‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรีไทย พบปะกับคนสำคัญในฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาหลายคน โดยหวังเป็นตัวกลางยุติความขัดแย้งที่ครอบงำเมียนมามา 3 ปี

สำนักข่าว วอยซ์ ออฟ อเมริกา รายงานเมื่อ 7 พ.ค. 2567 อ้างการเปิดเผยจากแหล่งข่าวผู้ไม่เปิดเผยนามเนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย ว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ร่วมประชุมอย่างไม่เป็นทางการกับผู้นำรัฐบาลเงาเมียนมา หรือ ‘รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ’ (NUG) ระหว่างที่เขาไปเชียงใหม่ เมื่อเดือนมีนาคมและเมษายนที่ผ่านมา

แหล่งข่าวระบุว่า นายทักษิณยังได้พบกับผู้แทนจากกองกำลังติดอาวุธกลุ่มชาติพันธุ์ในเมียนมาหลายกลุ่ม รวมถึง กองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU), พรรคก้าวหน้าแห่งชาติกะเหรี่ยงแดง (KNPP) และ องค์กรแห่งชาติคะฉิ่น (KNO) นอกจากนั้นยังได้พบกับ พลเอกเจ้ายอดศึก ประธานสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน (RCSS) ด้วย

ตามการเปิดเผยของแหล่งข่าว นายทักษิณแสดงความต้องการเป็นตัวกลางเจรจาระหว่างกองทัพรัฐบาลและองค์การต่อต้านของกลุ่มชาติพันธุ์ (ERO) ซึ่งต่อสู้กับรัฐบาลทหารมาตั้งแต่ กองทัพเมียนมาก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลนางอองซาน ซูจี เมื่อกุมภาพันธ์ 2564

มีรายงานด้วยว่า นายทักษิณขออนุญาตเดินทางไปเมียนมาด้วย แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการตอบรับใดๆ จากรัฐบาลทหารพม่าภายใต้การนำของพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย

ด้านนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศคนใหม่ของไทยยืนยันเมื่อวันอังคารที่ 7 พ.ค.ถึงเรื่องการพบปะกันระหว่างนายทักษิณกับตัวแทนจากฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา แต่ย้ำว่าเป็นการพูดคุยในระดับบุคคล ไม่ใช่ส่วนหนึ่งในนโยบายเกี่ยวกับประเทศเพื่อนบ้านของรัฐบาลไทย

ด้านนาย จอ ซอ ไว (Kyaw Zaw Wai) โฆษกของ NUG แสดงความขอบคุณความพยายามของไทยในเวทีอาเซียน เพื่อหาทางออกที่สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของประชาชนชาวเมียนมา เขายังยอมรับเรื่องความพยายามด้านมนุษยธรรมของไทย รวมถึงการส่งมอบอาหารและที่พักพิงให้แก่ผู้อพยพชาวพม่านับพันคน ระหว่างการต่อสู้ที่เมืองเมียวดีด้วย

...

นายจอบอกอีกว่า NUG ขอให้ไทยเพิ่มการมีปฏิสัมพันธ์กับทั้ง NUG และ ERO มากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่ผู้พลัดถิ่นในเมียนมา

ส่วนนาย ไซ ตุน อ่อง ลวิน ผู้เชี่ยวชาญด้านกลุ่มชาติพันธุ์ในรัฐฉานและเมียนมา บอกกับ VOA ทางโทรศัพท์ว่า การที่นายทักษิณเข้ามามีส่วนร่วมในปัญหาของเมียนมา จะแสดงเจตนาโดยนัยอย่างมีนัยสำคัญให้แก่ประเทศเพื่อนบ้านของเมียนมา ซึ่งกำลังสนใจผลลัพธ์ของความขัดแย้งเป็นอย่างมาก

“เป็นเรื่องสำคัญที่จะมีการพิจารณาบทบาทของนายทักษิณ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เนื่องจากพรรคเพื่อไทยของเขาเป็นรัฐบาลชุดปัจจุบัน นอกจากนั้น คำพูดของนายทักษิณอาจช่วยทำความเข้าใจเรื่องเป้าหมายของนโยบายต่างประเทศของไทย, ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นบริเวณชายแดน และทางแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วย”

“อดีตนายกรัฐมนตรีไทยมีความสัมพันธ์อย่างยาวนานกับอดีตนายพลของกองทัพเมียนมา และนักการเมืองที่มีความใกล้ชิดกับกองทัพ รวมถึงความสัมพันธ์อันดับกับกองกำลังติดอาวุธชนกลุ่มน้อย โดยเฉพาะ RCSS และ KNU” นายลวินกล่าว

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : voa