คามาลา แฮร์ริส เลือก ทิม วอลซ์ ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา เป็นคู่หูไปลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ แล้ว โดยหวังให้เขาช่วยดึงคะแนนจากคนผิวขาวตามแถบชนบท

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คามาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครตไปลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตัดสินใจเลือก นายทิม วอลซ์ ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา เป็นคู่หูไปชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีแล้ว ในวันอังคารที่ 6 ส.ค. 2567 โดยหวังว่าจะใช้แนวคิดหัวก้าวหน้ากับการพูดอย่างตรงไปตรงมาของเขา ดึงคะแนนเสียงจากผู้โหวตผิวขาวในชนบท

แฮร์ริส ประกาศเรื่องการเลือก นายวอลซ์ ผ่านข้อความที่ส่งถึงบรรดาผู้สนับสนุนของเธอ โดยระบุว่า “ฉันมีความยินดีที่จะเปิดเผยว่า ฉันได้ตัดสินใจแล้วว่า ทิม วอลซ์ ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา จะเข้าร่วมในแคมเปญหาเสียงของเราในฐานะ คู่หูผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีของฉัน”

“ทิม เป็นผู้นำที่มีประสบการณ์ ผู้มีประวัติอันยอดเยี่ยมในการทำเรื่องต่างๆ ให้สำเร็จสำหรับครอบครัวชาวมินนิโซตา ฉันรู้ว่าเขาจะนำหลักการความเป็นผู้นำแบบเดียวกันมาสู่แคมเปญของเรา และสู่ตำแหน่งรองประธานาธิบดี”

ด้าน นายวอลซ์ วัย 60 ปี ผู้เป็นทหารผ่านศึกจากกองกำลังพิทักษ์ชาติ (National Guard) และอดีตครู กล่าวว่า เขารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมในแคมเปญกับ แฮร์ริส โดยระบุผ่าน X ว่า “ผมทุ่มหมดหน้าตัก รองประธานาธิบดีแฮร์ริส กำลังแสดงให้เราเห็นถึงความเป็นไปได้ทางการเมือง มันทำให้ผมนึกถึงวันแรกที่เข้าโรงเรียน”

ทั้งนี้ นายวอลซ์ ชนะการเลือกตั้งได้เป็น สส.รัฐมินนิโซตา ในเขตที่มักเทคะแนนเข้าข้างพรรครีพับลิกันในปี 2549 และอยู่ในตำแหน่งนานถึง 12 ปี ก่อนจะได้รับเลือกเป็นผู้ว่าการรัฐในปี 2561 ทำให้เขาถูกมองว่ามีความสามารถในการเชื่อมโยงกับคนผิวขาวในแถบชนบท ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมามักแสดงการสนับสนุน โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากรีพับลิกัน

...

ในฐานะผู้ว่าฯ นายวอลซ์ ผลักดันนโยบายหัวก้าวหน้ามากมาย รวมถึง อาหารกลางวันโรงเรียนฟรี, วางเป้าหมายในการต่อสู้กับภาวะความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ, ลดภาษีสำหรับคนชั้นกลาง และขยายเวลาลาหยุดของแรงงานในมินนิโซตา

เขายังเป็นผู้สนับสนุนเรื่อง “สิทธิอนามัยเจริญพันธุ์” (reproductive rights) ของสตรีมาอย่างยาวนาน และแสดงด้านอนุรักษนิยมของตัวเองออกมาขณะเป็นผู้แทนเขตชนบทในสภาผู้แทนราษฎร ด้วยการปกป้องผลประโยชน์ของทางการเกษตร และสนับสนุนสิทธิในการครอบครองปืน.

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : cna