วันเสาร์สบายๆ วันนี้ ผมชวนท่านผู้อ่านไปคุยเรื่อง “กรุงปารีส” เมืองหลวงของฝรั่งเศส หลังจบการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน Paris Olympic 2024 กันนะครับ การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2024 ครั้งนี้ กรุงปารีสและรัฐบาลฝรั่งเศสได้จัดงานอย่างยิ่งใหญ่อลังการแบบเหนือจินตนาการ จนเป็นที่กล่าวขวัญกันทั่วโลก ตั้งแต่พิธีเปิดการแข่งขัน Thomas Jolly ศิลปินนักแสดง นักออกแบบงานละคร ผู้ออกแบบพิธีเปิดการแข่งขัน Paris Olympic 2024 ได้ใช้เวลา 2 ปีในการวางคอนเซปต์ “เนรมิตให้กรุงปารีสกลายเป็นโรงละคร” อย่างที่เราได้เห็นในพิธีเปิดอันยิ่งใหญ่อลังการไปแล้ว มีหลายฉากหลายตอนมากจนตามดูกันไม่ทัน ต้องดูคลิปที่เขาสรุปมาให้ดู

มีหลายฉากที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม แต่ศิลปินฝรั่งเศสก็คือศิลปินฝรั่งเศสที่ไม่แคร์ใคร ศิลปะฝรั่งเศสจึงมีออกมามากมาย จนกลายเป็นศูนย์กลางแฟชั่นโลก แม้แต่สโลแกนการจัดงานโอลิมปิกครั้งนี้ ฝรั่งเศสก็ใช้สโลแกนว่า “เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ” สัญลักษณ์ของ Paris Olympic 2024 ฝรั่งเศสก็เลือก “หมวกฟรีเจียน” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งเสรีภาพในยุคการปฏิวัติฝรั่งเศส

แต่ไฮไลต์สำคัญที่ผมอยากเขียนถึงในวันนี้ก็คือ “จิตสำนึกในเรื่องการแบ่งปัน” และการทำให้ Paris Olympic 2024 เป็น “โอลิมปิกสีเขียว” (Green Games) มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาให้น้อยที่สุด เพื่อช่วยลดโลกร้อน ข้อมูลในเว็บไซต์โอลิมปิกระบุว่า งบประมาณที่ใช้จัดการแข่งขันโอลิมปิก ปารีส 2024 ตกประมาณ 10,000 ล้านยูโร กว่า 390,000 ล้านบาท เป็นงบประมาณจากรัฐบาลฝรั่งเศส 3,000 ล้านยูโร กว่า 117,000 ล้านบาท และเป็นงบประมาณจากภาคเอกชน 7,000 ล้านยูโร กว่า 273,000 ล้านบาท

...

ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ เงินลงทุนของภาครัฐ 3,000 ล้านยูโร กว่า 80% ใช้สร้างบ้านพักนักกีฬาในจังหวัด แซน–แซง เดอนีส์ ซึ่งเป็นจังหวัดที่ด้อยโอกาสที่สุดในฝรั่งเศส สร้างเป็นที่อยู่อาศัย 2,800 ยูนิต โรงเรียน 2 แห่ง เมื่อจบการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก สิ่งปลูกสร้างทั้งหมดจะตกเป็นของจังหวัด เพื่อจัดสรรให้เป็นที่อยู่อาศัยของประชาชนราว 6 พันคน

คณะกรรมการจัดการแข่งขันโอลิมปิก ปารีส 2024 ยังจัดสรรเงินค่าใช้จ่ายอีก 5,000 ล้านยูโร ราว 195,000 ล้านบาท เอื้อประโยชน์ต่อ “ธุรกิจขนาดเล็ก” ของฝรั่งเศสโดยตรง ซัพพลายเออร์ของโอลิมปิก ปารีส 2024 ประมาณ 78% เป็นธุรกิจขนาดเล็กของขนาดกลาง รวมทั้ง ธุรกิจในท้องถิ่นอีกกว่า 500 ราย นอกจากนี้ คณะกรรมการโอลิมปิกฝรั่งเศสยังเลือกใช้ “บริษัทสัญชาติฝรั่งเศส” เป็นผู้ให้บริการต่างๆในงานแข่งขันกีฬาโอลิมปิกถึง 90% ของผู้ให้บริการทั้งหมด ส่งผลให้เกิดการจ้างงานกว่า 180,000 ตำแหน่ง

เห็นไหมครับ แม้จะเป็นเจ้าภาพจัดงานกีฬาโอลิมปิก รัฐบาลฝรั่งเศส และ คณะกรรมการโอลิมปิกฝรั่งเศส ก็คิดถึงผลประโยชน์ของคนท้องถิ่น ธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ ของฝรั่งเศสเป็นอันดับแรก ได้งานไปเกือบ 100% เทียบกับ เงินดิจิทัลวอลเล็ต 500,000 ล้านบาท ที่รัฐบาลกู้มาแจกให้ประชาชนใช้จ่าย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น แต่กลับให้ ร้านสะดวกซื้อ บริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่ เข้าร่วมโครงการ ธุรกิจขนาดเล็กในท้องถิ่นที่ไหนจะไปสู้ได้ ก็ได้แต่มองตาปริบๆ ขอให้ดูฝรั่งเศสเป็นตัวอย่าง

เรื่องที่ผมชื่นชมฝรั่งเศสอีกเรื่องก็คือ การทำให้ “ปารีส โอลิมปิก 2024” เป็น “กีฬาสีเขียว” เพื่อช่วยลดโลกร้อน มีการกระจายสนามแข่งขันไปทั่วกรุงปารีส โดยสร้างเป็นสนามกีฬาชั่วคราว ตั้งแต่ หอไอเฟล พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ พระราชวังแวร์ซาย ฯลฯ เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนลงเหลือ 1.58 เมตริกตันให้ได้ สนามกีฬาส่วนใหญ่ใช้ของเดิมที่มีอยู่ ที่น่าทึ่งก็คือ มีการปรับถนนในกรุงปารีสจาก 4 เลนเหลือ 2 เลน อีก 2 เลนเอาไปทำเป็นเลนจักรยาน ทางเดิน ทางวิ่ง และปลูกต้นไม้ ห้ามรถบัสเข้ากลางกรุงปารีส การเดินทางให้ใช้ “รถไฟใต้ดิน” เป็นหลัก หลังกีฬาโอลิมปิก กรุงปารีสจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป จะกลายเป็น “เมืองหลวงสีเขียว” ที่ไปไหนต้องใช้ รถไฟใต้ดิน รถเมล์ ขี่จักรยาน หรือ เดิน.

“ลม เปลี่ยนทิศ”

คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม