ผู้คนนับสิบล้านคนในอเมริกาเหนือ และอีกหลายล้านคนที่เดินทางมาจากทั่วโลก ร่วมชมปรากฏการณ์สุริยุปราคาเต็มดวง ซึ่งหลายคนอาจเพิ่งมีโอกาสได้เห็นเป็นครั้งแรก
สุริยุปราคาเต็มดวงดังกล่าวจะเริ่มขึ้นบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก ตั้งแต่เวลาประมาณ 23.39 น. ของวันที่ 8 เม.ย. ตามเวลาประเทศไทย ก่อนที่เงาคราสจะไปถึงเมืองมาซาตลัน ของเม็กซิโกเป็นแห่งแรก แล้วเคลื่อนตัวไปทางตะวันออกเฉียงเหนือเรื่อยไปจนถึงเกาะนิวฟาวด์แลนด์ของแคนาดา ในเวลาประมาณ 02.55 น. ของวันที่ 9 เม.ย. ตามเวลาประเทศไทย
...
โดยระหว่างทางนั้นแนวคราสเต็มดวงจะเคลื่อนตัวทแยงมุมตัดผ่าน 15 รัฐของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้อยู่อาศัยถึง 44 ล้านคน ทำให้พวกเขาตกอยู่ในความมืดเหมือนเป็นกลางคืนนานประมาณ 3-4 นาที ส่วนพื้นที่อื่นๆ ของอเมริกาเหนือที่ไม่ได้อยู่ตามแนวคราสนี้ ก็ยังสามารถชมสุริยุปราคาได้ แต่เป็นรูปแบบคราสบางส่วน
ปรากฏการณ์สุริยุปราคาครั้งนี้กลายเป็นโอกาสทางธุรกิจอย่างดี โรงแรมและบริการห้องพักให้เช่าตามจุดชมวิวยอดนิยม ถูกจองจนเต็ม ขณะที่มีการจัดงานอีเวนต์มากมาย ตามสถานที่สำคัญที่ตั้งอยู่บนแนวคราวเต็มดวง เช่น งานเทศกาล, งานเลี้ยงฉลองชมสุริยุปราคา และพิธีแต่งงานหมู่
...
นอกจากนั้นนี่ยังเป็นโอกาสให้นักวิทยาศาสตร์ได้ดำเนินการทดสอบทางดาราศาสตร์ โดยนาซาวางแผนจะปล่อยจรวด Sounding Rocket สำหรับวัดการรบกวนของสภาพแวดล้อมในอวกาศ 3 ลูกขึ้นไปก่อน, ระหว่าง และหลังการเกิดสุริยุปราคา เพื่อวัดความเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากการมืดลงกะทันหันในบรรยากาศชั้นไอโอโนสเฟียร์ ซึ่งสำคัญมากสำหรับการสื่อสารด้วยคลื่นวิทยุระยะไกล
...
...
สุริยุปราคายังมอบโอกาสสำคัญให้นักวิทยาศาสตร์ใช้ศึกษา ‘โคโรนา’ หรือบรรยากาศชั้นนอกสุดของดวงอาทิตย์ ซึ่งตามปกติจะถูกแสงสว่างของพื้นผิวซ่อนเอาไว้ โดยชั้นโคโรนานี้สูญเสียมวลสารออกไปอย่างต่อเนื่อง กลายมาเป็นลมสุริยะ ซึ่งส่งผลกระทบต่อทุกอย่างตั้งแต่ดาวเทียมไปจนถึงระบบไฟฟ้า
ทั้งนี้ นี่ถือสุริยุปราคาเต็มดวงที่เกิดขึ้นในอเมริกาเหนือครั้งแรกในรอบ 7 ปี ซึ่งหากพลาดไปจนต้องรอจนถึงเดือนสิงหาคม 2587 หรือ 20 ปีข้างหน้า กว่าจะเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงในภูมิภาคนี้อีกครั้ง.
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : cna