เห็นข่าวพาดหัวหน้าหนึ่งแต่ละวัน บอกเลยว่าสังคมยุคนี้เต็มไปด้วยอันตรายรอบตัว และภัยร้ายที่ไม่อาจคาดคิดจากทุกทิศทุกทาง ทำไมอดีตเจ้าหน้าที่เอฟบีไอมือเก๋าจึงเตือนว่า การตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอก และความรู้สึกตามสัญชาตญาณส่วนตัว ไม่สามารถสแกนคนอันตรายออกจากชีวิต แถมให้ผลลัพธ์ตรงกันข้าม คือยิ่งดึงดูดคนบ้าคนเลวเข้ามาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ตัว

ในฐานะที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการสืบสวนสอบสวนมาครึ่งค่อนชีวิต “ดร.แมรี เอลเลน โอ’ทูล” อดีตเอฟบีไอมือเก๋าจากหน่วยวิเคราะห์พฤติกรรมของเอฟบีไอ ซึ่งอยู่เบื้องหลังการคลี่คลายคดีดังกระฉ่อนโลกนับไม่ถ้วน ย้ำว่า คุณไม่มีทางจะตัดสินได้เลยว่าใครหรือสถานการณ์ใดจะเป็นอันตรายหรือไม่ โดยดูจากสัญชาตญาณความกลัวหรือไม่กลัวในใจคุณเพียงอย่างเดียว

ระหว่างทำงานเป็นนักวิเคราะห์พฤติกรรมคนร้ายของเอฟบีไอจนถึงเกษียณ “ดร.แมรี” เคยสอบปากคำเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายมากมาย ที่ให้การเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขาไม่ได้เอะใจเลยว่าภัยอันตรายกำลังคืบคลานเข้ามา ลางสังหรณ์ที่เคยเชื่อได้ก็สิ้นฤทธิ์ และหลายครั้งกลับเป็นฝ่ายชักนำพวกเขาไปพบกับภัยอันตรายเสียเอง มีคนจำนวนมากที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังสร้างปัญหาและความยุ่งยากซ้ำๆให้กับตัวเอง เพราะไม่สามารถบอกได้เลยว่าใครบ้างเป็นตัวอันตราย และมักตัดสินใจพลาดอยู่เสมอ ดีไม่ดีอาจเผลอไปโอบอุ้มคนเลวด้วยซ้ำ เนื่องจากหลงเชื่อในสัญชาตญาณบอดๆของตัวเอง, เพิกเฉยต่อพฤติกรรมที่เป็นอันตราย และหลอกตัวเองว่าสักวันหนึ่งพวกทรชนเหล่านั้นจะกลับตัวกลับใจเลิกทำเรื่องอันตรายร้ายแรงได้เอง

อดีตเอฟบีไอมือทองแนะเคล็ดลับการสแกนคนอันตรายไว้อย่างน่าสนใจ เพื่อมองคนให้ออกและอ่านคนให้เป็น ก่อนจะสายเกินไป โดยเริ่มจากทำความเข้าใจในพฤติกรรม CTD ที่แบ่งระดับความร้ายแรงของพฤติกรรมที่เป็นปัญหาออกเป็น 3 ขั้น คือ “พฤติกรรมที่น่าเป็นห่วง” (Concerning Behavior), “พฤติกรรมที่น่ากลัว” (Threatening Behavior) และ “พฤติกรรมที่เป็นอันตราย” (Dangerous Behavior) เราจำเป็นต้องหมั่นฝึกฝนการสแกนพฤติกรรม CTD เพื่อป้องกันบุคคลอันตรายมิให้มาทำร้ายตัวเรา ทรัพย์สินของเรา คนรักของเรา หน้าที่การงานของเรา หรือแม้แต่ฐานะการเงินของเรา

...

สำหรับพฤติกรรมการแสดงออก ที่มีความเสี่ยงจะพัฒนาไปสู่การเป็นบุคคลอันตราย “ดร.แมรี” ชี้ว่า ควรเฝ้าสังเกตและระวังบุคคลที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายต่อไปนี้ ได้แก่ “วู่วาม” กระทำการอันใดโดยไม่เคยคิดถึงผลระยะสั้นและระยะยาว, “ขี้โมโหเกินเหตุ” ชอบระเบิดอารมณ์และไม่สามารถควบคุมความโกรธของตัวเอง, “หลงตัวเอง” คิดว่าตัวเองเป็นคนพิเศษไม่เหมือนใคร และอยู่ในสถานะที่สูงกว่าคนปกติทั่วไป, “ไม่เคยเข้าใจความรู้สึกผู้อื่น” ขาดความเห็นอกเห็นใจในผู้อื่น, “ชอบสะสมบัญชีความแค้นเอาไว้ในใจ” มักมโนไปเองว่าโดนรังแกและไม่ได้รับความยุติธรรม จึงสะสมความแค้นไว้เอาคืน, “โทษคนอื่นว่าเป็นสาเหตุของความผิดพลาดและปัญหา” ชอบมองตัวเองเป็นเหยื่อที่ถูกกระทำ และโยนความผิดให้คนอื่น, “หวาดระแวง” รู้สึกเคลือบแคลงใจในเจตนาของผู้อื่นเสมอ, “ชอบแหกกฎ” ไม่ชอบทำตามกฎเกณฑ์ของสังคม, “นิยมความรุนแรง” มีประวัติชอบใช้ความรุนแรง, “เฝ้าฝันที่จะได้ก่อเหตุรุนแรง” มีความคิดที่จะฆ่าตัวตาย และก่อเหตุฆาตกรรม, “ติดยาเสพติดหรือติดเหล้า” กระตุ้นให้มีพฤติกรรม CTD ในระดับที่รุนแรงขึ้นไปอีก, “ควบคุมตัวเองไม่ได้” ไม่สามารถจัดการกับความเครียด ความผิดหวัง และปัญหาชีวิต, “จงเกลียดจงชังผู้คนไปทั่ว” ทั้งมโนไปเองและจงเกลียดจงชังจริงๆและ “ชอบแสวงหาความตื่นเต้นเร้าใจ” เสพติดความตื่นเต้นเร้าใจ และอยากเป็นที่สนใจของคนอื่น

หากเจอใครมีพฤติกรรมเข้าข่ายทั้งหมดนี้ ขอให้หลีกไปไกล อย่าได้เผลอไปใกล้เด็ดขาด เพราะดีไม่ดีคุณอาจตกเป็นเหยื่อของคนบ้าคนอันตราย กว่าจะรู้ตัวก็สายเกินแก้ซะแล้ว!!

มิสแซฟไฟร์

คลิกอ่านคอลัมน์ “คนดังอะราวนด์เดอะเวิลด์” เพิ่มเติม