• Black Myth: Wukong เป็นเกมแอ็กชันสำหรับผู้เล่นคนเดียว ที่ผู้เล่นจะสวมบทบาทเป็น "ผู้ถูกลิขิต" ซึ่งเป็นลิงที่มีพลังเหนือธรรมชาติ โดย "ผู้ถูกลิขิต" อิงจากตัวละครซุนหงอคง หรือราชาลิง ตัวละครหลักในไซอิ๋ว ที่ถือเป็นวรรณกรรมจีนเรื่องยิ่งใหญ่เรื่องหนึ่ง โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากตำนานจีน ลัทธิขงจื๊อ เต๋า และนิทานพื้นบ้านของชาวพุทธ
  • อย่างไรก็ตาม ได้เกิดความขัดแย้งบางอย่าง เนื่องจากบรรดาคอนเทนต์ ครีเอเตอร์ และสตรีมเมอร์บางรายเปิดเผยว่า บริษัทที่เกี่ยวข้องกับผู้พัฒนาเกม ได้ส่งรายการหัวข้อที่ไม่ควรพูดถึงขณะสตรีมเกมให้พวกเขา ซึ่งรวมถึง "การโฆษณาชวนเชื่อของสตรีนิยม การหลงใหลในสิ่งเหนือธรรมชาติ และเนื้อหาอื่นๆ ที่ยุยงให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์เชิงลบเช่น การเมือง โควิด-19 และนโยบายอุตสาหกรรมวิดีโอเกมของจีน
  • แม้จะมีความขัดแย้ง แต่ก็ไม่ได้ทำให้การตอบรับเชิงบวกของ Black Myth ลดลงแต่อย่างใด เกมดังกล่าวทำยอดขายล่วงหน้าได้ 53 ล้านเหรียญสหรัฐ และมียอดขายอีก 4.5 ล้านชุดภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากเปิดตัว ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเกมนี้ยังได้ทำลายสถิติเกมผู้เล่นคนเดียวที่มีผู้เล่นมากที่สุดที่เคยวางจำหน่ายบน Steam

การเปิดตัวเกมจีนที่ประสบความสำเร็จสูงสุดตลอดกาล ที่ใช้ตัวละครลิงที่มีลักษณะเหมือนมนุษย์ รวมถึงการรณรงค์ต่อต้าน "โฆษณาชวนเชื่อของสตรีนิยม" ทำให้ชุมชนผู้เล่นวิดีโอเกมของจีนลุกขึ้นมาเกิดการถกเถียงกันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ผู้เล่นหลายคนแสดงความไม่พอใจ หลังจากที่บริษัทผู้สร้าง Black Myth: Wukong ส่งรายการประเด็นและหัวข้อที่ควรหลีกเลี่ยงขณะสตรีมเกมให้พวกเขา ซึ่งรวมถึง "โฆษณาชวนเชื่อของสตรีนิยม การหมกมุ่นทางเพศ และเนื้อหาอื่นๆ ที่ยุยงให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์เชิงลบ"

...

อย่างไรก็ตาม ภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากเปิดตัวเมื่อวันที่ 20 ส.ค. ที่ผ่านมา เกมนี้กลายเป็นเกมที่มีผู้เล่นมากที่สุดเป็นอันดับสองบนแพลตฟอร์มสตรีมมิง Steam โดยมีผู้เล่นพร้อมกันมากกว่า 2.1 ล้านคน และมียอดขายมากกว่า 4.5 ล้านชุด

เกมนี้ซึ่งอิงจากนวนิยายจีนคลาสสิกในศตวรรษที่ 16 เรื่อง ไซอิ๋ว หรือ Journey to the West ถือเป็นการเผยแพร่เรื่องราวในวรรณกรรมจีนบนเวทีระดับนานาชาติ ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งนัก

Black Myth เป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร?

Black Myth: Wukong เป็นเกมแอ็กชันสำหรับผู้เล่นคนเดียว ที่ผู้เล่นจะสวมบทบาทเป็น "ผู้ถูกลิขิต" ซึ่งเป็นลิงที่มีพลังเหนือธรรมชาติ โดย "ผู้ถูกลิขิต" อิงจากตัวละครซุนหงอคง หรือราชาลิง ตัวละครหลักในไซอิ๋ว ที่ถือเป็นวรรณกรรมจีนเรื่องยิ่งใหญ่เรื่องหนึ่ง โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากตำนานจีน ลัทธิขงจื๊อ เต๋า และนิทานพื้นบ้านของชาวพุทธ

วรรณกรรมเรื่องนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับภาพยนตร์ รายการทีวี และการ์ตูนระดับนานาชาติหลายร้อยเรื่อง รวมถึงอนิเมะญี่ปุ่นยอดนิยมอย่าง Dragon Ball Z และภาพยนตร์แฟนตาซีจีน-อเมริกันเรื่อง The Forbidden Kingdom ที่ออกฉายในปี 2008


เหตุใด Black Myth จึงได้รับความนิยมอย่างมาก

Black Myth เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 ส.ค. หลังจากหลายคนรอคอยกันมานานถึงสี่ปี โดยประกาศผ่านตัวอย่างทีเซอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามเมื่อเดือนสิงหาคม 2020

เกมนี้ถือเป็นเกมระดับ AAA เกมแรกของอุตสาหกรรมวิดีโอเกมจีน ซึ่งโดยปกติแล้วระดับดังกล่าวจะมอบให้กับเกมจากบริษัทใหญ่ๆ ที่ใช้งบประมาณสูง 

ทั้งกราฟิกระดับไฮเอนด์ การออกแบบเกมที่ซับซ้อน และกระแสฮือฮาที่ร้อนแรง ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เกมนี้ประสบความสำเร็จ รวมถึงขนาดของชุมชนเกมของจีน ซึ่งใหญ่ที่สุดในโลกด้วย ไฮชิง หยู ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัย RMIT ของออสเตรเลีย ผู้ทำการวิจัยเฉพาะด้านผลกระทบทางสังคม การเมือง และเศรษฐกิจของสื่อดิจิทัลของจีน กล่าวว่า "เกมนี้ไม่ใช่แค่เกมของจีนที่มุ่งเป้าไปที่ตลาดจีนหรือโลกที่พูดภาษาจีนเท่านั้น แต่ผู้เล่นทั่วโลกกำลังเล่นเกมที่ผสมผสานวัฒนธรรมจีน"

สิ่งนี้กลายเป็นความภาคภูมิใจของชาติจีนอย่างมาก กรมวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวในมณฑลซานซี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีสถานที่และฉากต่างๆ ที่ถูกอ้างอิงในเกม ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นสถานที่ท่องเที่ยวในโลกแห่งความเป็นจริง กระตุ้นให้เกิดกระแสการท่องเที่ยวที่พุ่งสูงขึ้น ภายใต้ชื่อ "การท่องเที่ยวหงอคง" 

โดยคลิปวิดีโอที่โพสต์บน TikTok หลังจากเกม Black Myth วางจำหน่าย แสดงให้เห็นนักท่องเที่ยวแห่แหนไปที่วัดและศาลเจ้าในเกม ซึ่งผู้ใช้ X คนหนึ่งระบุว่าเป็น "ตัวอย่างความสำเร็จของการค้นพบทางวัฒนธรรม"

Niko Partners บริษัทที่ทำการวิจัยและวิเคราะห์ตลาดวิดีโอเกมและผู้บริโภคในเอเชีย ชี้ให้เห็นในทำนองเดียวกันว่า Black Myth "ช่วยนำเสนอตำนาน ประเพณี วัฒนธรรม และสถานที่จริงในจีนให้คนทั่วโลกได้รู้จัก"

...

แล้วเหตุใดเกมนี้จึงก่อให้เกิดความขัดแย้ง

ก่อนที่เกม Black Myth จะวางจำหน่าย บรรดาคอนเทนต์ ครีเอเตอร์และสตรีมเมอร์บางรายเปิดเผยว่า บริษัทที่เกี่ยวข้องกับผู้พัฒนาเกม ได้ส่งรายการหัวข้อที่ไม่ควรพูดถึงขณะสตรีมเกมสดให้พวกเขา ซึ่งรวมถึง "การโฆษณาชวนเชื่อของสตรีนิยม การหลงใหลในสิ่งเหนือธรรมชาติ และเนื้อหาอื่นๆ ที่ยุยงให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์เชิงลบ"

แม้ว่าจะไม่ชัดเจนว่า "การโฆษณาชวนเชื่อของสตรีนิยม" หมายถึงอะไรกันแน่ แต่รายงานที่เผยแพร่ในวงกว้างเมื่อเดือนพฤศจิกายน โดย IGN สิ่งพิมพ์วิดีโอเกมชื่อดัง ได้กล่าวหาว่าพนักงานของ Game Science ซึ่งเป็นสตูดิโอที่อยู่เบื้องหลังเกม Black Myth มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และแบ่งแยกทางเพศ

นอกจากนั้นหัวข้ออื่นๆ ที่กำหนดว่าเป็น "สิ่งที่ไม่ควรทำ" ในเอกสารซึ่งถูกแชร์กันอย่างแพร่หลายบนโซเชียลมีเดียและยูทูบ ได้แก่ การเมือง โควิด-19 และนโยบายอุตสาหกรรมวิดีโอเกมของจีน

คำสั่งดังกล่าวซึ่งส่งโดย Hero Games ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายร่วม ได้ก่อให้เกิดความขัดแย้งนอกประเทศจีน ด้านคอนเทนต์ ครีเอเตอร์หลายคน ปฏิเสธที่จะตรวจสอบเกม โดยอ้างว่าผู้พัฒนาพยายามเซนเซอร์การสนทนาและปิดกั้นเสรีภาพในการพูด ขณะที่คนอื่นๆ เลือกที่จะฝ่าฝืนคำเตือนโดยตรง

...

ผู้สร้างเนื้อหารายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Moonmoon ได้เปิดสตรีม Black Myth บน Twitch ในหัวข้อ "Covid-19 Isolation Taiwan (Is a Real Country) Feminism Propaganda" หรือ "ไต้หวัน (เป็นประเทศจริง) ที่แยกตัวจากโควิด-19 การโฆษณาชวนเชื่อเรื่องสตรีนิยม"

ส่วนสตรีมเมอร์อีกรายชื่อ หรุย จ้ง ได้พูดคุยเกี่ยวกับนโยบายลูกคนเดียวของจีนต่อหน้ากล้อง ขณะเล่นเกมเมื่อวันที่ 22 ส.ค. ด้าน เว่ยป๋อ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของจีน ได้แบนผู้ใช้ 138 ราย ที่ถูกพิจารณาว่าละเมิดแนวทางการใช้งาน เมื่อพูดคุยเกี่ยวกับเกม Black Myth ขณะที่บทความบนเว็บไซต์ข่าว โกลบัล ไทมส์ ของรัฐบาลจีน ระบุว่า ผู้ใช้เว่ยป๋อที่ถูกแบนจำนวนหนึ่ง "ไม่ได้พูดคุยเกี่ยวกับเกมโดยตรง แต่ใช้เกมนี้เป็นแพลตฟอร์มในการเผยแพร่ 'การต่อต้านเรื่องเพศ' 'การโจมตีส่วนบุคคล' และความคิดเห็นที่ไร้เหตุผลอื่นๆ"

เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อความสำเร็จของเกมหรือไม่?

แม้ว่าความขัดแย้งดังกล่าวจะดึงดูดความสนใจจากสื่อต่างประเทศและออนไลน์จำนวนมาก แต่ก็ไม่ได้ทำให้การตอบรับเชิงบวกของ Black Myth ลดลงแต่อย่างใด เกมดังกล่าวทำยอดขายล่วงหน้าได้ 53 ล้านเหรียญสหรัฐ และมียอดขายอีก 4.5 ล้านชุด ภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากเปิดตัว ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเกมนี้ได้ทำลายสถิติเกมผู้เล่นคนเดียวที่มีผู้เล่นมากที่สุดที่เคยวางจำหน่ายบน Steam

...

บนแพลตฟอร์มอย่างเว่ยป๋อ, เรดดิต, ยูทูบ และสื่ออื่นๆ มีความคิดเห็นที่ร่วมแสดงความยินดีต่อความสำเร็จของเกม หลายคนบอกว่าผลกระทบจากความขัดแย้งเกี่ยวกับการเปิดตัวเกมนั้นดูเกินจริง ซึ่งเป็นสิ่งที่ ศ.หยู เห็นด้วย

เธออธิบายว่า Black Myth เป็น "ความสำเร็จของอุตสาหกรรมและตลาดโดยรวม" "เมื่อพูดถึงสื่อดิจิทัลและแพลตฟอร์มการสื่อสารของจีน แน่นอนว่าผู้คนไม่สามารถหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงการเซนเซอร์ได้"

เธอยังกล่าวว่า "Black Myth เป็นตัวอย่างของวิธีการบอกเล่าเรื่องราวของจีนได้ดี และวิธีขยายอิทธิพลทางวัฒนธรรมจีนไปทั่วโลก ฉันไม่เห็นการเซนเซอร์ใดๆ"

เธอยังชี้ให้เห็นด้วยว่าความพยายามที่ชัดเจนในการบงการ หรือเซนเซอร์สิ่งที่ผู้วิจารณ์พูดนั้นไม่น่าจะมาจากเจ้าหน้าที่จีนเอง ศ.หยู  เสนอว่า น่าจะเป็นไปได้มากกว่าว่ารายการ "สิ่งที่ควรทำ" และ "สิ่งที่ไม่ควรทำ" นั้นมาจากบริษัทที่พยายามไม่ให้ตัวเองมีปัญหา

"บริษัทออกประกาศ ในกรณีที่อาจมีคนจากรัฐบาลกลางเข้ามาคุยกับบริษัท บริษัทสามารถบอกได้ว่า 'ดูนะ ฉันบอกพวกเขาไปแล้ว ฉันห้ามไม่ให้ผู้คนพูดในสิ่งที่พวกเขาต้องการพูดไม่ได้'

"พวกเขาต้องปกป้องตัวเองโดยใช้คำพูดทั่วๆ ไป ฉันมองว่ามันเป็นท่าทีที่ไม่ต้องการสร้างความไม่พอใจต่อผู้ตรวจสอบของจีน มากกว่าจะเป็นคำสั่งจากเบื้องบน".

ที่มา BBC

อ่านข่าวต่างประเทศเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign