• ผลการเลือกตั้งในสหรัฐฯ 2024 บางครั้งประกาศภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากปิดหีบเลือกตั้ง หรืออาจจะรู้ผลวันถัดมา แต่การแข่งขันที่สูสีกันในปีนี้อาจทำให้ต้องรอนานขึ้น
  • ในกรณีที่มีการร้องเรียนเรื่องผลการเลือกตั้ง ผลสรุปอาจล่วงเลยถึงต้นเดือนธันวาคม อย่างในปี 2000 ระหว่างนายอัล กอร์ และนายจอร์จ ดับเบิลยู บุช ที่ต้องรอศาลสูงมีคำตัดสินให้ยุติการนับคะแนนใหม่

จะทราบผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2024 เมื่อไหร่?

ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีบางครั้ง ผู้ชนะจะได้รับการประกาศในช่วงดึกของคืนวันเลือกตั้ง หรือในเช้าตรู่ของวันถัดไป อย่างไรก็ตาม การแข่งขันที่สูสีในหลายรัฐครั้งนี้อาจทำให้สื่อต้องรอนานขึ้นกว่าจะคาดการณ์ได้ว่าใครชนะ

คามาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต ซึ่งดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน และโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นอดีตประธานาธิบดี ต่างก็มีคะแนนสูสีกันมาหลายสัปดาห์
ชัยชนะที่เฉียดฉิวอาจนำไปสู่การนับคะแนนใหม่ได้ ตัวอย่างเช่น ในรัฐเพนซิลเวเนียซึ่งเป็นรัฐสวิงสเตทสำคัญ จะต้องมีการนับคะแนนใหม่ทั่วทั้งรัฐ หากผลต่างคะแนนระหว่างผู้ชนะและผู้แพ้น้อยกว่าครึ่งเปอร์เซ็นต์ เหมือนในปี 2020 ที่ผลต่างคะแนนอยู่ที่ประมาณ 1.1 เปอร์เซ็นต์

การฟ้องร้องทางกฎหมายก็เป็นเหตุปัจจัยทำให้การประกาศผลเลือกตั้งล่าช้าเช่นกัน ขณะนี้มีการยื่นฟ้องคดีมากกว่า 100 คดีก่อนการเลือกตั้งแล้ว รวมถึงการร้องเรียนเรื่องคุณสมบัติของผู้มีสิทธิเลือกตั้งและการจัดการรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โดยพรรครีพับลิกัน

นอกจากนี้ ยังมีสถานการณ์อื่น ๆ ที่อาจทำให้เกิดความล่าช้าได้ เช่น เหตุความไม่สงบที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง โดยเฉพาะในสถานที่ลงคะแนนเสียง

...

ในทางกลับกัน การนับคะแนนได้รับการเร่งให้เร็วขึ้นในบางพื้นที่ รวมถึงรัฐสำคัญอย่างมิชิแกน และคาดว่าจะมีการลงคะแนนทางไปรษณีย์น้อยกว่าการเลือกตั้งครั้งที่แล้วซึ่งเกิดขึ้นในช่วงการระบาดของโควิดอย่างมาก

ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีในอดีตประกาศในวันไหน?

การเลือกตั้งปี 2020 จัดขึ้นในวันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน อย่างไรก็ตาม สถานีโทรทัศน์ในสหรัฐฯ ยังไม่ประกาศว่าโจ ไบเดนเป็นผู้ชนะจนกระทั่งช่วงสายของวันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน หลังจากผลในรัฐเพนซิลเวเนียชัดเจนมากขึ้น

ขณะที่ในการเลือกตั้งครั้งอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ รอผลไม่นานนัก โดยในปี 2016 เมื่อทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง เขาถูกประกาศเป็นผู้ชนะในเวลาไม่นานก่อน 03:00 น. ของวันถัดจากวันเลือกตั้ง ส่วนในปี 2012 เมื่อบารัค โอบามาชนะการเลือกตั้งดำรงตำแหน่งสมัยที่สอง ผลการเลือกตั้งของเขาถูกคาดการณ์ไว้ก่อนเที่ยงคืนของวันเลือกตั้ง

อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งปี 2000 ระหว่างจอร์จ ดับเบิลยู บุช และอัล กอร์ เป็นข้อยกเว้น โดยการเลือกตั้งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน แต่ทั้งสองฝ่ายต้องต่อสู้กันอย่างดุเดือดในรัฐฟลอริดา และการแข่งขันยังไม่ได้ข้อสรุปจนถึงวันที่ 12 ธันวาคม เมื่อศาลสูงสหรัฐฯ ลงมติยุติกระบวนการนับคะแนนใหม่ในรัฐ ทำให้บุชยังคงเป็นผู้ชนะและได้รับตำแหน่งประธานาธิบดีไปครอง

รัฐสำคัญที่ควรจับตาในการเลือกตั้งปี 2024 มีอะไรบ้าง?

ทั่วสหรัฐฯ จะเริ่มปิดหีบลงคะแนนตั้งแต่เวลา 18:00 น.ในคืนวันอังคาร และปิดหีบครั้งสุดท้ายในเวลา 01:00 น.เช้ามืดวันพุธ

การนับคะแนนในช่วงแรกอาจมีแนวโน้มไปทางพรรครีพับลิกันในบางรัฐ ซึ่งในปีที่ผ่าน ๆ มาถูกเรียกว่า "ภาพลวงตาสีแดง" (red mirage) เนื่องจากเขตที่มีจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งน้อยจะนับคะแนนเสร็จก่อนขณะที่เมืองใหญ่ที่มักมีแนวโน้มเลือกพรรคเดโมแครต

อย่างไรก็ตาม การแข่งขันครั้งนี้คาดว่าจะขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้งจาก 7 รัฐสวิงสเตท ที่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามีโอกาสที่แฮร์ริสหรือทรัมป์จะชนะ ได้แก่ แอริโซนา จอร์เจีย มิชิแกน เนวาดา นอร์ทแคโรไลนา เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน

19:00 น.ตามเวลาท้องถิ่น  จะเป็นเวลาปิดหีบในจอร์เจียและอีกห้ารัฐ รวมถึงบางส่วนในอีกสองรัฐ ช่วงเวลานี้ สถานีโทรทัศน์สหรัฐฯ อาจเริ่มคาดการณ์ผู้ชนะในรัฐที่แข่งขันน้อยกว่า เช่น เคนตักกี้
19:30 น.ตามเวลาท้องถิ่น จะเริ่มปิดหีบใน 3 รัฐ รวมถึงนอร์ทแคโรไลนา เมื่อเริ่มทราบผลจากนอร์ทแคโรไลนาและจอร์เจีย อาจเริ่มเห็นภาพว่าใครทำผลงานได้ดีกว่า แต่ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปแนวโน้มระดับชาติ
20:00 น.ตามเวลาท้องถิ่น จะปิดหีบในเพนซิลเวเนีย 15 รัฐอื่น ๆ และเขตโคลัมเบีย รวมถึงบางส่วนในมิชิแกนและอีก 4 รัฐ คาดว่าเจ้าหน้าที่การเลือกตั้งจอร์เจียจะนับคะแนนได้ประมาณ 75% 
21:00 น.ตามเวลาท้องถิ่น  สิ้นสุดการลงคะแนนในแอริโซนา วิสคอนซิน และอีก 12 รัฐ รวมถึงปิดหีบที่เหลือในมิชิแกน มิชิแกนอนุญาตให้เจ้าหน้าที่เริ่มนับคะแนนหนึ่งสัปดาห์ก่อนวันเลือกตั้ง แต่ไม่อนุญาตให้เปิดเผยผลจนกว่าจะปิดหีบ ขณะที่เพนซิลเวเนียและวิสคอนซินไม่อนุญาตให้นับคะแนนก่อนเริ่มการลงคะแนนที่คูหา ทำให้คาดว่าจะเกิดความล่าช้าในการรายงานผลจากรัฐเหล่านี้
22:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น จะปิดหีบในเนวาดาและอีก 2 รัฐ รวมถึงบางส่วนในอีก 2 รัฐ การนับคะแนนในเนวาดาอาจใช้เวลาหลายวัน เนื่องจากรัฐอนุญาตให้นับคะแนนทางไปรษณีย์ได้หากส่งในวันเลือกตั้งและมาถึงไม่เกินวันที่ 9 พฤศจิกายน ซึ่งโดยปกติ บัตรเลือกตั้งที่ขาดและบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์ รวมถึงคะแนนเสียงจากสมาชิกทหารและชาวอเมริกันที่อาศัยอยู่ต่างประเทศ มักจะเป็นคะแนนเสียงชุดสุดท้ายที่นับ

...

ขั้นตอนการนับคะแนนเป็นอย่างไร?

