- นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามอภัยโทษให้แก่นายฮันเตอร์ ไบเดน บุตรชายของเขาที่กำลังเผชิญคดีความผิดฐานครอบครองอาวุธปืนและภาษี แม้ว่าก่อนหน้านี้ เขา เคยให้คำมั่นว่าจะไม่ใช้สิทธิพิเศษของประธานาธิบดีในการอภัยโทษให้แก่ลูกชายก็ตาม
- การประกาศอภัยโทษลูกชายนายไบเดน เกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่ฮันเตอร์ ไบเดน จะต้องเข้าฟังการพิพากษาโทษจากความผิดทางอาญาหลายกระทงที่เกี่ยวข้องกับการให้ถ้อยคำอันเป็นเท็จเกี่ยวกับการใช้ยาเสพติดระหว่างการตรวจสอบประวัติอาวุธปืน และการไม่จ่ายภาษีอย่างน้อย 1.4 ล้านดอลลาร์
- การตัดสินใจของประธานาธิบดีที่กำลังจะพ้นตำแหน่งมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดการถกเถียงเกี่ยวกับความเป็นอิสระของระบบยุติธรรมของสหรัฐฯ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ตั้งใจที่จะแต่งตั้งคนสนิทที่ภักดีกับเขามาคุมหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเพื่อโจมตีคู่แข่งทางการเมืองของเขา
นายฮันเตอร์ ไบเดน บุตรชายของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานครอบครองปืนอย่างผิดกฎหมาย และให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการใช้ยาเสพติดระหว่างการซื้อปืน ซึ่งอาจนำไปสู่โทษจำคุก โดยเขากลายเป็นบุตรของผู้นำสหรัฐฯ ที่ยังดำรงตำแหน่งคนแรกที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีอาญาของรัฐบาลกลาง นอกจากนี้
เมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ฮันเตอร์วัย 54 ปีเกือบจะสามารถหลีกเลี่ยงโทษจำคุกผ่านข้อตกลงกับอัยการ แต่ข้อตกลงนั้นกลับล่มในศาล ทำให้อัยการที่ทำคดีนี้ไปยื่นฟ้องเขาในข้อหาครอบครองปืน
ในเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ฮันเตอร์ถูกตั้งข้อหาอีกครั้งในคดีที่ระบุว่าเขาไม่จ่ายภาษีรัฐบาลกลางอย่างน้อย 1.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ระหว่างปี 2016-2019
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ออกแถลงการณ์ระบุว่า ฮันเตอร์ ไบเดน ลูกชายของเขาตกเป็นเป้าหมายทางการเมือง และถูกดำเนินคดีอย่างเลือกปฏิบัติและไม่เป็นธรรม เพียงเพราะนามสกุล "ไบเดน" ของเขา โดยมีความพยายามในการทำลายฮันเตอร์ ซึ่งเลิกเหล้ามาได้ 5 ปีครึ่งแล้ว ทำให้เขาต้องเผชิญกับการโจมตีอย่างต่อเนื่องและการดำเนินคดีที่เลือกปฏิบัติ
...
ไบเดนยังกล่าวว่าตลอดอาชีพการงานของเขา เขายึดถือหลักการในการบอกความจริงต่อสาธารณะโดยเชื่อว่าคนอเมริกันมีจิตใจที่ยุติธรรม และหวังว่าคนอเมริกันจะเข้าใจว่าทำไมเขาถึงตัดสินใจแบบนี้
ความวุ่นวายในชีวิตส่วนตัว
ชีวิตส่วนตัวของฮันเตอร์ถูกเปิดเผยต่อสาธารณชน รวมถึงปัญหาการติดสุราและยาเสพติด รวมถึงปัญหาชีวิตสมรส เขาเคยแต่งงานกับแคธลีน บุห์ล ทนายความในปี 1993 และมีลูกด้วยกัน 3 คน ก่อนจะหย่าร้างในปี 2017 โดยอดีตภรรยาของเขาเคยกล่าวหาว่า เขาใช้เงินไปกับยาเสพติด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และความสัมพันธ์นอกสมรส
หลังจากการหย่าร้างกับแคธลีน บุห์ล ฮันเตอร์เริ่มความสัมพันธ์กับฮัลลี่ ไบเดน ภรรยาหม้ายของโบ ไบเดน พี่ชายที่เสียชีวิตไป ความสัมพันธ์นี้กินเวลา 2 ปี โดยทั้งคู่กล่าวว่าพวกเขาเชื่อมโยงกันจากความเศร้าโศกที่คล้ายคลึงกันจากการสูญเสียโบ
ฮันเตอร์ยังเคยถูกปลดจากกองทัพเรือสหรัฐฯ หลังตรวจพบสารโคเคนในวันแรกที่เริ่มงานในฐานะนายทหารสำรอง
ในระหว่างการพิจารณาคดีที่เดลาแวร์ ฮัลลี่ให้การว่า ฮันเตอร์ใช้โคเคนอย่างหนักและมักอยู่ในสภาพตึงเครียด เธอเล่าว่าได้พบปืนและกระสุนในรถของเขา หลังจากที่ต้องทำความสะอาดซากยาเสพติดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยความกังวลว่าเขาอาจทำร้ายตัวเองหรือเด็กๆ เธอจึงโยนปืนลงในถังขยะ
ชีวิตที่เต็มไปด้วยความสูญเสีย
ฮันเตอร์เกิดในปี 1970 และต้องประสบกับโศกนาฏกรรมตั้งแต่เด็ก เมื่ออายุเพียง 2 ขวบ แม่และน้องสาวของเขาเสียชีวิตในอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้เขาและพี่ชายโบ ไบเดน ต้องเติบโตมาในครอบครัวที่เต็มไปด้วยความสูญเสีย
ชีวิตที่ซับซ้อนของฮันเตอร์ยังรวมถึงคดีฟ้องร้องเรื่องความเป็นพ่อของลูกที่เกิดจากผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งต่อมาเขายอมรับว่าเป็นบิดาและจ่ายเงินค่าเลี้ยงดู
การสืบสวนของพรรครีพับลิกัน
พรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสได้เปิดการไต่สวนเพื่อหาข้อมูลว่าฮันเตอร์อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้ตำแหน่งของบิดาแสวงหาผลประโยชน์ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานที่ชี้ให้เห็นถึงการกระทำผิดของเขาหรือประธานาธิบดีโจ ไบเดน
ข่าวนี้เผยให้เห็นถึงชีวิตที่เต็มไปด้วยปัญหาและการต่อสู้ส่วนตัวของฮันเตอร์ ไบเดน ซึ่งสะท้อนถึงแรงกดดันที่ครอบครัวผู้นำประเทศต้องเผชิญในสังคมอเมริกัน
ข้อกล่าวหาเรื่องการซื้อปืน
ฮันเตอร์ซื้อปืนในปี 2018 เพียง 2 เดือนหลังออกจากสถานบำบัดยาเสพจติด โดยทีมกฎหมายของเขาอ้างว่าเป็นการตัดสินใจแบบกระทันหันเพราะแรงกดดันจากเจ้าของร้านอาวุธ อย่างไรก็ตาม อัยการระบุว่าเขาให้ข้อมูลเท็จในแบบฟอร์มการซื้อปืน โดยให้ข้อมูลไปว่าเขาไม่ได้ใช้ยาเสพติดในช่วงเวลานั้น
...
การต่อสู้กับการติดยาเสพติด
ฮันเตอร์เปิดเผยถึงการต่อสู้กับการติดยาเสพติดในปี 2019 โดยยอมรับว่า การติดยาของเขาไม่ได้หายไป แต่เขาต้องหาวิธีอยู่กับมัน ขณะที่ในหนังสือบันทึกชีวิต Beautiful Things เขาเล่าว่าความรักและการสนับสนุนจากครอบครัวช่วยให้เขาผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดไปได้
การสนับสนุนจากพ่อผู้เป็นประธานาธิบดี
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยืนหยัดเคียงข้างลูกชายหลายครั้ง รวมถึงระหว่างการดีเบตประธานาธิบดีกับโดนัลด์ ทรัมป์ในปี 2020 อย่างไรก็ตาม เขากล่าวอย่างชัดเจนว่า หากฮันเตอร์ถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีนี้หรือคดีอื่นในอนาคต เขาจะไม่ได้รับการอภัยโทษ
ไบเดนกล่าวว่า เขาเป็นประธานาธิบดี แต่เขาก็เป็นพ่อคนด้วย เขาและภรรยารักลูกชายมาก และภูมิใจในตัวเขา โดยเรื่องราวของฮันเตอร์ ไบเดน สะท้อนให้เห็นถึงชีวิตที่ซับซ้อนและผลกระทบของความสัมพันธ์ส่วนตัวต่อชีวิตสาธารณะของครอบครัวผู้นำประเทศ