จำนวนผู้เสียชีวิตในเมียนมาจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อ 28 มี.ค. เพิ่มขึ้นเป็น 3,354 ศพแล้ว ขณะที่สหประชาชาติเรียกร้องให้ทั่วโลกช่วยเหลือชาวเมียนมาจากความเสียหายที่เกิดขึ้น

MRTV สื่อท้องถิ่นของประเทศเมียนมารายงานเมื่อ 5 เม.ย. 2568 ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตในประเทศจากเหตุแผ่นดินไหวระดับ 7.7 ที่เกิดขึ้นเมื่อ 28 มี.ค. เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 3,354 ศพแล้ว พบผู้ได้รับบาดเจ็บประมาณ 4,850 ราย และยังมีผู้สูญหายอีก 220 คน

ขณะเดียวกัน นายทอม เฟลตเชอร์ รองเลขาธิการสหประชาชาติฝ่ายกิจการด้านมนุษยธรรมและผู้ประสานงานบรรเทาทุกข์ฉุกเฉินของสำนักงานประสานงานกิจการมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (OCHA) เดินทางเยือนเมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของเมียนมา และเป็นหนึ่งในจุดที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวมากที่สุด

นายเฟลตเชอร์ได้พบปะกับชุมชนต่างๆ ใกล้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว และในเวลาต่อมาเขาได้โพสต์ข้อความผ่าน X เรียกร้องขอการสนับสนุนจากนานาชาติเพื่อช่วยเหลือเมียนมา

“ความเสียหายกำลังทับถมมากขึ้น ชีวิตมากมายต้องสูญเสียไป บ้านเรือนจำนวนมากถูกทำลาย วิถีชีวิตพังทลาย แต่การฟื้นฟูนั้นน่าเหลือเชื่อ” โพสต์ของนายเฟลตเชอร์ระบุ “โลกต้องช่วยกันหนุนหลังประชาชนของเมียนมา”

ทั้งนี้ ประเทศเพื่อนบ้านของเมียนมาอย่างจีน, อินเดีย และชาติอาเซียนอื่นๆ ต่างร่วมกันส่งเสบียงบรรเทาทุกข์และเจ้าหน้าที่เข้าไปในเมียนมา เพื่อช่วยเหลือในปฏิบัติกู้ภัยในพื้นที่ประสบเหตุแผ่นดินไหวตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ด้านสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้บริจาคเพื่อมนุษยธรรมรายใหญ่ที่สุดของโลกจนถึงเมื่อไม่นานมานี้ ให้คำมั่นว่าจะมอบเงินสนับสนุนจำนวน 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แก่ชุมชนในเมียนมาที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ หลายคนยอมรับว่า การตัดงบประมาณโครงการช่วยเหลือต่างประเทศกำลังส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของพวกเขา

...

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (4 เม.ย.) OCHA กล่าวหารัฐบาลทหารของเมียนมาว่าจำกัดการส่งความช่วยเหลือเข้าสู่ชุมชนที่ไม่ได้ให้การสนับสนุนพวกเขา

OCHA บอกด้วยว่าพวกเขาตรวจสอบรายงานที่ว่า กองทัพรัฐบาลยังคงโจมตีฝ่ายต่อต้านด้วยวิธีต่างๆ รวมถึงโจมตีทางอากาศ หลังเกิดแผ่นดินไหวแล้วถึง 53 กรณี และ 16 กรณีในจำนวนนี้ เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลทหารประกาศหยุดยิงในวันพุธที่ผ่านมา (2 เม.ย.)

ด้าน พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเยือนประเทศไทย เพื่อร่วมการประชุม “บิมสเทค” (BIMSTEC) ยืนยันว่ารัฐบาลของเขาวางแผนจะจัดการเลือกตั้งอย่างเสรีและเป็นธรรมในเดือนธันวาคมปีนี้

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : reuters