ร้านอาหารแห่งหนึ่งในย่านไชน่าทาวน์ของสิงคโปร์ ได้ปลดป้ายที่ก่อให้เกิดข้อโต้แย้งซึ่งระบุว่า "มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม 104 เปอร์เซ็นต์ จากลูกค้าชาวอเมริกัน" หลังจากได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางทางออนไลน์

ร้านอาหารแห่งหนึ่งในย่านไชนาทาวน์ของสิงคโปร์ ได้ถอดป้ายที่ก่อให้เกิดข้อโต้แย้งซึ่งระบุว่า "มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม 104 เปอร์เซ็นต์ จากลูกค้าชาวอเมริกัน" หลังจากได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางทางออนไลน์

ข้อความบนกระดาษสองแผ่นที่ติดไว้ที่ประตูหน้าของร้านอาหาร "เซี่ย เหล่า ซ่ง" ซึ่งให้บริการอาหารจีน เริ่มแพร่กระจายในโซเชียลมีเดียเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ข้อความดังกล่าวเขียนเป็นทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน โดยระบุว่า "ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2025 เป็นต้นไป ชาวอเมริกันจะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม 104 เปอร์เซ็นต์เมื่อรับประทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งนี้" และข้อความปิดท้ายว่า "เซี่ย เหล่า ซ่ง, สิงคโปร์"

ข้อความดังกล่าวปรากฏขึ้นไม่นานหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีน 104% เมื่อวันพุธ (9 เมย.) ขณะที่ปัจจุบันอัตราดังกล่าวอยู่ที่ 145%

อย่างไรก็ตาม พบประกาศดังกล่าวก็ถูกยกเลิกในวันนี้ (11 เม.ย.) โดยทั้งพนักงานและเจ้าของร้านต่างปฏิเสธแสดงความคิดเห็น

การเคลื่อนไหวของร้านอาหารได้นำไปสู่การถกเถียงอย่างกว้างขวางทางออนไลน์ โดยมีโพสต์บน TikTok ที่แชร์โดยผู้ใช้ sgwhatsup แสดงให้เห็นว่ามีผู้เข้าชมมากกว่า 400,000 ครั้ง และแสดงความคิดเห็นมากกว่า 1,700 รายการ ในขณะที่ผู้ใช้หลายคนตำหนิป้ายดังกล่าวว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ ผู้ใช้คนอื่นๆ ก็ตั้งคำถามว่ากฎหมายของสิงคโปร์ห้ามการกระทำดังกล่าวหรือไม่

บน Reddit โพสต์เกี่ยวกับปัญหานี้ได้รับการโหวตมากกว่า 2,800 ครั้ง โดยผู้ใช้บางคนคาดเดาว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นกลวิธีประชาสัมพันธ์ร้านหรือไม่ โดยร้านอาหาร "เซี่ย เหล่า ซ่ง" ให้บริการอาหารจีน เช่น เป็ดปักกิ่ง กุ้งแม่น้ำรสเผ็ด และเกี๊ยว

...

ดูเหมือนว่าจะไม่มีกฎหมายในสิงคโปร์ที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดราคาที่เลือกปฏิบัติโดยพิจารณาจากสัญชาติโดยเฉพาะ ด้านนายยูจีน แทน ทนายความของมหาวิทยาลัยการจัดการสิงคโปร์ กล่าวว่า "โดยทั่วไปแล้วมันคือ "ผู้ซื้อเต็มใจ ผู้ขายเต็มใจ" ผมไม่คิดว่ามันจะผิดกฎหมาย แต่ชัดเจนว่ามันทำให้เกิดคำถามทางจริยธรรม" 

พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (การค้าที่เป็นธรรม) ของสิงคโปร์ระบุว่า ผู้จัดหาสินค้าที่หาประโยชน์จากลูกค้าที่ไม่สามารถปกป้องผลประโยชน์ของตัวเองได้ ถือเป็นการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม หากผู้จัดหาสินค้าปกปิดข้อมูลที่อาจนำไปสู่การหลอกลวงลูกค้า หรือมีการกล่าวอ้างเท็จ ถือเป็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรม อย่างไรก็ตาม กฎหมายไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าการเลือกปฏิบัติโดยพิจารณาจากสัญชาติถือเป็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรม.

ที่มา CNA

อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign