เอ็ดดี จอร์แดน อดีตเจ้าของทีม F1 ผู้ทรงอิทธิพลในวงการรถสูตร 1 เสียชีวิตแล้วขณะมีอายุได้ 76 ปี หลังต่อสู้กับโรคมะเร็งมาระยะหนึ่ง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานในวันพฤหัสบดีที่ 20 มี.ค. 2568 ว่า นายเอ็ดดี จอร์แดน อดีตบอสทีมฟอร์มูลา วัน ผู้เป็นบุคคลสำคัญในวงการรถสูตร 1 เสียชีวิตแล้วขณะมีอายุได้ 76 ปี หลังต่อสู้กับมะเร็งหลายจุดมานานกว่า 1 ปี

นายจอร์แดนเปิดเผยเรื่องที่เขาเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะกับมะเร็งต่อมลูกหมาก เมื่อเดือนธันวาคม 2567 ซึ่งแพทย์ตรวจพบมะเร็งในช่วงต้นปีเดียวกันนี้

นายเดวิด โคลต์ฮาร์ด อดีตนักแข่ง F1 และพิธีกรร่วมรายการพ็อดแคสต์ “Formula For Success” เปิดเผยว่า มะเร็งของจอร์แดนลุกลามเข้าสู่สันหลังกับกระดูกเชิงกรานแล้ว และลุกลามอย่างรวดเร็วมาก

ขณะเดียวกัน แถลงการณ์จากทีมงานกับครอบครัวของจอร์แดนระบุว่า “เป็นเรื่องน่าเศร้าเสียใจอย่างที่สุดที่เราต้องประกาศข่าวการจากไปของ เอ็ดดี จอร์แดน อดีตเจ้าของทีมฟอร์มูลาวัน, นักวิเคราะห์ของรายการโทรทัศน์ และนักธุรกิจ”

“เขาจากไปอย่างสงบโดยมีครอบครัวอยู่เคียงข้าง ที่เมืองเคปทาวน์ เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 20 มี.ค. 2568 ขณะมีอายุ 76 ปี เราทุกคนเหมือนมีรูโหว่ขนาดใหญ่อยู่ในใจจากการที่ไม่มีเขาอยู่ด้วยแล้ว เขาจะเป็นที่คิดถึงของคนมากมาย แต่เขาก็ทิ้งความทรงจำอันยอดเยี่ยมไว้ให้พวกเรามากมาย ทำให้เรายิ้มผ่านความโศกเศร้าของเราได้”

ทั้งนี้ เอ็ดดี จอร์แดน เกิดเมื่อ 30 มี.ค. 2491 เคยเข้าร่วมการแข่งขันมอเตอร์เรซซิ่ง จูเนียร์ซีรีส์ ก่อนจะผันตัวมาเป็นผู้จัดการนักขับ ตามด้วยตำแหน่งเจ้าของทีม จากนั้นเขาก่อตั้งทีม “จอร์แดน กรังด์ปรีซ์” ในปี 2534 คว้าชัยชนะการแข่งขัน 4 ครั้งก่อนที่ทีมจะถูกขายออกไปในปี 2545

...

ทีมของจอร์แดนถือว่ามีความสำคัญมากสำหรับวงการรถสูตร 1 เนื่องจากเป็นผู้สร้างหรือจุดเริ่มต้นของตำนานหลายๆ คน รวมถึง มิชาเอล ชูมัคเกอร์ แชมป์โลกการแข่งขันฟอร์มูลาวัน 7 สมัย ก็เปิดตัวกับทีมของจอร์แดน นอกจากนั้น ราล์ฟ ชูมัคเกอร์ ผู้เป็นน้องชายก็เคยแข่งขันให้กับทีมระหว่างปี 2540-2541

นอกจากนั้น เดมอน ฮิลล์ แชมป์โลกปี 2539 กับทีมวิลเลียมส์ ก็เข้าร่วมทีมของจอร์แดนและเป็นกำลังสำคัญในการแข่งขันปี 2541 ก่อนที่เขาจะแขวนพวงมาลัยในปีถัดไป

จอร์แดนยังเป็นผู้มีอิทธิพลอย่างสูงในวงการฟอร์มูลาวัน และนำองค์ประกอบต่างๆ เข้ามาในการแข่งขันเพื่อเพิ่มความสนุกเร้าใจ

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : espn