถล่มโจมตียูเครนทันที โดยกองทัพรัสเซียกลับมาเริ่มโจมตีอย่างหนักในพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคใต้ของยูเครน ด้วยโดรนโจมตีจำนวนมากกว่า 90 ลำ และขีปนาวุธอีกหลายลูก

แม้กองทัพยูเครนจะสกัดการโจมตีได้บางส่วน แต่การกลับมาใช้อาวุธหนักทันทีหลังหยุดยิงสิ้นสุด ทำให้ผู้นำยูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ออกมาประณามว่า รัสเซียแค่เล่นเกมกับชีวิตคน พร้อมเสนอให้มีการหยุดยิงอย่างแท้จริงเป็นเวลา 30 วัน เพื่อพิสูจน์ว่า ฝ่ายใดกันแน่ที่ต้องการสันติภาพจริงๆ

ข้อเสนอของเซเลนสกีครอบคลุมการยุติการใช้โดรน ขีปนาวุธ และการโจมตีพลเรือน รวมถึงโครงสร้างพื้นฐาน เช่น โรงไฟฟ้าและสถานที่ราชการ เพื่อเปิดทางให้เกิดบรรยากาศที่เอื้อต่อการเจรจาอย่างแท้จริงในอนาคต

...

อย่างไรก็ตาม รัสเซียตอบกลับเพียงว่าจะรับไว้พิจารณา และยังคงตั้งข้อกล่าวหาว่ายูเครนใช้โครงสร้างพื้นฐานพลเรือนเป็นฐานทัพ ทำให้ข้อเสนอหยุดยิงถาวรยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด