ในปี 2568 เกาะยูเมะชิมะ ที่เกิดจากการถมทะเลในโครงการสร้างสาธารณูปโภคในอ่าวโอซากา ญี่ปุ่น กำลังรอต้อนรับผู้คนทั่วโลกสู่งาน “โอซากา เวิลด์ เอ็กซ์โป 2025” นิทรรศการระดับนานาชาติที่จัดยาวๆไป 6 เดือน โดยนครโอซาการับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ แต่ผู้เขียนเชื่อว่าเมื่อมาถึงหนึ่งในเมืองใหญ่ของภูมิภาคคันไซแห่งนี้ มีคนไม่ยอมหมกตัวอยู่แค่เอ็กซ์โป เพราะในฐานะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของญี่ปุ่น เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ยาวนาน ธรรมชาติผสานกับความทันสมัยของตึกรามบ้านช่อง นี่คือเสน่ห์ที่ไม่ควรพลาดออกไปสัมผัส
ลำพังทุกวันนี้ยอดนักท่องเที่ยวที่มุ่งหน้าแดนอาทิตย์อุทัยก็มหาศาลอยู่แล้ว แต่โอซากา เวิลด์ เอ็กซ์โป เป็นเงื่อนไขสำคัญที่ญี่ปุ่นเร่งปรับปรุงหลายๆสาธารณูปโภคเพื่อรองรับการหลั่งไหลของผู้คนในปีหน้าที่จะเพิ่มขึ้นอีกโข ประตูแรกก็คือสนามบินนานาชาติคันไซ ก็มีโครงการปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร 1 มาตั้งแต่ปี 2564 นอกจากจะขยายความจุอาคารผู้โดยสาร แต่ยังมุ่งมอบประสบการณ์ประทับใจแก่ผู้มาใช้บริการเป็นสำคัญ
ผู้เขียนได้มีโอกาสผ่านเข้า-ออก สนามบินนานาชาติคันไซเมื่อสัปดาห์ก่อน สังเกตพบว่างานก่อสร้างในอาคารผู้โดยสาร 1 เร่งงานอย่างเร่งด่วน แน่นอนว่าส่งผลกระทบต่อการจัดการให้เกิดความคล่องตัวของแถวผู้โดยสารที่แน่นทั้งขาเข้าและขาออกพอสมควร แต่เชื่อว่าเมื่อการปรับปรุงเสร็จสิ้นเมื่อไหร่ ผู้คนที่มาใช้บริการคงอุทานว้าว! แน่ เพราะโครงการนี้ถือเป็นงานปรับปรุงครั้งสำคัญที่สุดที่ดำเนินการในภูมิภาคคันไซในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา แว่วว่าจะเพิ่มรูปแบบการเช็กอินด้วยตนเองและโหลดสัมภาระ มีช่องทางอัจฉริยะ มีประตูอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้บริการที่รวดเร็ว รวมถึง ร้านค้า ร้านอาหาร ที่มีทั้งสินค้าไฮ-เอนด์ และร้านที่ได้แรงบันดาลใจจากสมบัติทางวัฒนธรรมของภูมิภาคคันไซ
...
ตามข้อมูลของเว็บไซต์แอร์พอร์ต เทคโนโลยี เผยว่า การปรับปรุงส่วนใหญ่ของสนามบินนานาชาติ คันไซ จะทันเปิดโฉมใหม่อย่างยิ่งใหญ่ในปี 2568 ตอบสนองต่องานโอซากา เวิลด์ เอ็กซ์โป 2025 การปรับปรุงทั้งหมดคาดจะแล้วเสร็จในปี 2569 พรั่งพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกเชิงพาณิชย์ทางฝั่งเหนือและฝั่งใต้ในพื้นที่ขาออกระหว่างประเทศ โดยจะช่วยให้สนามบินแห่งนี้รองรับผู้โดยสารที่เดินทางระหว่างประเทศได้ 40 ล้านคนต่อปี.
ภัค เศารยะ
คลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม