- นักวิทย์ทั่วโลกจับตา เชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ‘JN.1’ มาแรง กำลังจะเป็นเชื้อโควิด-19 ที่ทำให้เกิดการระบาดระลอกใหม่ทั่วโลก และเชื้อโควิด ‘JN.1’จะเข้ามาครองโลกถัดไปจากสายพันธุ์ XBB
- องค์การอนามัยโลกจัดให้ โควิด-19 สายพันธุ์ JN.1 เป็นสายพันธุ์ที่ ‘ต้องให้ความสนใจ’ แล้ว หลังพบคนติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในหลายประเทศ รวมทั้งสหรัฐฯ ยุโรป จีน อินเดีย และไทย
- เชื้อโควิด -19 สายพันธุ์ JN.1 เป็นรุ่นลูกของเชื้อโควิดโอมิครอน สายพันธุ์ BA.2.86 แต่พบการกลายพันธุ์ที่สไปก์โปรตีนเพิ่มขึ้น แค่ตำแหน่งเดียว ทว่ากลับทำให้มีความพอเหมาะพอดีมากขึ้นและติดเชื้อง่ายขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งยังช่วยในการหลบภูมิต้านทานของร่างกายมนุษย์
และแล้ว หน้าหนาวปีนี้ ชาวโลกยังคงเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 พบคนติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น เหมือนดั่งที่เหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาและโรคติดต่อ ย้ำมาตลอดว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 จะไม่หายไปจากโลก
แต่ที่น่าหวั่นใจคือ การระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้ พบว่ามีเชื้อโควิดสายพันธุ์ น้องใหม่มาแรง อย่าง เชื้อโควิด ‘JN.1’ กำลังแพร่ระบาดในหลายประเทศทั่วโลก และพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว (ในไทยพบผู้ติดเชื้อแล้ว 1 ราย จนถึง 21 ธ.ค.) อีกทั้ง องค์การอนามัยโลก(WHO) ได้ประกาศให้เชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ JN.1 เป็น‘สายพันธุ์ที่ต้องให้ความสนใจ’ (Varient of Ineterest) แล้ว
ด้วยเหตุนี้ เชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ JN.1 จึงกลายเป็นเชื้อโควิด-19 ที่ถูกเฝ้าจับตาเป็นพิเศษ ว่าจะมีฤทธิ์เดชขนาดไหน? และนี่คือสิ่งที่เหล่านักวิทยาศาสตร์รู้ เกี่ยวกับ เชื้อโควิด JN.1
...
เป็นรุ่นลูกของ เชื้อโควิด BA.2.86
เชื้อโควิด JN.1 สืบสายมาจากเชื้อโอมิครอน BA.2.86 หรือมีชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า ‘พิโรลา’ ( Pirola) ซึ่งเป็นรุ่นหลานของ BA.2 เจ้าของฉายา ‘โอมิครอนล่องหน’ โดยโควิดสายพันธุ์ BA.2.86 นี้เป็นสายพันธุ์ที่นักวิทย์ทั่วโลกจับตาช่วงฤดูร้อนในสหรัฐฯ หรือเดือนสิงหาคม ปี 2565
เชื้อโควิด-19 BA.2.86 เป็นเชื้อโควิดที่มีการกลายพันธุ์ที่ สไปก์โปรตีน หรือโปรตีนหนาม (ใช้ในการจับกับ ACE2 recepter ของเซลล์ร่างกายมนุษย์) มากกว่า 30 ตำแหน่ง จนนักวิทยาศาสตร์กังวลว่าการกลายพันธุ์ที่สไปก์โปรตีนเป็นจำนวนมากนี้ อาจทำให้โควิด-19 สายพันธุ์ BA.2.86 มีศักยภาพในการหลบหนีภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีน และแอนติบอดีที่ใช้สู้กับโควิด-19
โชคดีที่ความกังวลเหล่านี้ไม่เกิดขึ้น แต่เชื้อโควิด BA.2.86 ก็ยังคงแพร่ระบาด และพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ในบางประเทศ รวมทั้งในสหรัฐฯ ซึ่งจากผลการศึกษาบางงาน ชี้ว่า การที่เชื้อโควิด BA.2.86 ไม่ทำให้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นเพราะมันอาจสูญเสียความสามารถในการจับกับเซลล์ร่างกายของมนุษย์ก็เป็นได้
จนมาถึงรุ่นของสายพันธุ์ โควิด JN.1 ซึ่งนักวิทย์พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงแค่เพียง ‘ตำแหน่งเดียว’ เมื่อเทียบกับรุ่น ‘พ่อ’ แต่ดูเหมือนกว่ากลับทำให้โควิด JN.1 มีความเหมาะสมมากกว่าเดิม และเป็นเชื้อโควิดที่แพร่ติดต่อได้เร็วขึ้น
กังวล เชื้อโควิด JN.1 แพร่ติดเชื้อเร็ว
ขณะนี้พบคนติดเชื้อโควิด JN.1 ในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้ง เดนมาร์ก สเปน เบลเยียม ฝรั่งเศส และเนเธอร์แลนด์ และกำลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในออสเตรเลีย เอเชีย และแคนาดา
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐฯ(CDC) ประเมินว่า ความชุกของเชื้อโควิดJN.1 ที่จะทำให้มีผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าในสหรัฐอเมริกา ระหว่างปลายเดือนพ.ย.-ธ.ค. โดยมีรายงานว่าพบคนติดเชื้อโควิด สายพันธุ์ JN.1ในสหรัฐฯ แล้วประมาณ 15-29 % ส่วนที่สหราชอาณาจักร พบคนติดเชื้อโควิด สายพันธุ์ JN.1 อยู่ที่ประมาณ 7% ของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศ
จากการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของเชื้อโควิด JN.1 ทำให้หน่วยงานที่ติดตามการระบาดของโควิด-19 ชี้ว่า โควิด JN.1จะกลายเป็นสายพันธุ์ที่มีคนติดเชื้อมากที่สุดทั่วโลกในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
...
ด้านองค์การอนามัยโลกได้จัดให้ เชื้อโควิด JN.1เป็นสายพันธุ์ที่ต้องให้ความสนใจเมื่อ 19 ธ.ค.2566 แต่ยังคงระบุถึงความเสี่ยงต่อสุขภาพของมนุษย์ ยังอยู่ในระดับต่ำ
ผลการศึกษาพบหลบภูมิร่างกายของมนุษย์
ดร.ที.ไรอัน เกรกอรี ผู้เชี่ยวชาญด้านวิวัฒนาการของไวรัส ประจำมหาวิทยาลัย Guelph ในรัฐออนแทริโอ ประเทศแคนาดา บอกว่า เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์ JN.1กำลังเป็นคู่แข่งที่เหนือชั้นกว่า โควิดสายพันธุ์ XBB ที่ยังอยู่ และจะทำให้โควิด สายพันธุ์ JN.1 จะครองโลกในลำดับถัดไป
ดร.เกรกอรี กล่าวว่า การกลายพันธุ์ที่สไปก์โปรตีนของ เชื้อโควิด สายพันธุ์ JN.1 ดูเหมือนจะช่วยให้เชื้อไวรัสหลบหนีภูมิคุ้มกันของเรา
ขณะที่ผลการศึกษาของนักวิจัยของมหาวิทยาลัยโคลัมเบียในสหรัฐฯ และจีน ชี้ว่า ความสามารถของแอนติบอดีในร่างกายของมนุษย์ ในการต่อต้านกับโควิดสายพันธุ์ JN.1 ลดลงสองเท่า ถึงแม้จะไม่ได้ลดมาก แต่ก็สามารถทำให้เกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในเร็วๆ นี้
...
เราจะป้องกัน โควิดสายพันธุ์ JN.1 ได้อย่างไร?
เว็บไซต์ Yalemedicine มหาวิทยาลัยเยล ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยด้านการแพทย์ชั้นนำของโลก ระบุว่า ในฤดูใบไม้ร่วง จนถึงฤดูหนาว เราต้องเผชิญกับทั้งเชื้อโควิด-19 เชื้อไข้หวัดใหญ่ และเชื้อไวรัส RSV แพร่ระบาดในเวลาเดียวกัน วัคซีนยังสามารถช่วยป้องกันอาการป่วยจากเชื้อไวรัสทั้งจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ และเชื้อโควิด-19 ให้แก่ทุกคนที่อายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปได้
ขณะที่ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐฯ(CDC) ระบุว่าวันที่ 9 ธันวาคม 2566 มีผู้ใหญ่มารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ล่าสุด แค่เพียง 18% ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่ต่ำเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ด้วยเหตุนี้ CDC จึงเรียกร้องให้แพทย์ทำงานกันหนักมากขึ้น เพื่อให้คนไข้ได้รับการฉีดวัคซีน และย้ำว่า ยังไม่สายเกินไปจากการได้รับประโยชน์จากวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ระบาดในฤดูนี้
ผู้เขียน: อรัญญา ศรีจันทรนิตย์
ที่มา : BBC, yalemedicine ,CNN