ผู้ใช้ TikTok ในสหรัฐฯ เริ่มหันไปใช้แอปพลิเคชันจีนชื่อ "เรดโน้ต" (RedNote) หลังมีแนวโน้มว่า TikTok จะถูกทางการสหรัฐฯ แบนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ผู้ใช้ TikTok ในสหรัฐฯ เริ่มหันไปใช้แอปพลิเคชันจีนชื่อ "เรดโน้ต" (RedNote) หลังมีแนวโน้มว่า TikTok จะถูกทางการสหรัฐฯ แบนในอีกไม่กี่วันข้างหน้าการเคลื่อนไหวของผู้ใช้ที่เรียกตัวเองว่า "ผู้ลี้ภัย TikTok" ทำให้เรดโน้ต กลายเป็นแอปที่ถูกดาวน์โหลดมากที่สุดบนแอปสโตร์ ของแอปเปิล ในสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ (13 ม.ค.)

เรดโน้ต เป็นคู่แข่งของ TikTok ที่ได้รับความนิยมในหมู่คนหนุ่มสาวในจีน ไต้หวัน และประชากรที่พูดภาษาจีนกลางอื่นๆ แอปนี้มีผู้ใช้ประมาณ 300 ล้านคนต่อเดือน ที่มีลักษณะเป็นการผสมผสานระหว่าง TikTok และ Instagram โดยอนุญาตให้ผู้ใช้ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงอายุน้อยที่อาศัยในเมือง สามารถแลกเปลี่ยนเคล็ดลับการใช้ชีวิต ตั้งแต่การออกเดทไปจนถึงแฟชั่น

ผู้พิพากษาศาลฎีกามีกำหนดตัดสินกฎหมายที่กำหนดเส้นตายในวันที่ 19 มกราคมให้ TikTok ต้องขายกิจการในสหรัฐฯ มิฉะนั้นจะถูกแบนในประเทศ ด้าน TikTok กล่าวหลายครั้งว่าจะไม่ขายกิจการในสหรัฐฯ และทนายความของ TikTok ได้เตือนว่าการแบนจะละเมิดการคุ้มครองเสรีภาพในการพูดสำหรับผู้ใช้กว่า 170 ล้านคนในสหรัฐฯ

ขณะเดียวกัน เรดโน้ตก็ยินดีต้อนรับผู้ใช้รายใหม่ โดยมีโพสต์ 63,000 โพสต์ในหัวข้อ "ผู้ลี้ภัย TikTok" ซึ่งผู้ใช้ใหม่จะได้เรียนรู้วิธีใช้งานแอปและวลีภาษาจีนพื้นฐาน

อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับ TikTok มีรายงานการเซ็นเซอร์เนื้อหาในเรดโน้ต หากพบการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลจีน ในไต้หวัน เจ้าหน้าที่ของรัฐถูกจำกัดไม่ให้ใช้เรดโน้ต เนื่องจากซอฟต์แวร์ของจีนมีความเสี่ยงต่อความปลอดภัย

...

ขณะที่ผู้ใช้ชาวอเมริกันเข้าร่วมเรดโน้ตมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้ใช้ชาวจีนบางคนยังเรียกตัวเองเล่นๆ ว่า "สายลับจีน" ซึ่งเป็นการอ้างถึงความกังวลของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ว่าจีนอาจใช้ TikTok เป็นเครื่องมือสอดส่องและบงการทางการเมือง

ชื่อภาษาจีนของเรดโน้ต คือ Xiaohongshu (เสี่ยว หง ชู) แปลว่าหนังสือปกแดงเล่มเล็ก แต่แอประบุว่าไม่ใช่การอ้างอิงถึงหนังสือคำคมของเหมาเจ๋อตุง ผู้นำคอมมิวนิสต์จีนที่ใช้ชื่อเดียวกัน

ทั้งนี้ แม้ว่าการแบนจะไม่ทำให้ TikTok หายไปในทันที แต่จะทำให้แอปสโตร์ต้องหยุดการเสนอแอป ซึ่งอาจทำให้ TikTok หายไปในที่สุด และแม้ว่า TikTok จะหลบเลี่ยงการแบนได้ แต่ก็อาจช่วยอะไรไม่ได้หากผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์มอื่น.

ที่มา  BBC

อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign