ปูตินสั่งเพิ่มจำนวนทหารในกองทัพอีก 180,000 นาย หลังถูกยูเครนบุกโจมตีภายในแคว้นคูสค์ นับเป็นการขยายกองทัพครั้งที่ 3 ของรัสเซีย นับตั้งแต่สงครามเริ่มขึ้น

เมื่อวันจันทร์ที่ 16 ก.ย. 2567 ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ออกกฤษฎีกา สั่งขยายขนาดกองทัพเป็นครั้งที่ 3 นับตั้งแต่พวกเขาเริ่มบุกโจมตียูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 โดยจะเพิ่มจำนวนทหารอีก 180,000 นาย ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่กองทัพรัสเซียเพิ่มเป็นเกือบ 2.4 ล้านคน โดยเป็นทหาร 1.5 ล้านนาย

กฤษฎีกาของปูตินเกิดขึ้น 1 เดือนหลังจากยูเครนบุกโจมตีสายฟ้าแลบข้ามพรมแดนเข้าสู่แคว้นคูสค์ ทางตะวันตกของประเทศ ซึ่งถือเป็นที่มีกองกำลังต่างชาติรุกรานเข้ามาภายในดินแดนของรัสเซีย นับตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเมื่อสัปดาห์ก่อน รัสเซียเริ่มปฏิบัติการโต้กลับเพื่อขับไล่ทหารยูเครน และขยับเข้าใกล้เมืองสำคัญในภูมิภาคดอนบาสเพิ่มอีก

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2565 ปูตินสั่งเพิ่มทหารในกองทัพมาแล้ว 2 ครั้ง ทั้งในรูปแบบของการเคลื่อนกำลังพลสำรองและเกณฑ์ทหารใหม่ โดยครั้งแรกเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2565 ปูตินสั่งเพิ่มทหาร 137,000 นาย เริ่มตั้งแต่ช่วงปีใหม่ ทำให้จำนวนทหารรัสเซียในตอนนั้นอยู่ที่ 1.15 ล้านนาย

แต่เดือนต่อมา หลังจากยูเครนประสบความสำเร็จในการโจมตีโต้กลับ และยึดเมืองในแคว้นคาร์คิฟกลับไปได้เกือบทั้งหมด ปูตินก็สั่ง “เรียกระดมพลบางส่วน” เกณฑ์ประชาชนเข้าร่วมกองทัพและเคลื่อนทหารกำลังสำรอง โดยมีเป้าหมายที่ 300,000 นาย ทำให้ชาวรัสเซียหลายหมื่นคนหนีออกจากประเทศ

คำสั่งเรียกระดมพลดังกล่าวถูกยกเลิกในเดือนพฤศจิกายน 2566 โดยอ้างว่า เกณฑ์ทหารได้ตามเป้าหมายแล้ว จากนั้นในเดือนธันวาคม ปูตินก็ออกคำสั่งเพิ่มจำนวนทหารอีก 170,000 นาย จำนวนทหารรัสเซียในตอนนั้นเพิ่มเป็น 1.32 ล้านนาย

...

คำสั่งล่าสุดของปูตินจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนธันวาคม 2567 นี้

อนึ่ง ความเสียหายต่อกองทัพรัสเซียในสงครามกับยูเครนยังคงเป็นปริศนา พวกเขาเปิดเผยตัวเลขความเสียหายอย่างเป็นทางการครั้งล่าสุดในเดือนกันยายน 2565 โดยระบุว่า มีทหารเสียชีวิตในสงครามแล้ว 5,937 นาย และไม่มีการอัพเดตอีกหลังจากนั้น แต่ฝ่ายยูเครนและชาติตะวันตกประเมินว่า รัสเซียอาจเสียทหารถึง 616,000 นาย

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : cnn