• เกิดเหตุเครื่องบินโดยสาร โบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ ของสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส ที่มุ่งหน้าจากกรุงโดฮาของกาตาร์ ไปยังเมืองดับลิน ในประเทศไอร์แลนด์ ได้ประสบเหตุตกหลุมอากาศอย่างรุนแรง ระหว่างผ่านน่านฟ้าประเทศตุรกี ส่งผลให้มีผู้โดยสารและลูกเรือได้รับบาดเจ็บ 12 ราย
  • ก่อนหน้านั้นเพียง 5 วัน เพิ่งเกิดเหตุสุดช็อก เครื่องบินโดยสารของสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส จากอังกฤษมุ่งหน้าสิงคโปร์ ได้ประสบเหตุตกหลุมอากาศรุนแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ศพ บาดเจ็บกว่า 20 ราย ขณะเกิดเหตุผู้โดยสารจำนวนมากไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย
  • ด้านผู้เชี่ยวชาญระบุ ความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้การเผชิญกับหลุมอากาศของเครื่องบินมีความรุนแรงขึ้น เพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นสำหรับนักเดินทางทางอากาศ

จากกรณีเครื่องบินโดยสารสายการบิน กาตาร์ แอร์เวย์ส เที่ยวบิน "QR017" ที่มุ่งหน้าจากกรุงโดฮาของกาตาร์ ไปยังเมืองดับลิน ในประเทศไอร์แลนด์ ได้ประสบเหตุตกหลุมอากาศอย่างรุนแรง ระหว่างผ่านน่านฟ้าประเทศตุรกี ส่งผลให้มีผู้โดยสารและลูกเรือได้รับบาดเจ็บ 12 ราย

แถลงการณ์ของสนามบินเมืองดับลิน ระบุว่า เครื่องบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ ลำนี้ได้บินมาลงจอดอย่างปลอดภัยและตรงตามกำหนดการในเวลาก่อน 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีเจ้าหน้าที่ฉุกเฉิน ตำรวจสนามบิน และหน่วยกู้ภัยรอให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ

ด้านผู้โดยสารที่มาถึงสนามบินเล่าเหตุการณ์ระทึกว่า เครื่องบินตกหลุมอากาศไม่ถึง 20 วินาที แต่มันเกิดขึ้นในช่วงเวลาเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่ม และมีบางคนไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย

สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส ออกแถลงการณ์ระบุว่า กำลังสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการภายใน ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นเพียง 5 วัน หลังจากเครื่องบินโดยสารของสิงคโปร์ แอร์ไลน์สตกหลุมอากาศรุนแรงทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ศพ 

...

โดยกรณีของเครื่องบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส เครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER ดิ่งลงสู่ความสูง 6,000 ฟุต หรือ 1,800 เมตร ภายในไม่กี่นาที จากนั้นนักบินได้นำผู้โดยสาร 211 คน และลูกเรือ 18 คน ลงจอดฉุกเฉินที่กรุงเทพฯ โดยมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 1 ศพ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 71 ราย และอีก 20 ราย ยังอยู่ในห้องไอซียูในกรุงเทพฯ

ข่าวเครื่องบินตกหลุมอากาศ 2 ครั้งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดคำถามว่า การบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเครื่องบินตกหลุมอากาศเกิดขึ้นบ่อยแค่ไหน และสภาพอากาศแปรปรวน หลุมอากาศ คืออะไร มันเกิดบ่อยขึ้น หรือรุนแรงมากขึ้นหรือไม่ และความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้รุนแรงขึ้นจริงหรือไม่

บนเครื่องบินเกิดเรื่องทำให้บาดเจ็บบ่อยแค่ไหน


ผู้เชี่ยวชาญด้านการบิน ระบุว่า เมื่อเทียบกับเที่ยวบินหลายล้านเที่ยวบินที่ขึ้นสู่ท้องฟ้าในแต่ละปี ซึ่งข้อมูลคาดการณ์ในปีนี้อยู่ที่ประมาณ 40.1 ล้านเที่ยวบิน สิ่งที่เกิดขึ้นกับเที่ยวบิน SQ321 ของสิงคโปร์นั้นเกิดขึ้นได้ยาก

โดยข้อมูลจาก องค์การบริหารการบินห่งชาติของสหรัฐฯ (Federal Aviation Administration) ระบุว่า สหรัฐฯ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทางทางอากาศที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีผู้บาดเจ็บต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพียง 163 ราย ระหว่างปี 2552-2565 ซึ่งทางคณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติไม่ได้รับแจ้งรายงานการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศแปรปรวนบนเครื่องบินขนาดใหญ่แม้แต่ครั้งเดียวในช่วงเวลานี้

ก่อนหน้านี้ก็แทบไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าเครื่องบินตกหลุมอากาศจะรุนแรงถึงขนาดต้องลงจอดฉุกเฉิน ยิ่งเครื่องบินเชิงพาณิชย์ยิ่งแทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แม้ว่าจะเกิดเหตุเครื่องบินตกในปี 2544 ซึ่งเป็นกรณีของเที่ยวบิน 587 ของสายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ส จากสนามบินจอห์น เอฟ เคนเนดี ของนิวยอร์กไปยังซานโตโดมิงโก สาธารณรัฐโดมินิกัน การสอบสวนยืนยันว่าหลุมอากาศทำให้ระบบกันโคลงแนวดิ่งของเครื่องบินขัดข้อง แต่การที่เครื่องบินตกเกิดจากข้อผิดพลาดทางเทคนิค และไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการตกหลุมอากาศ

หลุมอากาศเกิดจากอะไร

...


หลุมอากาศ คือความแปรปรวนในอากาศ โดยมีหลายสาเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดหลุมอากาศ ไม่ว่าจะเป็นภูมิประเทศ อย่างบินผ่านพื้นที่ภูเขา แรงลมธรรมดาก็สามารถเปลี่ยนกระแสลมแรงและหลุมอากาศได้ เมื่ออากาศพัดลอยขึ้นเหนือภูมิประเทศตามธรรมชาติ ซึ่งอาจทำให้เกิดคลื่นอากาศที่ก่อให้เกิดเป็นหลุมอากาศได้

แม้ว่าสภาพดินฟ้าอากาศอาจส่งผลต่อการเกิดหลุมอากาศได้เช่นกัน แต่เหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความกังวลมากที่สุดเรียกว่า อากาศปั่นป่วนในอากาศแจ่มใส (Clear-Air Turbulence) หรือ CAT

ทางด้าน นายรามาลิงกัม ซาราวานัน หัวหน้าภาควิชาวิทยาศาสตร์บรรยากาศ ที่มหาวิทยาลัย A&M ในรัฐเทกซัส ของสหรัฐฯ ระบุว่า หลุมอากาศอาจเกิดจากสิ่งที่เรียกว่า คลื่นแรงโน้มถ่วง ที่ทำให้เกิดคลื่นในอากาศซึ่งเรามองไม่เห็น วิธีเดียวที่นักบินรู้เกี่ยวกับสิ่งนี้คือการได้ยินจากการสื่อสารของนักบินที่เพิ่งบินผ่านเส้นทางเดียวกันเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้หลุมอากาศรุนแรงขึ้นหรือไม่


ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเรดดิ้งในอังกฤษ ที่ตีพิมพ์เมื่อปีที่แล้ว พบว่า ระหว่างปี 2522-2563 การเกิดอากาศปั่นป่วนในอากาศแจ่มใส บริเวณเหนือมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางการบินที่พลุกพล่านที่สุดในโลก เพิ่มขึ้น 55% เนื่องมาจากอุณหภูมิที่อุ่นขึ้น อาจส่งผลต่อรูปแบบกระแสลม และมีรายงานยืนยันว่า การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นสาเหตุส่วนใหญ่

...

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชิคาโก คาดการณ์ว่า อุณหภูมิที่ร้อนขึ้นอาจนำไปสู่ความเร็วลมที่สูงขึ้นใน "กระแสลมระดับบนที่เร็วที่สุด" โดยการศึกษาชี้ให้เห็นว่าความเร็วจะเพิ่มขึ้น 2% สำหรับทุกๆ องศาเซลเซียสที่โลกอุ่นขึ้น ซึ่งคาดว่าอุณหภูมิโลกจะเพิ่มขึ้น 4 องศาเซลเซียส ภายในสิ้นศตวรรษนี้ หากก๊าซเรือนกระจกยังคงเพิ่มขึ้นในระดับเดียวกัน

นักวิจัยกล่าวว่า สายการบินต่างๆ จะต้องชะลอความเร็วลงเพื่อจำกัดผลกระทบด้านความปลอดภัยจากสภาพอากาศ แต่ดูเหมือนว่าหลุมอากาศจะเป็นเรื่องความปลอดภัยของผู้คนบนเครื่องบินมากกว่าตัวเครื่องบิน และส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นเมื่อผู้โดยสารและลูกเรือไม่ได้รัดเข็มขัดนิรภัย

ด้านซารา เนลสัน ประธานสมาคมพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของสหรัฐฯ กล่าวว่า เวลาเครื่องบินตกหลุมอากาศ ลูกเรือจะได้รับบาดเจ็บคิดเป็น 79% ของการบาดเจ็บที่เกิดขึ้น โดยหลุมอากาศกลายเป็นปัญหาด้านความปลอดภัยในที่ทำงานที่ร้ายแรงสำหรับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน.