สหภาพยุโรปออกคำแนะนำใหม่ เตือนพลเรือนให้เตรียมเสบียงอาหารให้พอใช้อย่างน้อย 3 วันเผื่อเกิดวิกฤต ท่ามกลางความไม่แน่นอนในภูมิภาคและในโลก
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปออกคำแนะนำใหม่ในวันพุธที่ 26 มี.ค. 2568 เตือนให้ประชาชนของพวกเขาควรกักตุนเสบียงและของใช้จำเป็นให้พอใช้งานเป็นเวลา 72 ชั่วโมงเผื่อเกิดกรณีวิกฤต และย้ำด้วยว่า ยุโรปควรเปลี่ยนวิธีคิดเพื่อสร้างวัฒนธรรมการ “เตรียมพร้อม” และ “ยืดหยุ่น”
รายงานยุทธศาสตร์สหภาพเพื่อการเตรียมความพร้อมความยาว 18 หน้า เตือนว่า ยุโรปกำลังเผชิญกับความเป็นจริงรูปแบบใหม่ ที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงและความไม่แน่นอน โดยมีการทำสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน, ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น, การก่อวินาศกรรมโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ และสงครามทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นปัจจัยสำคัญ
ประชาชนทั่วทั้งทวีปควรมีมาตรการเชิงปฏิบัติเพื่อรับประกันว่า พวกเขาจะพร้อมในกรณีเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งความพร้อมดังกล่าวรวมถึง การมีเสบียงที่จำเป็นเพียงพอเป็นเวลาอย่างน้อย 3 วัน เผื่อเกิดกรณีการหยุดชะงักขั้นสุด ซึ่งจะเกิดขึ้นเป็นสิ่งแรกในสถานการณ์วิกฤตส่วนใหญ่ และประชาชนควรได้รับการสนับสนุนให้มีแนวคิดพึ่งพาตนเอง และยืดหยุ่น
คำเตือนดังกล่าวดูเหมือนจะมีจุดประสงค์เพื่อปลุกให้ชาติสมาชิกสหภาพยุโรปตระหนักถึงสถานการณ์ความมั่นคงของ EU
ภัยคุกคามจากรัสเซียที่เกิดขึ้นอย่างไม่หยุดยั้งทำให้ผู้นำชาติยุโรปหลายคนออกมาเน้นย้ำความจำเป็นที่จะต้องเตรียมความพร้อมเพื่อทำสงคราม ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ใช้วิธีการเผชิญหน้ากับยุโรป โดยเฉพาะในเรื่องงบประมาณของนาโต และการช่วยเหลือยูเครน ทำให้ชาติยุโรปเริ่มแข่งขันเตรียมความพร้อมทางทหารของตัวเอง
...
ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวยังเรียกร้องให้เพิ่มการสอนบทเรียนเรื่อง “การเตรียมพร้อม” ในหลักสูตรของโรงเรียนด้วย รวมถึงสอนทักษะให้นักเรียนสามารถต่อสู้กับข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงหรือถูกบิดเบือนได้
“ความเป็นจริงใหม่ทำให้ต้องมีการเตรียมความพร้อมในระดับใหม่ในยุโรป” นางเออร์ซูลา วอน แดร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ระบุในแถลงการณ์ “พลเรือนของเรา ชาติสมาชิกของเรา และธุรกิจของเรา จำเป็นต้องมีเครื่องมือที่ถูกต้องเพื่อการป้องกันวิกฤตและมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรวดเร็วเมื่อหายนะมาเยือน”
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : cnn