เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) แถลงเตือนภัยไนทาซีนส์ ซึ่งเป็นฝิ่นสังเคราะห์มีต้นกำเนิดจากจีนและมีฤทธิ์แรงกว่าเฟนทานิล หลังพบสารเสพติดดังกล่าวในเบลเยียม แคนาดา เอสโตเนีย ลัตเวีย สโลวีเนีย อังกฤษ และสหรัฐฯ โดยมีรายงานการเสียชีวิตจากการใช้ไนทาซีนส์เกินขนาดในไอร์แลนด์ อังกฤษ เอสโตเนียและลัตเวีย UNODC ยังระบุว่าการผลิตฝิ่นทั่วโลกลดลง 74 % ในปี 2566 หลังรัฐบาลตาลีบันในอัฟกานิสถานสั่งห้ามการผลิตฝิ่นในประเทศจนลดลง 95% รวมทั้งห้ามขนส่งซื้อขายทั้งนำเข้าและส่งออกเฮโรอีน กัญชา ผู้ฝ่าฝืนจะถูกเผาไร่ฝิ่นและถูกคุมขังจากเดิมที่เคยเป็นแหล่งผลิตฝิ่นชั้นนำของโลก
UNODC ให้ความเห็นว่าการขาดแคลนฝิ่นจากอัฟกานิสถาน ส่งผลกระทบหลายประการ เนื่องจากผู้ใช้เฮโรอีนจะเปลี่ยนไปใช้ฝิ่นสังเคราะห์แทน ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีอันตรายถึงชีวิต รวมทั้งอาจนำไปสู่การเพิ่มปริมาณจนเกิดขนาด เสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาดเช่นกัน อย่างไรก็ตามจากการสังเกตการณ์ภาคสนามเบื้องต้นบ่งชี้ว่าเป็นไปได้ที่การปลูกฝิ่นในอัฟกานิสถานจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปีนี้ แต่ไม่น่าจะกลับไปสู่ระดับก่อนการออกคำสั่งห้ามของตาลีบัน ขณะที่ตลาดโคเคนยังคงเฟื่องฟูและสูงเป็นประวัติการณ์มากกว่า 2,700 ตัน ในปี 2565 เพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อนหน้า และขยายออกนอกตลาดดั้งเดิมอย่างสหรัฐฯ ยุโรปตะวันตกและยุโรปกลางไปยังแอฟริกา.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่