ดร.ลี เว่ยหลิง ลูกสาวของ ลี กวนยู อดีตนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศสิงคโปร์ ถึงแก่กรรมแล้วขณะมีอายุ 69 ปี หลังป่วยโรค PSP
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ดร.ลี เว่ยหลิง ลูกสาวของ ลี กวนยู อดีตนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศสิงคโปร์ ถึงแก่กรรมแล้ว เมื่อวันพุธที่ 9 ต.ค. 2567 ขณะมีอายุได้ 69 ปี โดยนาย ลี เซียนยาง ผู้เป็นน้องชาย เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า เธอเสียชีวิตที่บ้านของครอบครัว
โพสต์ของนายลี เซียนยาง ระบุว่า พีธีศพจะถูกจัดขึ้นที่ หอไข่มุกและไพลินของ “Singapore Casket” บนถนนลาเวนเดอร์ 131 ตั้งแต่วันพฤหัสบดี ที่ 10 ต.ค. ไปจนถึงวันเสาร์ที่ 12 ต.ค. โดยจะเปิดให้ประชาชนเข้าเยี่ยมไว้อาลัยระหว่างเวลา 14.00 น.ถึง 22.00 น. วันพฤหัสบดี, 10.00 น.ถึง 22.00 น. วันศุกร์ และ 10.00 น.ถึง 13.00 น. วันเสาร์
ด้านนาย ลี เซียนลุง อดีตนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ และพี่ชายของ ดร.ลี เว่ยหลิง โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า “ผมจะคิดถึงหลิงอย่างมากมาย ขอให้เธอหลับอย่างสงบ”
ทั้งนี้ นายลี เซียนลุง ยกย่องน้องสาวว่า เป็นเพื่อนผู้ซื่อสัตย์และดุดัน ผู้ที่เข้าอกเข้าใจผู้ด้อยโอกาสโดยสัญชาตญาณ และจะลงมือทำอะไรบางอย่างเมื่อเธอเห็นความอยุติธรรม หรือสงสัยว่ากระทำผิด
ซึ่ง ดร.ลีก็ตระหนักคุณสมบัตินี้ของตัวเองดี โดยระหว่างงานระดมทุนในปี 2546 เพื่อหาที่หลบภัยให้แก่เด็กหญิงวัยรุ่นที่กำลังลำบาก ดร.ลี ซึ่งตอนนั้นมีอายุ 48 ปี กล่าวว่า เธอจะต่อสู้เพื่อผู้ด้อยโอกาสเสมอ
ดร.ลีรู้ตัวว่า เธอมีวัยเด็กที่ได้รับสิทธิพิเศษมากกว่าคนอื่น “ฉันมีแม่บ้านและคนขับรถหลายคน แต่เราถูกเลี้ยงดูมาให้รู้จักว่าความยากจนเป็นอย่างไร” เธอระบุในบทความเมื่อปี 2546 “เราปิดน้ำเพื่อไม่ให้สิ้นเปลือง เราปิดไฟปิดพัดลมก่อนออกจากห้อง คุณอย่าใช้น้ำสิ้นเปลือง คุณอย่าใช้ไฟฟ้าสิ้นเปลือง”
...
นายลี เซียนลุง ยังพูดถึงความสามารถทางวิชาการของผู้เป็นน้องสาว เธอเลื่อนชั้นจาก ป.1 ไป ป.3 ในทันที และได้รับทุนประธานาธิบดี ก่อนจะกลายเป็นผู้อำนวยการของ สถาบันประสาทวิทยาแห่งชาติ (NNI)
ดร.ลียังรักสัตว์มาก และเคยอยากเป็นสัตวแพทย์ แต่พ่อแม่ของเธอห้ามไว้ ทำให้เธอเลือกเดินบนเส้นทางการแพทย์แทน ได้เป็นนักศึกษาลำดับต้นๆ ของชั้นเรียนที่มหาวิทยาลัยสิงคโปร์ ก่อนจะกลายเป็น นักกุมารเวชศาสตร์ประสาทวิทยา ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านโรคลมชัก
“เธอศึกษาการแพทย์ด้วยความเข้มข้นและความมุ่งมั่นแบบเดียวกับเธอมีต่อทุกสิ่งที่ทำ และสร้างสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับคนไข้มากมายที่เธอรักษาตลอดหลายปีที่ผ่านมา” นายลี เซียนลุง ระบุ
ดร.ลี เปิดเผยในปี 2563 ว่า เธอเป็นโรคอัมพาตจากนิวเคลียสแบบก้าวหน้า (PSP) โรคทางสมองหายาก ที่มีลักษณ์คล้ายพาร์กินสัน ที่ทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวช้าลง, ทำให้การทรงตัว และการเคลื่อนไหวของดวงตาบกพร่อง และสุดท้ายอาจถึงขั้นเสียชีวิต
“เธอรับมันไว้ด้วยความทรหดและความอดทนเหมือนเคย และโพสต์เรื่องนั้นออกไป เหมือนเป็นหนึ่งในสิ่งต่างๆ ในชีวิตที่เราเกิดมาและต้องอดทน” นายลี เซียนลุง ระบุ “เธอรู้ว่ามันหมายความว่าอย่างไร และพยายามใช้เวลาที่เหลืออยู่อย่างเต็มที่ที่สุด ในขณะที่สุขภาพกำลังถดถอย”
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : cna