รัสเซียประกาศภาวะฉุกเฉินในแคว้นคูสค์ ทางตะวันตกแล้ว หลังกองทัพยูเครนโจมตีข้ามพรมแดนต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ฝ่ายเคียฟอ้างยึดสถานีก๊าซธรรมชาติ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัสเซียประกาศภาวะฉุกเฉินในแคว้นคูสค์ ทางตะวันตกแล้ว หลังกองทัพยูเครนโจมตีข้ามพรมแดนต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ในวันพุธที่ 7 ส.ค. 2567 โดยนายอเล็กเซย์ สเมียร์นอฟ รักษาการผู้ว่าแคว้นคูสค์ กล่าวว่า มาตรการนี้เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อกำจัดผลที่ตามมาจากการที่กองกำลังของศัตรูเข้ามาในแคว้น
นายสเมียร์นอฟบอกด้วยว่า การโจมตีทำให้ประชาชนหลายพันคนต้องอพยพออกจากพื้นที่ชายแดน และต้องมีการเกณฑ์หมอมาจากเมืองอื่นๆ ด้วย
ก่อนหน้านี้ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวหายูเครนว่าทำการยั่วยุครั้งใหญ่ โดยรัฐบาลมอสโกอ้างว่า ทหารยูเครนหลายร้อยนายเข้ามพรมแดนแคว้นคูสค์ เข้ามาโจมตีใกล้เมืองซุดชา (Sudzha) ซึ่งห่างจากชายแดนเพียง 10 กม. เมื่อช่วงเช้าวันอังคารที่ผ่านมา โดยมาพร้อมกับรถถัง 11 คัน รถหุ้มเกราะอีกมากกว่า 20 คัน
เมื่อช่วงค่ำวันพุธ นายโอเลกซีย์ ฮอนชาเรนโก สมาชิกสภายูเครน เปิดเผยว่า กองทัพยูเครนสามารถเข้าควบคุมสถานีก๊าซธรรมชาติซุดชา ซึ่งเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกด้านก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ ซึ่งมีส่วนร่วมในการขนส่งก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียไปยังยุโรปผ่านยูเครน และเป็นจุดส่งก๊าซจากรัสเซียเข้าสู่ EU เพียงแห่งเดียวที่ยังเปิดอยู่หลังเกิดสงคราม
คำพูดของนายฮอนชาเรนโกถือเป็นการยืนยันว่า ยูเครนส่งทหารข้ามพรมแดนเข้าโจมตีภายในรัสเซียจริง ซึ่งถือเป็นการยอมรับครั้งแรก นับตั้งแต่สงครามระหว่างพวกเขากับรัสเซียเริ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2565
ด้านโฆษกทำเนียบขาวสหรัฐฯ ระบุว่า สหรัฐฯ ไม่รู้เรื่องการโจมตีครั้งนี้มาก่อน และเตรียมติดต่อหากองทัพยูเครน เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับจุดประสงค์ในการโจมตีของพวกเขา
...
ข้อความบนเฟซบุ๊กของนายฮอนชาเรนโกระบุด้วยว่า ถึงแม้ตัวเขาจะไม่รู้ว่าแผนการเบื้องหลังการโจมตีนี้คืออะไร แต่มันแสดงให้เห็นว่า รัสเซียสามารถและจำเป็นต้องถูกโจมตี “ภารกิจของเราคือการเอาชนะรัสเซีย เราจำเป็นต้องโจมตีดินแดนของพวกเขา และจำเป็นต้องทำลายศัตรูในทุกที่”
ในช่วงบ่ายวันพุธ พลเอกวาเลรี เกราซิมอฟ ผู้บัญชาการกองทัพรัสเซีย เปิดเผยว่าเขาได้แจ้งต่อ ประธานาธิบดีปูติน ว่า การรุกคืบของกองทัพยูเครนลึกเข้ามาในดินแดนรัสเซียนั้นได้ถูกหยุดเอาไว้แล้ว โดยที่กองทัพรัสเซียยังคงทำลายข้าศึกในพื้นที่ใกล้ชายแดนรัสเซียยูเครน
นายเกราซิมอฟระบุด้วยว่า ทหารยูเครนไม่เกิน 1,000 คนเข้ามาในแคว้นคูสค์ โดยมีเป้าหมายเพื่อยึดพื้นที่รอบเมืองซุดชา และรัสเซียได้สังหารพวกเขาไปแล้วกว่า 100 ศพ บาดเจ็บอีก 215 ราย
อย่างไรก็ตาม บล็อกเกอร์สายทหารของรัสเซียบนเทเลแกรมบางคนระบุว่า สถานการณ์ในพื้นที่ไม่ได้มั่นคงอย่างที่รัฐบาลบอก โดยนายยูริ โคเตนอค เผยว่า เกิดการต่อสู้อย่างรุนแรงขึ้นที่เมืองซุดชา และที่เมืองโคเรเนโว ที่อยู่ใกล้กัน ส่วนแชนเนล “ไรบาร์” (Ryber) อ้างว่า สถานการณ์รอบเมืองซุดชาเลวร้ายลงเรื่อยๆ
ขณะเดียวกันมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอที่อ้างว่าเป็นภาพความเสียหายบริเวณด่านข้ามพรมแดนทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองซุดชา รวมถึงภาพความเสียหายภายในตัวเมืองด้วย และภาพทหารยูเครนกำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้เมืองซุดชาด้วย แต่ไม่แน่ชัดว่าพวกเขาได้เข้าไปในเมือง หรือยึดการควบคุมเมืองแห่งนี้ไว้หรือไม่
ทางการรัสเซียยอมรับว่า เกิดการต่อสู้ขึ้นในหลายหมู่บ้านภายในดินแดนรัสเซียตลอดวันอังคาร ตามด้วยการโจมตีทางอากาศของยูเครน ซึ่งทำให้มีพลเรือนเสียชีวิต 3 ศพ และการโจมตีดำเนินไปจนถึงกลางดึก โดยรวมแล้วมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 24 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 6 รายด้วย
กองกำลังพิทักษ์ชาติ (National Guard) ของรัสเซีย ยืนยันว่า พวกเขาได้เสริมการป้องกันที่โรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์คูสค์ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองซุดชา ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 70 กม.แล้ว
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : bbc