โดยปกติแล้ว คะแนนเสียงที่ลงในวันเลือกตั้งจะถูกนับก่อน ตามด้วยบัตรเลือกตั้งที่ลงคะแนนล่วงหน้าและบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์ จากนั้นเป็นบัตรเลือกตั้งที่มีปัญหาร้องเรียน และสุดท้ายคือบัตรเลือกตั้งจากต่างประเทศและทหาร

เจ้าหน้าที่การเลือกตั้งในท้องถิ่นจะตรวจสอบ ประมวลผล และนับคะแนนเสียงแต่ละใบ โดยในกระบวนการตรวจสอบบัตรเลือกตั้ง จะรวมถึงการเปรียบเทียบจำนวนคะแนนเสียงที่ลงกับจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ยังคงมีสถานะ การเอาบัตรเลือกตั้งออกมาเปิดออกและตรวจสอบแต่ละใบเพื่อหาการฉีกขาด รอยเปื้อน หรือความเสียหายอื่น ๆ และการบันทึกและตรวจสอบความไม่สอดคล้องกัน

จากนั้นจะเป็นการนับบัตรเลือกตั้ง โดยจะป้อนบัตรเลือกตั้งแต่ละใบลงในเครื่องสแกนไฟฟ้าที่จะนับผลคะแนนเสียง แต่บางสถานการณ์อาจต้องใช้การนับคะแนนด้วยมือหรือการตรวจสอบซ้ำ ซึ่งแต่ละรัฐและเขตจะมีข้อกำหนดที่เข้มงวดเกี่ยวกับว่าใครสามารถเข้าร่วมในการตรวจสอบ คะแนนเสียงจะถูกประมวลผลในลำดับใด และส่วนใดที่เปิดให้ประชาชนได้ดู รวมถึงวิธีการที่ผู้สังเกตการณ์จากพรรคการเมืองสามารถตรวจสอบและแทรกแซงการนับคะแนนเสียงได้

...

จะเกิดอะไรขึ้นหากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีถูกร้องเรียน?

เมื่อคะแนนเสียงที่ถูกต้องทั้งหมดถูกรวมอยู่ในผลสุดท้ายแล้ว กระบวนการที่เรียกว่าคณะผู้เลือกตั้ง (electoral college) จะเริ่มทำงาน ในแต่ละรัฐจะมีจำนวนคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งที่แตกต่างกันและคะแนนเหล่านี้คือการตัดสินว่าใครจะชนะตำแหน่งประธานาธิบดีในที่สุด

โดยทั่วไป รัฐจะมอบคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งทั้งหมดให้กับผู้ที่ชนะคะแนนป๊อบปูลาร์โหวตจากประชาชน ซึ่งจะได้รับการยืนยันหลังจากการประชุมในวันที่ 17 ธันวาคม จากนั้นรัฐสภาสหรัฐฯ ใหม่จะประชุมในวันที่ 6 มกราคมเพื่อนับคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งและรับรองประธานาธิบดีคนใหม่

แต่บางครั้งก็เกิดปัญหาที่ผู้สมัครไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง อย่างในปี 2020 ทรัมป์ปฏิเสธที่จะยอมรับผลและได้เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนเดินขบวนไปยังอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ขณะที่รัฐสภากำลังประชุมเพื่อรับรองชัยชนะของไบเดน จนกลายเป็นเหตุจลาจลวุ่นวายในรัฐสภา แม้หลังจากการจลาจลถูกเคลียร์และสมาชิกสภาคองเกรสได้กลับมาประชุมอีกครั้ง แต่สมาชิกพรรครีพับลิกัน 147 คนได้ลงคะแนนเสียงเพื่อ พยายามทำให้ความพ่ายแพ้ของทรัมป์เป็นโมฆะ

การปฏิรูปการเลือกตั้งตั้งแต่ครั้งนั้น ได้ทำให้การคัดค้านผลการเลือกตั้งทำได้ยากขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้รองประธานาธิบดีไม่มีอำนาจในการปฏิเสธคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งฝ่ายเดียวได้

อย่างไรก็ตาม ผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งคาดว่าความพยายามในการเลื่อนการรับรองผลการเลือกตั้งในปี 2024 อาจเกิดขึ้นที่ระดับท้องถิ่นและรัฐ เนื่องจากทรัมป์ และเจดี แวนซ์ ผู้สมัครชิงรองประธานาธิบดีของเขา เคยพูดเป็นนัยบ่อยครั้งว่าจะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งหากเขาแพ้

วันสาบานตนของประธานาธิบดีจะเป็นเมื่อใด?

...

ประธานาธิบดีที่ชนะการเลือกตั้งจะเริ่มต้นวาระในตำแหน่ง หลังจากการสาบานตนในวันจันทร์ที่ 20 มกราคม 2025 โดยครั้งนี้จะเป็นการสาบานตนครั้งที่ 60 ในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ
โดยในงานนี้ ประธานาธิบดีคนใหม่จะต้องสาบานที่จะปฏิบัติหน้าที่ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และจะรักษา ปกป้อง และพิทักษ์รัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐอเมริกาอย่างดีที่สุด ก่อนที่จะกล่าวสุนทรพจน์ครั้งแรกในฐานะประธานาธิบดีของสหรัฐฯอย่างเป็นทางการ.

ผู้เขียน : อาจุมมาโอปอล

ที่มา :BBC , CNN

ข่าวและบทความน่าสนใจ เลือกตั้งสหรัฐฯ 2024