ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทสั่นสะเทือน และตลาดการเงินทั่วโลกได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงอย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนนับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 จากความกังวลเกี่ยวกับความเสียหายจากมาตรการภาษีชุดใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทสั่นสะเทือน และตลาดการเงินทั่วโลกได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงอย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนนับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 จากความกังวลเกี่ยวกับความเสียหายจากมาตรการภาษีชุดใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 4.8% มูลค่าลดลงประมาณ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้เศรษฐกิจพังทลายในปี 2020 ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 1,679 จุด หรือ 4% และดัชนี Nasdaq Composite ร่วงลง 6%
ราคาทุกอย่างตั้งแต่ราคาน้ำมันดิบไปจนถึงหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ไปจนถึงมูลค่าของดอลลาร์สหรัฐเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ต่างก็ร่วงลง แม้แต่ทองคำซึ่งพุ่งแตะระดับสูงสุดเมื่อไม่นานนี้ เนื่องจากนักลงทุนกำลังมองหาสิ่งที่ปลอดภัยกว่าในการถือครอง ก็ร่วงลงเช่นกัน บริษัทขนาดเล็กของสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบหนักสุดบางส่วน และดัชนี Russell 2000 ของหุ้นขนาดเล็ก ร่วงลง 6.6% ทำให้ราคาตกต่ำกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 20%
Nike, Apple และ Target เป็นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยหุ้นทั้งหมดร่วงลงมากกว่า 9%
ในการซื้อขายช่วงเช้าวันศุกร์ ดัชนีนิกเกอิ 225 ของญี่ปุ่น ร่วงลง 2.7% และ ASX 200 ของออสเตรเลีย ร่วงลง 1.6% ดัชนี Kospi ในเกาหลีใต้ทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อย ส่วนตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกงปิดทำการเนื่องในเทศกาลเชงเม้ง ก่อนหน้านี้ ดัชนี FTSE 100 ของอังกฤษ ร่วงลง 1.5% และตลาดหุ้นยุโรปอื่นๆ ก็ร่วงลงเช่นกัน
...
บรรดานักลงทุนต่างพากันเทขายหุ้นหนีจากสินทรัพย์เสี่ยง เพื่อแสวงหาความปลอดภัยจากทองคำและพันธบัตรรัฐบาล หลังจากทรัมป์ประกาศกำหนดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าส่วนใหญ่ของสหรัฐฯ ในอัตรา 10% และเรียกเก็บภาษีในอัตราที่สูงกว่าเดิมมากกับประเทศอื่น ๆ อีกหลายสิบประเทศและดินแดนทั่วโลก จนส่งผลกระทบต่อระเบียบการค้าโลก ตอกย้ำให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนจากเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ซึ่งคำมั่นสัญญาเกี่ยวกับนโยบายที่เอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจภายใต้รัฐบาลทรัมป์ในช่วงก่อนเข้ารับตำแหน่ง ได้ส่งผลให้หุ้นสหรัฐฯ พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์
ด้านทรัมป์ กล่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 3 เม.ย. ว่า "ผมคิดว่ามันกำลังไปได้สวย มันเป็นปฏิบัติการที่เหมือนกับการผ่าตัดคนไข้ และมันเป็นเรื่องใหญ่มาก ผมบอกไปแล้วว่ามันจะเป็นแบบนี้จริงๆ" เขาเสริมว่า "ตลาดจะเฟื่องฟู หุ้นจะเฟื่องฟู ประเทศจะเฟื่องฟู".
อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign