หุ้นสหรัฐฯ ดิ่งแรงหลังเปิดตลาด เอสแอนด์พี 500 เข้าสู่ตลาดหมี ขณะที่โดนัลด์ ทรัมป์ บอกให้ชาวอเมริกันเข้มแข็งและอดทน แล้วความยิ่งใหญ่จะตามมา
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หุ้นวอลล์สตรีทดิ่งลงสู่พื้นที่ “แบร์ มาร์เก็ต” หรือ “ตลาดหมี” หลังเปิดตลาดในช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 7 เม.ย. 2568 เป็นไปในทางเดียวกันกับตลาดโลกท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก
การเข้าสู่พื้นที่แบร์ มาร์เก็ต หมายถึง ดัชนีหุ้นร่วงลงมาหลังจากทำนิวไฮครั้งล่าสุด 20% ซึ่งมันกำลังเกิดขึ้นกับดัชนี เอสแอนด์พี 500 ที่ลดลง 3.4% หลังเปิดตลาด ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 1,200 จุด หรือ 3.2% ส่วนแนสแด็กร่วง 3.96%
เอสแอนด์พี 500 เพิ่งทำนิวไฮใหม่เมื่อไม่ถึง 7 สัปดาห์ก่อน ทำให้นี่เป็นการตกจากจุดพีกลงสู่ตลาดหมีเร็วที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ โดยอันดับที่ 1 เกิดขึ้นในปี 2563 ตอนที่ไวรัสโควิด-19 ระบาดทั่วโลก
ตลาดหุ้นอื่นๆ ทั่วโลกก็ดิ่งแรงเช่นกัน เช่น ดัชนี FTSE 100 ของสหราชอาณาจักร ตกลงสู่ค่าต่ำสุดในรอบ 1 ปี โดยลดลงถึง 4.4% ในช่วงหนึ่งของการซื้อขาย ขณะที่ดัชนี DAX ของเยอรมนีตอนนี้ลดลง 4.7% ฟื้นตัวกลับมาหลังจากตอนเปิดตลาดดิ่งถึง 10% ส่วนดัชนี Cac 40 ของฝรั่งเศส ลดลง 4.7%
อย่างไรก็ตาม โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังคงแสดงความมั่นใจในมาตรการกำแพงภาษีของตัวเองว่าจะส่งผลดีต่อชาวอเมริกัน โดยเขาโพสต์ข้อความใหม่ผ่าน Truth Social ว่า “สหรัฐฯ กำลังมีโอกาสที่จะทำบางสิ่งบางอย่างที่ควรทำตั้งแต่หลายทศวรรษก่อนแล้ว”
นายทรัมป์ยังเรียกร้องชาวอเมริกันไม่ให้ทำตัว “อ่อนแอ” หรือ “โง่เขลา” และเสริมว่า “อย่าเป็นแพนิกัน (PANICAN)” ซึ่งคาดว่าเป็นคำที่สื่อถึงสมาชิกพรรครีพับลิกันที่กังวลเรื่องมาตรการภาษีของนายทรัมป์ โดยก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เคยโจมตีสมาชิกพรรครีพับลิกันที่ต่อต้านนโยบายของเขาว่าเป็นพวก “RINO” หรือ “เป็นรีพับลิกันแค่ชื่อ”
...
นายทรัมป์ปิดท้ายโพสต์ของเขาด้วยว่า “จงเข้มแข็ง, กล้าหาญ และอดทน แล้วผลลัพธ์ที่ตามมาจะเป็นความยิ่งใหญ่”
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : bbc