- อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ที่เพิ่งได้รับการยืนยันเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน ลงชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดี ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ ขณะที่ทรัมป์ยังต้องต่อสู้คดีอาญาอีก 4 คดีใหญ่ ที่เป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับเส้นทางการหวนคืนสู่ทำเนียบขาว
- สัปดาห์ที่ผ่านมามีความคืบหน้าสำคัญ สำหรับการพิจารณาคดีของทรัมป์ โดยกำหนดการต่างๆ ล่าช้าออกไป ทำให้โอกาสที่อดีตประธานาธิบดีจะต้องได้รับการพิจารณาคดีเสร็จสิ้น ก่อนที่เขาจะยืนหยัดต่อหน้าชาวอเมริกันในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายนมีน้อยลงเรื่อยๆ
- ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายระบุว่า กลยุทธ์ทางกฎหมายของนายทรัมป์ ก็คือการถ่วงเวลาคดีความทางกฎหมายทั้งหมดที่มีต่อเขาให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หากเป็นไปได้ก็ให้จนกว่าจะเป็นหลังการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน หากเขาชนะการเลือกตั้งได้กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนมกราคม 2025 ก็มีหลายวิธีที่เขาจะทำให้คดีของรัฐบาลกลางที่ฟ้องเขาหายไป

1.คดีปลอมแปลงบันทึกทางธุรกิจ
...
คณะลูกขุนใหญ่รัฐนิวยอร์ก ตั้งข้อหาทรัมป์ "ปลอมแปลงบันทึกทางธุรกิจ" รวม 34 ข้อหา เกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินปิดปาก (hush-money) ให้แก่ สตอร์มี แดเนียลส์ ดาราหนังผู้ใหญ่ ในช่วงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2016
อัยการเขตแมนฮัตตัน ระบุว่า นายไมเคิล โคเฮน อดีตทนายส่วนตัวของทรัมป์ จ่ายเงิน 130,000 ดอลลาร์สหรัฐ ให้กับ สตอร์มี แดเนียลส์ เพื่อให้เธอปิดปากเงียบ กรณีที่เธอเคยออกมากล่าวหาทรัมป์ว่าเคยมีความสัมพันธ์กับทรัมป์เมื่อปี 2006 โดยอัยการระบุว่า ทรัมป์พยายามปกปิดและละเมิดกฎหมายเลือกตั้ง
ทางฝั่งทรัมป์ไม่ยอมรับผิดกรณีปลอมแปลงบันทึกทางธุรกิจทุกข้อหา และเขายังปฏิเสธว่า ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับแดเนียลส์ แต่ยอมรับว่า เขาชำระเงินคืนให้โคเฮน หลังโคเฮนจ่ายเงินให้แดเนียลส์ ขณะที่นายโคเฮนยอมรับผิดกรณีละเมิดกฎหมายการหาเงินทุนเพื่อหาเสียงเลือกตั้ง รวมถึงความผิดในข้อหาอื่นๆ และเมื่อปี 2018 เขาถูกศาลสั่งจำคุกเป็นเวลา 3 ปี ในช่วงที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
ล่าสุด กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เพิ่งเปิดเผยเอกสารมากกว่า 73,000 หน้า ที่ระบุว่ามีความเกี่ยวข้องกับการสืบสวนเรื่องการเงินของทีมกฎหมายของทรัมป์ ซึ่งมีการออกหมายเรียกเมื่อเดือนมกราคม และคาดว่าจะมีเอกสารอีกกว่า 15,000 หน้า
นายจอห์น คอฟฟี่ ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย กล่าวว่า "อัยการสะดุดเล็กน้อย" โดยเกิดความสับสน และความล่าช้าในการจัดทำเอกสาร ทำให้ดูเหมือนว่ากระทรวงยุติธรรม และสำนักงานอัยการเขตนิวยอร์กกำลังทะเลาะกัน สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ทนายความของทรัมป์ออกมากล่าวโจมตีการทำงานของศาลที่ใช้เวลานานเกินกว่าเหตุในการจัดทำเอกสาร ซึ่งรวมถึงบทสัมภาษณ์พยาน และขอให้ศาลเลื่อนการพิจารณาคดีออกไป 30 วัน เพื่อจะได้มีเวลาในการตรวจสอบเอกสารใหม่ และไม่ตรงกับช่วงเทศกาลปัสกา ซึ่งอัยการนิวยอร์กตกลงที่จะไม่ขัดขวาง
กำหนดพิจารณาคดี : ล่าช้า
เดิมทีศาลมีกำหนดพิจารณาคดีในวันที่ 25 มีนาคม 2024 แต่ล่าสุดประกาศเลื่อนเป็นอย่างเร็วที่สุดในเดือนเมษายน

2.คดีแทรกแซงผลการเลือกตั้งรัฐจอร์เจีย
การสืบสวนคดีนี้มุ่งเน้นไปที่บทสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างทรัมป์กับ แบรด แรฟเฟนสเปอร์เกอร์ เลขานุการรัฐจอร์เจีย โดยทรัมป์ขอให้แรฟเฟนสเปอร์เกอร์ หาคะแนนให้มากพอที่จะพลิกผลการเลือกตั้งที่เขาแพ้ในรัฐจอร์เจีย ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2020 โดยผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายกล่าวว่า ทรัมป์ละเมิดกฎหมายอาญาของรัฐจอร์เจียอย่างน้อย 3 ฉบับ ได้แก่ การสมรู้ร่วมคิดเพื่อทุจริตการเลือกตั้ง การจูงใจให้มีการทุจริตการเลือกตั้ง และการตั้งใจแทรกแซงผลการปฏิบัติหน้าที่ด้านการเลือกตั้ง ขณะที่ทรัมป์โต้กลับว่า บทสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างเขากับ แรฟเฟนสเปอร์เกอร์ เป็นเสรีภาพในการแสดงออกที่ได้รับการคุ้มครองจากรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ
ล่าสุด หลังจากการพิจารณาคดีทางกฎหมายที่ตึงเครียดมาหลายวัน ผู้พิพากษาที่เป็นประธานในคดีแทรกแซงการเลือกตั้งรัฐจอร์เจียของนายทรัมป์ จำเลยที่ 1 และจำเลยร่วมอีก 18 คน ในปี 2020 ได้ออกคำตัดสินว่า ฟานี วิลลิส อัยการเขตฟุลตันเคาน์ตี จะยังคงทำหน้าที่ดำเนินคดีต่อไป หลังจากเกิดข่าวฉาวว่าอัยการฟานี วิลลิส มีความสัมพันธ์โรแมนติกกับนาธาน เวด อัยการพิเศษที่เธอจ้างมาช่วยทำคดี ขณะที่นายเวดประกาศลาออกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
...
ผู้พิพากษาสก็อตต์ แมคอาฟี กล่าวว่า มีคำถามที่สมเหตุสมผลว่าทนายความทั้งสองคนให้การเป็นเท็จ หรือให้การในลักษณะที่ไม่เหมาะสมหรือไม่
ทางด้าน นายเอเดรียน โจนส์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์รัฐศาสตร์ ที่วิทยาลัยมอร์เฮาส์ ในแอตแลนตา กล่าวว่า ทุกคนที่นี่มีแนวโน้มที่จะได้รับอิทธิพลจากการรายงานข่าวคำตัดสินของผู้พิพากษา และไม่น่าเป็นไปได้ที่ผู้คนจะไม่รู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
การประกาศของผู้พิพากษามีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่เขายกฟ้อง 3 ข้อจาก 13 ข้อกล่าวหาอดีตประธานาธิบดีรายนี้ เนื่องจากคลุมเครือเกินไป อย่างไรก็ตาม อัยการจะมีโอกาสที่จะชี้แจง และดำเนินคดีกับนายทรัมป์อีกครั้ง
กำหนดพิจารณาคดี: อัยการเสนอให้เริ่มคดีวันที่ 5 สิงหาคม 2567

...
3.คดีเก็บเอกสารลับโดยมิชอบ
ทรัมป์ ถูกตั้งข้อหาละเมิดกฎหมายการจารกรรมที่กำหนดโทษอาญาต่อการครอบครองข้อมูลความมั่นคงโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาสมรู้ร่วมคิดเพื่อขัดขวางกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว อดีตผู้นำสหรัฐฯ ปฏิเสธข้อกล่าวหาของอัยการศาลรัฐบาลกลาง เมืองไมอามี รัฐฟลอริดา กรณีที่ทรัมป์จัดเก็บข้อมูลความมั่นคงแห่งชาติโดยมิชอบด้วยกฎหมาย หลังทรัมป์ลงจากตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม 2021 และทรัมป์ยังกล่าวความเท็จต่อเจ้าหน้าที่ที่ตามหาเอกสารเหล่านี้กลับคืนมา
แจ็ค สมิธ อัยการพิเศษ เปิดเผยคำฟ้องที่ระบุว่า ทรัมป์ทำให้ความลับของประเทศตกอยู่ในความเสี่ยง โดยหลังลงจากตำแหน่งผู้นำประเทศ และนำเอกสารมาเก็บอย่างหละหลวมในบ้านพักมาร์-อะ-ลาโก ในรัฐฟลอริดา และที่กอล์ฟคลับของเขาในรัฐนิวเจอร์ซีย์ โดยภาพประกอบเอกสารคำฟ้อง แสดงให้เห็นกล่องเอกสารจำนวนมากถูกเก็บบนเวทีในห้องบอลรูม ในห้องน้ำ และถูกวางกระจัดกระจายบนพื้นห้องเก็บของ โดยข้อมูลในเอกสารมีทั้งข้อมูลลับของโครงการนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ และข้อมูลอ่อนไหวอื่นๆ
ขณะที่การพิจารณาคดีดำเนินไปอย่างล่าช้า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา อัยการตั้งข้อหาทรัมป์ และวอลท์ นอว์ตา คนรับใช้ของทรัมป์ ตลอดจน คาร์ลอส ดี โอลิเวียรา พนักงานของทรัมป์ เป็นจำเลยร่วม ในข้อหา พยายามลบข้อมูลในกล้องวงจรปิดที่คฤหาสน์มาร์-อะ-ลาโก หลังคณะลูกขุนใหญ่ออกหมายเรียกให้มีการส่งข้อมูลคลิปวิดีโอในกล้อง เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว
กำหนดพิจารณาคดี: ล่าช้า
เดิมทีศาลมีนัดพิจารณาคดีในวันที่ 20 พฤษภาคม 2024 ขณะที่ นายแจ็ค สมิธ อัยการพิเศษ เสนอให้เริ่มต้นใหม่ในวันที่ 8 กรกฎาคม ทนายความของนายทรัมป์กล่าวว่า หากคดีนี้ไม่ได้รับการเลื่อนไปถึงช่วงหลังการเลือกตั้งก็น่าจะเริ่มเร็วที่สุดในเดือนสิงหาคม
...

4.คดีโจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ
ย้อนไปเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 ผู้สนับสนุนทรัมป์บุกไปโจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อพยายามหยุดสภาคองเกรสไม่ให้รับรองชัยชนะของนายโจ ไบเดน โดยอัยการกล่าวว่า ทรัมป์หาประโยชน์จากเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้น และปฏิเสธคำแนะนำของที่ปรึกษาว่า เขาควรบอกให้ผู้ก่อจลาจลออกไปจากพื้นที่
นับเป็นคดีใหญ่ที่สุดที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์กำลังเผชิญ คือการดำเนินคดีของรัฐบาลกลางต่อบทบาทของทรัมป์ ในวันที่ผู้ประท้วงบุกโจมตีอาคารรัฐสภา โดยอัยการกล่าวหาว่าทรัมป์สมรู้ร่วมคิดฉ้อโกงประเทศ ด้วยการกดดันไม่ให้สภาคองเกรสรับรองชัยชนะเลือกตั้งของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เมื่อปี 2020 และละเมิดสิทธิในการเลือกตั้งอย่างยุติธรรมของผู้ลงคะแนนเลือกตั้ง
โดยทรัมป์ และแกนนำผู้สนับสนุนเขา ยังคงเดินหน้าอ้างว่ามีการโกงเลือกตั้ง แม้จะรู้ว่าข้ออ้างนี้ไม่ใช่เรื่องจริง ขณะที่คำฟ้องระบุว่า ที่ปรึกษาใกล้ชิดของอดีตประธานาธิบดี รวมทั้งเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านข่าวกรอง กล่าวกับทรัมป์หลายครั้งว่า ผลการเลือกตั้งเป็นไปอย่างชอบธรรม ไม่ได้มีการโกงตามที่ทรัมป์กล่าวอ้าง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ศาลได้กำหนดให้มีการโต้แย้งด้วยวาจา สำหรับคดีนี้ในวันที่ 25 เมษายน และผู้พิพากษาอาจยังไม่มีคำตัดสินจนกว่าจะถึงสิ้นเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นช่วงใกล้สิ้นสุดสมัยประชุมสภาอย่างเป็นทางการ เมื่อศาลฎีกาส่งคำตัดสิน ผู้พิพากษาที่เป็นประธานในการพิจารณาคดีคาดว่าจะต้องใช้เวลาเพิ่มเติม 88 วันเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการพิจารณาคดี
ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายระบุว่า นับเป็นกลยุทธ์ทางกฎหมายเบื้องต้นของนายทรัมป์ ซึ่งก็คือการถ่วงเวลาคดีความทางกฎหมายทั้งหมดที่มีต่อเขาให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หากเป็นไปได้ก็ให้จนกว่าจะถึงหลังการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน หากเขาชนะการเลือกตั้งได้กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนมกราคม 2025 ก็มีหลายวิธีที่เขาจะทำให้คดีของรัฐบาลกลางที่ฟ้องเขาหายไป
กำหนดพิจารณาคดี : ยังไม่มีกำหนด และคาดว่ายังไม่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้