- อิหร่านเปิดฉากโจมตีอิสราเอลแล้วเมื่อคืนวันเสาร์ ต่อเนื่องจนถึงเช้าวันอาทิตย์ เพื่อล้างแค้นที่รัฐบาลยิวโจมตีสถานกงสุลของพวกเขาในซีเรีย จนทำให้เจ้าหน้าที่อาวุโสของกองทัพเสียชีวิต
- ตอนนี้โลกกำลังจับตาดูว่า อิสราเอลจะตอบโต้การโจมตีของอิหร่านอย่างไร โดยพวกเขามีหลายทางเลือก ทั้งเลือกที่จะอดกลั้น หรือโจมตีกลับไปแล้วเสี่ยงทำให้สถานการณ์บานปลายยิ่งขึ้น
- หลายประเทศรวมถึงสหรัฐฯ ต่างเรียกร้องให้อิสราเอลอดกลั้น ส่วนฝ่ายอิหร่านซึ่งตอนนี้พอใจที่ได้ล้างแค้นแล้วขู่ว่า หากอิหร่านตอบโต้ พวกเขาจะโจมตีกลับอย่างรุนแรงยิ่งกว่าเดิม
ตอนนี้ โลกกำลังจับตาดูอิสราเอลว่าพวกเขาจะตอบโต้อย่างไร หลังจากอิหร่านระดมยิงมิสไซล์และโดรนหลายร้อยลูก เข้าใส่ดินแดนของพวกเขาตั้งแต่คืนวันเสาร์จนถึงเมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อล้างแค้นที่กองทัพยิวโจมตีสถานกงสุลอิหร่านในซีเรีย สังหารเจ้าหน้าที่กองทัพอิหร่านไป 7 นาย รวมผู้บัญชาการอาวุโสกับรอง ผบ.อีกคน
หลายประเทศในตะวันออกกลาง และพื้นที่อื่นๆ ไม่เว้นแม้แต่ชาติที่เป็นอริกับอิหร่าน ออกมาเรียกร้องให้อิสราเอลอดทนอดกลั้น เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้สถานการณ์ในภูมิภาค ซึ่งตึงเครียดเพราะสงครามในฉนวนกาซา ลุกลามบานปลายกลายเป็นความขัดแย้งขนาดใหญ่กว่าเดิม
จุดยืนของอิหร่านในตอนนี้คือ พวกเขาได้ล้างแค้นแล้ว และขอจบเรื่องเพียงเท่านี้ อิสราเอลอย่าโจมตีโต้กลับ มิเช่นนั้นพวกเขาจะโจมตีอีกครั้ง อย่างรุนแรงยิ่งกว่าเดิม จนไม่สามารถสกัดกั้นได้ง่ายๆ เหมือนคราวนี้
แต่อิสราเอลลั่นวาจาไปแล้วว่าจะ “ตอบโต้อย่างมีนัยสำคัญ” และรัฐบาลของอิสราเอลในปัจจุบันก็ถูกว่าเป็นรัฐบาลที่หัวแข็งที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศเสียด้วย และพวกเขาก็มีตัวเลือกหลายทางในการตอบโต้การโจมตีของอิหร่าน
...
อิหร่านยิงมิสไซล์-โดรนล้างแค้น
เมื่อคืนวันเสาร์จนถึงช่วงกลางวันวันอาทิตย์ (13-14 เม.ย.) อิหร่านส่งโดรนกว่า 170 ลำ กับขีปนาวุธร่อนอีก 30 ลูกสู่อิสราเอล แต่พลเรือตรี แดเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอลยืนยันว่า ไม่มีลำใดเข้าสู่ดินแดนของอิสราเอลได้ ขณะที่มิสไซล์อีก 110 ลูกที่อิหร่านยิงมา ก็ถูกสกัดได้เกือบหมด มีจำนวนเพียงเล็กน้อยที่เข้าอิสราเอลได้
อาวุธที่อิหร่านยิงเข้าใส่อิสราเอลต้องใช้เวลาเดินทางนานหลายชั่วโมง เนื่องจากต้องบินข้ามประเทศอื่นๆ อย่าง อิรัก, ซีเรีย หรือจอร์แดน เป็นระยะทางราว 1,000 กม. ซึ่งพลเรือตรีฮาการียืนยันว่า โดรนและมิสไซล์ 99% ถูกยิงสกัดได้ที่นอกน่านฟ้าของอิสราเอล ขณะที่กองทัพสหรัฐฯ กับสหราชอาณาจักรก็ช่วยยิงสกัดมิสไซล์กับโดรนได้หลายสิบลำ
ส่วนจอร์แดน ซึ่งทำสัญญาสันติภาพกับอิสราเอล ก็ช่วยยิงสกัดวัตถุบินที่เข้าสู่หน้าฟ้าของพวกเขา อ้างว่าเพื่อรับรองความปลอดภัยของพลเรือน ขณะที่ฝรั่งเศสช่วยลาดตระเวนน่านฟ้า แต่ยังไม่แน่ชัดว่า พวกเขาได้ยิงทำลายโดรนหรือมิสไซล์ของอิหร่านด้วยหรือไม่
ฝ่ายอิหร่านก็ใช่ว่าจะไม่มีพวกเลย กลุ่มฮีซบอลเลาะห์ ในเลบานอน เผยว่าพวกเขายิงจรวด 2 ระลอกเข้าใส่ฐานทัพอิสราเอลบริเวณที่ราบสูงโกลัน ซึ่งอิสราเอลยึดไปจากซีเรีย แต่ยังไม่มีการเปิดเผยว่า สร้างความเสียหายมากน้อยเพียงใด
อิสราเอลยอมรับว่า มิสไซล์ที่หลุดจากการสกัดกั้นมาได้ ตกลงใส่ฐานทัพอากาศ เนวาติม ในทะเลทรายเนเกฟ ทางตอนใต้ของอิสราเอล สร้างความเสียหายเล็กน้อย และฐานทัพยังคงปฏิบัติการได้ตามปกติ สวนทางกับฝ่ายอิหร่านที่อ้างว่า ฐานทัพแห่งนี้เสียหายอย่างหนัก
นอกจากนั้นยังมีเด็กหญิงวัย 10 ขวบคนหนึ่ง จากชุมชนเบโดอิน อาหรับ ใกล้เมืองอารัด ทางตอนใต้ ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากสะเก็ดระเบิด และตอนนี้กำลังรักษาตัวในห้องไอซียู
ทางเลือกของอิสราเอล
ตอนนี้อิสราเอลมีตัวเลือกหลายอย่างว่าจะทำอย่างไรกับสถานการณ์นี้ดี พวกเขาอาจฟังคำเตือนจากนานาชาติ และใช้ยุทธศาสตร์อดทนอดกลั้น ไม่โจมตีเข้าสู่ดินแดนของอิหร่านโดยตรง แต่หันไปโจมตีกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านในประเทศอื่นๆ แทน เช่นกลุ่มฮีซบอลเลาะห์ ในเลบานอน หรือกลุ่มติดอาวุธในซีเรีย เหมือนที่ทำมาตลอด
อิสราเอลการตอบโต้ในลักษณะเดียวกัน ด้วยการยิงขีปนาวุธพิสัยไกลเข้าสู่ดินแดนของอิหร่าน โดยเล็งเป้าหมายไปที่เฉพาะฐานยิงมิสไซล์ ที่ถูกใช้ในการโจมตีเมื่อคืนวันเสาร์ แต่อาจถูกอิหร่านมองว่าคือการยั่วยุ เพราะเป็นการโจมตีเข้าสู่ดินแดนของพวกเขาโดยตรง
หรือพวกเขาอาจทำมากกว่านั้นคือ ขยายการโจมตีไปถึงฐานทัพ, ค่ายฝึกทหาร และศุนย์ควบคุมและบัญชาการ ของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) ของอิหร่าน ซึ่ง 2 ตัวเลือกหลังมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้อิหร่านตัดสินใจตอบโต้กลับอีกครั้งตามคำขู่
สิ่งที่ทั่วโลกกังวลคือ การตัดสินใจของอิสราเอลจะลากสหรัฐฯ เข้ามาด้วยหรือไม่ เพราะการเข้ามาของสหรัฐฯ อาจนำไปสู่สงครามเต็มรูปแบบระหว่างกองทัพอเมริกันกับอิหร่าน เนื่องจากสหรัฐฯ มีฐานทัพอยู่ในชาติอ่าวอาหรับครบทั้ง 6 ประเทศ รวมถึงในซีเรีย, อิรัก และจอร์แดน และทั้งหมดอาจตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของอิหร่าน
อิหร่านอาจตอบโต้ด้วยวิธีที่พวกเขาขู่เอาไว้มานาน นั่นคือการปิดช่องแคบฮอร์มุซ ด้วยทุ่นระเบิด, โดรน และยานจู่โจมเคลื่อนที่เร็ว สกัดการขนส่งน้ำมันเกือบ 1 ใน 4 ของโลก ซึ่งนับเป็นฝันร้ายอย่างแท้จริง เพราะไม่เพียงจะดึงสหรัฐฯ เข้ามาแล้ว ยังลากประเทศอ่าวอาหรับมาเข้าร่วมการต่อสู้ด้วย
...
อิสราเอลคิดหนัก ตอบโต้อย่างไร
การตัดสินใจของคณะรัฐมนตรีสงครามของอิสราเอล คือตัวตัดสินว่าพวกเขาจะมีก้าวต่อไปอย่างไร โดยหนึ่งในสมาชิกอย่าง นายเบนนี แกนต์ซ ระบุว่า อิสราเอลจะทำให้อิหร่านต้องชดใช้ด้วยวิธีและเวลาที่เหมาะสมกับพวกเขา ขณะที่รัฐมนตรีหลายคนก็เรียกร้องให้ตอบโต้อย่างหนักแน่น
อย่างไรก็ตาม พันธมิตรหลักของพวกเขาอย่างสหรัฐฯ ออกมาแสดงท่าทีแล้วว่าไม่ต้องการให้อิสราเอลตอบโต้ จนทำให้สถานการณ์บานปลายไปมากกว่านี้ โดยประธานาธิบดี โจ ไบเดน ต่อสายคุยกับ เบนจามิน เนทันยาฮู โดยตรง และขอให้ผู้นำอิสราเอลถือว่าเหตุการณ์ในคืนวันเสาร์เป็นชัยชนะครั้งใหญ่ เพราะอิสราเอลสกัดการโจมตีของอิหร่านได้เกือบหมด
ขณะที่การประชุมนานหลายชั่วโมงของคณะรัฐมนตรีสงครามในวันอาทิตย์ ก็จบลงโดยไม่มีข้อสรุป ว่าอิสราเอลจะตอบโต้ออิหร่านอย่างไร โดยสมาชิก ครม.ตั้งใจที่จะตอบโต้ แต่ยังไม่ตัดสินใจเรื่องเวลาและขอบเขต โดยจุดหนึ่งที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้คือ อิสราเอลควรตอบโต้เร็วแค่ไหน และพวกเขาได้มอบหมายให้กองทัพไปคิดหาทางตัวเลือกต่างๆ สำหรับการตอบโต้มานำเสนอ
อิสราเอลยังบอกสหรัฐฯ ด้วยว่า พวกเขาไม่ได้พยายามหาทางขยายขอบเขตความขัดแย้งกับอิหร่านอย่างมีนัยสำคัญ พวกเขาเพียงหาทางปกป้องตนเองเท่านั้น
ส่วนฝ่ายอิหร่านออกโรงเตือนว่าจะโจมตีกลับอย่างรุนแรงหากอิสราเอลตัดสินใจตอบโต้ “เราตัดสินใจที่จะสร้างสมดุลใหม่ โดยหลังจากนี้ไป หากรัฐบาลไซออนิสต์โจมตีผลประโยชน์, ทรัพย์สิน, บุคลากร และพลเมืองของเรา ไม่ว่าจะที่ใดและเวลาใด เราจะโจมตีคืน”
ผู้เขียน : ทิตชนม์ สว่างศรี
ที่มา : bbc , cnn
...