ในที่สุด ประธานาธิบดีทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯที่อหังการกดหัวชาวโลกกว่า 7 พันล้านคน ขึ้นภาษีนำเข้าโหดอย่างไร้เหตุผล ก็ต้องก้มหัว “จูบก้น” ประธานาธิบดีสี ผู้นำจีน เป็นคนแรก หลังจากที่ ทรัมป์ได้กล่าวเยาะเย้ยผู้นำประเทศต่างๆที่ติดต่อขอเจรจากับสหรัฐฯเรื่องการขึ้นภาษีว่า ประเทศเหล่านี้แทบจะมา “จูบก้นผม” ในงานเลี้ยงสังสรรค์ของกรรมาธิการวุฒิสภา แล้วก็หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน แต่วันนี้ทรัมป์คงหัวเราะไม่ออก เมื่อจำใจต้องประกาศยกเลิกภาษีนำเข้า 145% จากจีน สำหรับ ไอโฟน ไอแพด และผลิตภัณฑ์แอปเปิล ทั้งหมดกว่า 20 ชนิดที่ผลิตในจีน โดยมีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ 5 เมษายน แสดงถึงความโง่เขลาของผู้นำสหรัฐฯที่ประกาศขึ้นภาษีโดยไม่มีข้อมูลในมือประธานาธิบดีทรัมป์ยอมศิโรราบจีน หลังจากที่ ผู้นำจีนประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯเป็น 125% เมื่อสายวันศุกร์ที่ 11 เม.ย. มีผล 12 เม.ย. เพื่อตอบโต้ผู้นำสหรัฐฯที่ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มจาก 125% เป็น 145% ภาษี 125% จีนถือเป็นภาษีสูงสุดไม่ขึ้นไปมากกว่านี้อีกแล้ว แม้สหรัฐฯจะบ้าขึ้นภาษีนำเข้าสูงกว่า 145% ก็ตามก็ได้ผล บ่ายวันศุกร์ที่ 11 เม.ย. วันเดียวกับที่จีนประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯเป็น 125% ประธานาธิบดีทรัมป์ก็รีบประกาศยกเลิกภาษีนำเข้าจากจีน 145% สำหรับผลิตภัณฑ์แอปเปิลทุกชนิดที่ผลิตในจีนทันที ทั้งที่ทรัมป์เพิ่งประกาศขึ้นภาษีจีนเป็น 145% ไปไม่ทันข้ามวัน ส่งผลให้ “ราคาหุ้นแอปเปิล” พุ่งกระฉูด ข้อมูลจากสำนักงานศุลกากรและการป้องกันชายแดน (CBP) เปิดเผยว่า การยกเลิกภาษีนี้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ 5 เม.ย. ผู้นำเข้าสามารถขอคืนภาษีที่ชำระแล้ว ภาษีนำเข้าที่ได้รับการยกเว้น นอกจาก ไอโฟน ไอแพด และผลิตภัณฑ์แอปเปิลทั้งหมด ยังมีสินค้าอื่นรวม 20 รายการ เช่น เซมิคอนดักเตอร์, โซลาร์เซลล์, จอทีวี, แฟลชไดรฟ์, เมมโมรีการ์ด เป็นต้นปัจจุบัน สินค้าแอปเปิลกว่า 80% ผลิตในจีน เมื่อทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากจีน 145% สินค้าแอปเปิลก็โดนภาษีนำเข้า 145% ด้วย ไม่น่าเชื่อว่าทรัมป์จะไม่มีข้อมูลพื้นฐานเหล่านี้ สินค้าแอปเปิลที่ผลิตในจีนกว่า 50% ขายในสหรัฐฯ เลยทำให้ ประธานาธิบดีทรัมป์ กลายเป็น ผู้นำโลกคนแรกที่ต้อง “จูบก้น” ผู้นำจีน หลังจากที่เยาะเย้ยผู้นำชาติอื่นประธานาธิบดีทรัมป์ยังไม่รู้อีกว่า ถ้านำไอโฟนกลับไปผลิตในสหรัฐฯ จะทำให้ราคาไอโฟน 16 โปร ปัจจุบันขายเครื่องละ 1,199 ดอลลาร์ในสหรัฐฯ มีราคาเพิ่มขึ้นเป็นเครื่องละ 1,500 ดอลลาร์ โดยคิดจากค่าแรงในสหรัฐฯอย่างเดียว แต่ถ้าคิดจากภาษีนำเข้า 145% ราคาไอโฟนในสหรัฐฯต้องขายเครื่องละ 3,500 ดอลลาร์ ประมาณ 120,000 บาท และแอปเปิลจะมีค่าใช้จ่าย 30,000 ล้านดอลลาร์ กว่า 1 ล้านล้านบาท ในการย้ายซัพพลายเชนเพียง 10% ไปยังสหรัฐฯในเวลา 3 ปีเศษข้างหน้า บรรดา นักวิเคราะห์จากวอลล์สตรีท วิเคราะห์กันว่า ไม่เชื่อว่าแอปเปิลจะสามารถผลิตไอโฟนไอแพดที่ “Made in America” ได้อย่างแน่นอน มันเหมือนขนมพายที่อยู่บนท้องฟ้า Uncle Sam’s iPhone ไอโฟนของลุงแซม ไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน นักวิเคราะห์สหรัฐฯในวอลล์สตรีทฟันธงปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ Apple ได้รับการออกแบบที่แคลิฟอร์เนีย มี Foxconn บริษัทไต้หวัน เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุด ฟอกซ์คอนน์ ยังผลิตสมาร์ทโฟนให้กับ หัวเหว่ย และ เซี่ยวมี่ สองบริษัทมือถือยักษ์ใหญ่จีนด้วย ถ้าแอปเปิลจะจ่ายเงินให้ฟอกซ์คอนย้ายโรงงานไปผลิตไอโฟนในสหรัฐฯ ต้องใช้เวลาอีกหลายปีในการก่อสร้างโรงงาน และติดตั้งเครื่องจักรการผลิต เมื่อสร้างโรงงานเสร็จแล้วไม่แน่ใจว่านโยบายภาษีของทรัมป์จะยังอยู่หรือไม่ มองไปในอนาคต ภาษีทรัมป์มีแต่จะนำความล่มจมไปสู่สหรัฐอเมริกา มากกว่าผมเห็นด้วยครับ ไทยเราควรใจเย็นรอบนภูดูเสือกัดกันให้คลื่นลมสงบก่อนค่อยไปเจรจา ตอนนี้ต้องจับมือกับอาเซียนไว้ให้แน่นๆหลายหัวดีกว่าหัวเดียว ที่สำคัญต้องรีบตั้ง “กองทุนช่วยเหลือผู้ส่งออกรายย่อย” เพื่อรักษาชีวิตผู้ส่งออกเอาไว้ก่อน รอช้าไม่ได้ครับ.“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม