- สองนักบินอวกาศนาซา "บุตช์ วิลมอร์" และ "สุนี วิลเลียมส์" นำสัมภาระส่วนตัวไปเพียงเล็กน้อย เพราะต้องไปทำภารกิจเพียง 8 วัน บนสถานีอวกาศ ISS ตั้งแต่เดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา แต่จนถึงตอนนี้ผ่านมา 3 เดือนแล้วที่ยังต้องอยู่บนนั้น เพราะแคปซูลยานอวกาศ "สตาร์ไลเนอร์" (Starliner) ของโบอิ้งประสบปัญหา
- องค์การนาซา ตัดสินใจว่ามีความเสี่ยงมากเกินไปที่จะพา 2 นักบินอวกาศ ซึ่งติดอยู่ที่สถานีอวกาศนานาชาติ กลับมาด้วยแคปซูล “สตาร์ไลเนอร์” ซึ่งเกิดปัญหามาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา โดยจะเปลี่ยนมาใช้แคปซูลของ “สเปซเอ็กซ์” (SpaceX) บริษัทคู่แข่งของโบอิ้งแต่นักบินอวกาศทั้ง 2 คน ต้องรออยู่บน ISS ไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2568 จึงจะได้กลับบ้าน
- การขยายเวลาอยู่ที่สถานีอวกาศนานขึ้น ทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่บนสถานีอวกาศ หลายฝ่ายสงสัยว่า นักบินอวกาศจะทำอะไรบนนั้น จะมีน้ำดื่ม และมีอาหารรับประทานเพียงพอหรือไม่ ในช่วงอีก 5-6 เดือนนับจากนี้
จนถึงตอนนี้สองนักบินอวกาศนาซา "บุตช์ วิลมอร์" และ "สุนี วิลเลียมส์" อยู่บนสถานีอวกาศมาเป็นระยะเวลากว่า 11 สัปดาห์แล้ว และจะต้องอยู่รอไปจนถึงช่วงต้นปีหน้า ทำให้เกิดความสงสัยว่า พวกเขาจะทำอะไรในช่วงเวลาแห่งการรอคอยบนอวกาศ 5-6 เดือนนับจากนี้
โดยปัจจุบันนี้ ถือได้ว่าทั้งสองคน เป็นแขกของสถานีอวกาศ เพราะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจ Expedition 71 ที่ประกอบไปด้วยทีมนักบินอวกาศชาติต่างๆ ที่เป็นเจ้าหน้าที่ประจำสถานี รวม 7 คน อย่างไรก็ตามนาซาระบุว่า ทั้งสองคนจะต้องไปรวมกับกลุ่มใหญ่ โดยรับงานประจำวันบนห้องปฏิบัติการที่โคจรอยู่เหนือโลก และตอนนี้สองนักบินอวกาศนาซาคาดว่าจะเข้าร่วมกับนักบินอวกาศ Crew-9 ของ SpaceX ซึ่งมีกำหนดจะเริ่มปฏิบัติภารกิจโดยเร็วที่สุดในวันที่ 24 กันยายน
...
พอมาเป็นส่วนหนึ่งของ Crew-9 วิลเลียมส์ และวิลมอร์ จะต้องรับหน้าที่ลูกเรือทั่วไป เช่น สเปซวอล์ก หรือออกปฏิบัติภารกิจนอกตัวสถานีอวกาศ ดูแลรักษาห้องปฏิบัติการที่โคจรอยู่ และดำเนินการทดลองวิทยาศาสตร์ตามกำหนดเวลาที่เป็นไปอย่างเคร่งครัด
ดานา ไวเกล ผู้จัดการโครงการสถานีอวกาศนานาชาติของนาซา กล่าวระหว่างการบรรยายสรุปเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมาว่า เมื่อ 2-3 ปีก่อน นาซาได้ตัดสินใจว่า การเป็นเที่ยวบินทดสอบก็จะต้องแน่ใจว่าเรามีทรัพยากรเพียงพอ ทั้งสิ่งของ และการฝึกอบรมที่เหมาะสมสำหรับลูกเรือ ในกรณีที่พวกเขาจำเป็นต้องอยู่บนสถานีอวกาศนานกว่ากำหนดไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม นอกจากนี้ ทั้งสองคนยังได้รับการฝึกฝนอย่างเต็มที่ และพวกเขามีความสามารถที่อัปเดตขึ้นทั้งการออกสเปซวอล์ก การดูแลซ่อมแซมและใช้หุ่นยนต์ ตลอดจนทุกสิ่งที่นาซาต้องการให้ทำ

การอยู่ในอวกาศนานขึ้น
ปกติแล้วที่ผ่านมาไม่ใช่เรื่องแปลกที่นักบินอวกาศจะต้องขยายเวลาการอยู่บนสถานีอวกาศแบบไม่คาดคิด อาจจะหลายวัน หลายสัปดาห์ หรือกระทั่งเป็นเดือน ก่อนหน้านี้ นักบินอวกาศของนาซา แฟรงก์ รูบิโอ มีกำหนดจะใช้เวลาราว 6 เดือนบนสถานีอวกาศนานาชาติสำหรับการเดินทางครั้งแรกของเขาไปยังวงโคจรโลกต่ำที่เริ่มขึ้นในเดือนกันยายน 2565 โดยเขาได้เดินทางกลับหลังจาก 371 วัน หลังพบการรั่วไหลของสารหล่อเย็น มาจากยานลำแรกของเขา
การอยู่อาศัยตลอดทั้งปีของนักบินอวกาศรูบิโอ จบลงด้วยการสร้างสถิติของสหรัฐฯ สำหรับการใช้เวลาในวงโคจรต่อเนื่องกันมากที่สุด
โดยนักบินอวกาศอาจต้องยืดเวลาการอยู่ในสถานีออกไปเป็นประจำหลายวันหรือหลายสัปดาห์ในแต่ละครั้ง เนื่องจากปัจจัยหลายประการ รวมถึงสภาพอากาศที่ย่ำแย่บนโลกหรือการปรับเปลี่ยนกำหนดการอื่นๆ

จะขาดแคลนอาหารหรือไม่
การบินไปยังสถานีอวกาศแบบไม่มีกระเป๋าเดินทางอาจทำให้ความสะดวกสบายของการอยู่ต่อของนักบินอวกาศลดลง แต่นาซาเลือกที่จะเอาสัมภาระออกจากยานอวกาศเพื่อให้มีที่ว่างสำหรับปั๊มน้ำ ที่มีจำเป็นมากสำหรับการซ่อมแซมห้องน้ำที่ทำงานผิดปกติบนสถานีอวกาศ
บิล สเปตช์ ผู้จัดการฝ่ายบูรณาการปฏิบัติการของนาซา กล่าวว่า สำหรับโครงการสถานีอวกาศนานาชาติ กล่าว ระหว่างการแถลงข่าวว่า บนสถานีอวกาศมีสิ่งของส่วนตัวบางอย่าง อาทิ เสื้อผ้า และอาหาร สำหรับ วิลเลียมส์ และวิลมอร์ หลังจากเพิ่งมีการส่งเสบียงและของใช้จำเป็นโดย Northrop Grumman ไปถึงสถานีอวกาศเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
...
นอกจากนี้เขายังกล่าวว่า ไม่มีข้อบ่งชี้ว่าเสบียงอาหารจะลดน้อยลงในเร็วๆ นี้ โดยมีสิ่งของที่บรรทุกไปพร้อมกับการทดลองทางวิทยาศาสตร์น้ำหนัก 8,200 ปอนด์ และอาหาร ผลิตผลต่างๆ เช่น สควอช หัวไชเท้า แคร์รอต บลูเบอร์รี ส้ม แอปเปิล และกาแฟ
โดยหน่วยงานอวกาศมีแนวโน้มที่จะเก็บอาหาร และน้ำ สำรองไว้สำหรับใช้ได้ประมาณ 4 เดือนบนสถานีอวกาศ และการเดินทางไปถึงของ Northrop Grumman ได้ช่วยเติมเต็มปริมาณสำรองเหล่านั้น ทำให้มีอาหารเหลือมากมายบนเครื่องสำหรับลูกเรือ ISS โดยที่ไม่มีใครต้องควบคุมอาหารหรือจำกัดแคลอรีแต่อย่างใด

เข้าร่วมกับทีม Crew-9
ภารกิจของทีม Crew-9 คือการเดินทางแบบรูทีนไปยังสถานีอวกาศเพื่อเติมเต็มเจ้าหน้าที่คณะสำรวจ ปกติแล้วจะประกอบด้วยนักบินอวกาศจำนวน 4 คน อย่างไรก็ตาม ภายใต้แผนใหม่ของนาซา นักบินอวกาศ 2 คนจะไม่สามารถเดินทางไปได้ เพื่อสำรองที่ให้กับสองนักบินอวกาศ วิลเลียมส์และวิลมอร์ ตอนที่เดินทางกลับโลก
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า บนยานอวกาศ Crew Dragon ขาออก จะมีคนอยู่บนยานเพียง 2 คน โดยมการใช้ก้อนโลหะที่ทำหน้าที่เป็นน้ำหนักแทนที่นั่งว่าง 2 ที่นั่งบน Crew-9 เพื่อรักษาจุดศูนย์ถ่วงของยาน จากนั้นนักบินอวกาศ Crew-9 ทั้งสองคนจะเดินทางไปร่วมกับวิลเลียมส์และวิลมอร์บนสถานีอวกาศ และทั้ง 4 คนจะเข้าร่วมกับ ภารกิจ Expedition 72 ซึ่งจะรวมนักบินอวกาศชาวรัสเซียด้วย และคาดว่าจะเริ่มในเดือนกันยายนหลังจากช่วงการส่งมอบ
...
ตามปกติแล้ว สำหรับภารกิจไปประจำการบนสถานีอวกาศ นักบินอวกาศ Crew-9 จะอยู่บนเครื่องประมาณ 5-6 เดือน โดยปล่อยให้วิลเลียมส์ และวิลมอร์ อยู่ในอวกาศต่อไปอีกครึ่งปี นอกเหนือจากเวลาเกือบสามเดือนที่พวกเขาได้ใช้เวลาไปในอวกาศแล้ว จากนั้นพวกเขาจะต้องทำกิจวัตรประจำวัน โดยวันของพวกเขาส่วนใหญ่จะถูกกำหนดเป็นชั่วโมงต่อชั่วโมง

โอลิมปิกในวงโคจร
นาซาระบุว่า ตอนนี้นักบินอวกาศได้เริ่มเข้าสู่การทำงานประจำวันบางส่วนแล้ว โดยการอัปเดตข้อมูลล่าสุดจากนาซา พบว่าวิลเลียมส์ และวิลมอร์ ใช้เวลาจนถึงขณะนี้เพื่อบำรุงรักษาสถานีอวกาศ ตรวจสอบฮาร์ดแวร์ จัดระเบียบคลังอุปกรณ์ ตรวจสอบสตาร์ไลเนอร์ และช่วยเหลือในการทดลองทางวิทยาศาสตร์และการสาธิตเทคโนโลยีต่างๆ
นาซาระบุว่า หากเราไปดูในช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา วิลมอร์ได้ช่วยกำหนดค่าแอร์ล็อกใหม่ ซึ่งสร้างโดยบริษัทนาโนแร็กส์ ในสหรัฐฯ ซึ่งจะทำหน้าที่ในการติดตั้งดาวเทียม การทดลอง และอุปกรณ์อื่นๆ
นอกจากนี้ วิลเลียมส์ และวิลมอร์ ก็มีโอกาสสัมผัสสภาวะไร้น้ำหนักเช่นกัน โดยนาซา แชร์ภาพนักบินอวกาศเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ขณะที่พวกเขาเดินผ่านคบเพลิงพลาสติกบนสถานีอวกาศและทำท่าทางเลียนแบบกิจกรรมโอลิมปิก บนโลกรวมถึงการเล่นออกกำลังกาย ที่กลายเป็นงานสำคัญสำหรับนักบินอวกาศเพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียกล้ามเนื้อและความหนาแน่นของมวลกระดูกมากเกินไป
...

หลายคนอาจไม่รู้ว่า ในปี 2012 ที่ผ่านมาระหว่างการเดินทางไปยังสถานีอวกาศนานาชาติครั้งก่อนหน้านี้ วิลเลียมส์กลายเป็นบุคคลแรกที่จบการแข่งขันไตรกีฬาในอวกาศ โดยเธอใช้จักรยานอยู่กับที่ จำลองการว่ายน้ำด้วยเครื่องยกน้ำหนัก และวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าโดยมีสายรัดรัดไว้เพื่อไม่ให้เธอลอยออกไป ความสำเร็จในครั้งนั้น เกิดขึ้นหลังจากที่เธอวิ่งบนสถานีอวกาศ ไปพร้อมๆ กับกิจกรรมบอสตันมาราธอน ที่สหรัฐฯ ในช่วงปี 2550
นาซาระบุว่า ก่อนหน้านี้ทั้งสองคนได้ใช้เวลารวมกันมาแล้ว 500 วันก่อนออกเดินทางด้วยยานอวกาศทดสอบสตาร์ไลเนอร์ วิลเลียมส์ยังบอกด้วยว่าเธอร้องไห้หลังจากออกจากสถานีอวกาศหลังจากภารกิจสุดท้ายของเธอในปี 2555 โดยไม่แน่ใจว่าเธอจะกลับมาหรือไม่ ทำให้เที่ยวบินนี้กลายเป็นความฝันสำหรับเธอ ที่จะได้กลับมายังสถานีอวกาศอีกครั้ง.