นางเจือง มี ลาน เจ้าแม่อสังหาริมทรัพย์เวียดนามชาวเวียดนามที่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ในคดีฟอกเงินมูลค่า 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5.63 แสนล้านบาท ได้รับการลดโทษเหลือ 30 ปีในการอุทธรณ์ หลังจากที่เธออ้างว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็น "อุบัติเหตุ"

นางเจือง มี ลาน เจ้าแม่อสังหาริมทรัพย์เวียดนามชาวเวียดนามที่ถูกจำคุกตลอดชีวิต ในคดีฟอกเงินมูลค่า 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5.63 แสนล้านบาท ได้รับการลดโทษเหลือ 30 ปีในการอุทธรณ์ หลังจากที่เธออ้างว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็น "อุบัติเหตุ"

นางเจือง มี ลาน เคยแพ้คดีฟ้องร้องโทษประหารชีวิตในคดีอื่น ซึ่งเธอถูกตัดสินว่ามีความผิดในเดือนเมษายนปีที่แล้ว ในข้อหายักยอกเงินกู้เป็นมูลค่ากว่า 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.6 ล้านล้านบาท จากธนาคารไซ่ง่อน คอมเมอร์เชียล (Saigon Commercial Bank) ซึ่งถือเป็นธนาคารขนาดใหญ่อันดับที่ 5 ของเวียดนาม และการยักยอกทรัพย์มูลค่า 27,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 9.88 แสนล้านบาท

ศาลอุทธรณ์ตัดสินว่าไม่มีเหตุผลในการลดโทษของเธอ แต่กล่าวว่าเธอสามารถหลีกเลี่ยงโทษประหารชีวิตได้หากเธอส่งคืนทรัพย์สินที่ขโมยมาจำนวน 3 ใน 4 

อย่างไรก็ตาม วันนี้ (21 เม.ย.) ศาลอุทธรณ์ในนครโฮจิมินห์ตัดสิว่าโทษจำคุกตลอดชีวิตที่เธอได้รับในคดีอาญาสามกระทงในการพิจารณาคดีครั้งที่สองในเดือนตุลาคม จะลดลงเหลือ 30 ปี ในการกล่าวต่อศาลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นางลานบรรยายว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็น "อุบัติเหตุ"

นางลานวัย 68 ปีถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฟอกเงิน 17,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และค้าขายข้ามพรมแดนผิดกฎหมาย 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ เธอยังถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงพันธบัตรเป็นมูลค่า 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ระหว่างการพิจารณาคดี ศาลได้ตัดสินว่านางลานเป็น "ผู้วางแผนที่ก่ออาชญากรรมโดยใช้วิธีการที่ซับซ้อนหลายครั้ง ซึ่งก่อให้เกิดผลร้ายแรงเป็นพิเศษ"

...

ในการพิจารณาคดีครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน 2024 นางลานถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานยักยอกเงิน 12,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่อัยการกล่าวว่าความเสียหายที่เกิดจากการฉ้อโกงดังกล่าวมีมูลค่ารวม 27,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเทียบเท่ากับประมาณ 6 เปอร์เซ็นต์ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ของเวียดนามในปี 2023

นางลานถือหุ้นธนาคาร SCB เพียง 5 เปอร์เซ็นต์ในเอกสาร แต่ศาลสรุปว่าเธอควบคุมมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ได้อย่างมีประสิทธิผลผ่านครอบครัว เพื่อน และพนักงาน ทำให้ผู้คนหลายหมื่นคนที่ลงทุนเงินออมในธนาคารสูญเสียเงิน และทำให้เกิดการประท้วง.

ที่มา  CNA

อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign