โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เผยจะไม่ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเป็นครั้งที่ 4 หากเขาแพ้การเลือกตั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน กล่าวว่า เขาจะไม่ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีก หากเขาแพ้การเลือกตั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้

ในบทสัมภาษณ์ที่เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน กล่าวว่า เขาจะไม่ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน หากเขาแพ้การเลือกตั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ โดยกล่าวว่า "นั่นคงเป็นครั้งสุดท้าย"

เมื่อถูกถามว่าเขามองเห็นตัวเองจะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอีกครั้งในอีกสี่ปีข้างหน้าหรือไม่ หากเขาไม่ประสบความสำเร็จในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งที่สาม อดีตประธานาธิบดีวัย 78 ปี กล่าวกับรายการ "Full Measure" ที่มีชารีล แอตต์คิสสัน เป็นผู้ดำเนินรายการว่า "ไม่ ผมคิดว่านั่นคงเป็นครั้งสุดท้าย ผมไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นอีก หวังว่าเราจะประสบความสำเร็จ"

ทรัมป์ต้องเผชิญการแข่งขันที่ดุเดือดกับนางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต โดยผลสำรวจแสดงให้เห็นว่าทั้งสองมีคะแนนนิยมสูสีในรัฐที่เป็นสมรภูมิสำคัญ ที่มีแนวโน้มที่จะสามารถชี้ขาดผู้ชนะ แม้ว่าแฮร์ริสจะเริ่มมีคะแนนนำในผลสำรวจทั่วประเทศแล้วก็ตาม

ทั้งนี้ ทรัมป์เปิดตัวการลงสมัครชิงตำแหน่งในการเลือกตั้งปี 2020 ในวันเดียวกับที่เขาเข้ารับตำแหน่งในปี 2017 และประกาศการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งล่าสุดเมื่อสองปีก่อนในเดือนพฤศจิกายน 2022

ทรัมป์ยังคงกล่าวโทษว่าการทุจริตการเลือกตั้ง ว่าเป็นสาเหตุของความพ่ายแพ้ในปี 2020 ของเขาต่อประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต และเผชิญกับข้อกล่าวหาทางอาญาทั้งในระดับรัฐบาลกลางและระดับรัฐ จากความพยายามที่จะพลิกผลการเลือกตั้ง เขาปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำผิด และกล่าวหาว่า เขาตกเป็นเป้าหมายการโจมตีทางการเมือง 

...

เขายังได้เปิดตัวธุรกิจต่างๆ มากมายท่ามกลางแคมเปญล่าสุดของเขา รวมถึงบริษัททรัมป์ มีเดีย, สินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงรองเท้าผ้าใบ เหรียญ และสกุลเงินดิจิทัล ที่ใช้แบรนด์ทรัมป์

ขณะเดียวกัน แฮร์ริส วัย 59 ปี มองว่าการแข่งขันครั้งนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับประชาธิปไตยของสหรัฐฯ แม้ว่าเธอจะพยายามมุ่งเน้นไปที่ปัญหาระดับครัวเรือน เช่น ค่าใช้จ่ายสำหรับครอบครัวและที่อยู่อาศัยก็ตาม เมื่อถูกถามว่าการพักจากงาน 4 ปี ช่วยให้เขารวบรวมสติและคิดหาพันธมิตรที่เขาสามารถไว้วางใจได้หรือไม่ ทรัมป์กล่าวว่า "มันจะง่ายกว่าถ้าผมได้ทำแบบนั้นติดต่อกัน" และกล่าวว่า "แต่ประโยชน์ที่ได้รับมากกว่าสิ่งอื่นใด คือมันแสดงให้เห็นว่าพวกเขาแย่แค่ไหน"

ทรัมป์ซึ่งให้สัมภาษณ์ที่รีสอร์ทของเขาในรัฐฟลอริดา ยังกล่าวอีกว่า ยังเร็วเกินไปที่จะทำข้อตกลงกับบุคคลต่างๆ สำหรับตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีหากเขาชนะการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน.

ที่มา Reuters

อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign