อาทิตย์ 17 กันยายน 2023 เวลา 13.30 น. มีทอดผ้าป่าสามัคคีมูลนิธิสมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) ที่ศาลาทรงไทย พร. คณะขาบบวร วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ ร่วมทำบุญได้ที่บัญชีธนาคารออมสิน เลขที่ 020-418-903-579 ชื่อบัญชีมูลนิธิสมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) ส่งสลิปการโอนที่  08-1639-6049 (พระมหาจรัญ) และ 08-1930-0914 (คุณจงสุข)

กระแสการเปลี่ยนชื่อประเทศมีมาเรื่อยๆ พม่าเปลี่ยนชื่อเป็นเมียนมา ตุรกีเปลี่ยนชื่อเป็นตุรเคีย ตอนนี้มีทั้งกระแสสนับสนุนและต่อต้านการเปลี่ยนชื่อจากอินเดีย (India) เป็นภารัต (Bharat) ไม่กี่วันที่ผ่านมา มีการประชุมของ G20 ที่กรุงนิวเดลี ในหนังสือเชิญผู้นำ G20 ร่วมรับประทานอาหารค่ำในระหว่างการประชุม มีการเขียนตำแหน่งของนางเทราปที มูรมุ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินเดียว่า President of Bharat แทนที่จะเขียนว่า President of India

สาธารณรัฐอินเดียมีชื่อในภาษาฮินดีตามรัฐธรรมนูญของอินเดียมาตรา 1 ว่า Bharat (ภารัต) การเปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการจากอินเดียไปเป็นภารัตจะเป็นจริงมากน้อยแค่ไหนต้องติดตามการประชุมสมัยวิสามัญของรัฐสภาอินเดียระหว่าง 18-22 กันยายน 2023 มีแนวโน้มว่านายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดียอาจจะเสนอมติให้เปลี่ยนชื่อประเทศอย่างเป็นทางการ

นายโมดีเป็นนายกรัฐมนตรีจากพรรคภารติยชนตะ ช่วงที่ผ่านมามีนักการเมืองหลายคนจากพรรคภารติยชนตะหนุนให้นายโมดีเปลี่ยนชื่อประเทศ เพราะภารัตเป็นชื่อดั้งเดิมของประเทศนี้ ส่วนอินเดียเป็นชื่อที่อังกฤษตั้งให้ในฐานะเจ้าอาณานิคมที่เข้ามายึดแผ่นดินชมพูทวีป นายนาเรช บันสัล สมาชิกรัฐสภาของพรรคภารติยชนตะเป็นคนยื่นเสนอญัตตินี้ต่อที่ประชุมราชยสภา ให้เหตุผลว่าอินเดียเป็นสัญลักษณ์ของการเป็นทาสอาณานิคม คำนี้จึงควรถูกถอดออกจากรัฐธรรมนูญ

...

เรียงตามลำดับประเทศที่มีจีดีพีลำดับสูงของโลกคือ สหรัฐฯจีน ญี่ปุ่น เยอรมนี อินเดีย อังกฤษ ถึงตอนนี้ถ้าว่ากันถึงขนาดเศรษฐกิจและจีดีพี อินเดียก็แซงหน้าอังกฤษอดีตเจ้าอาณานิคมตัวเองไปเรียบร้อยแล้ว นักการเมืองของอินเดียกำลังทำโรดแม็ปเพื่อทำให้อินเดียกลายเป็นประเทศพัฒนาแล้วใน ค.ศ.2047 หรืออีก 24 ปีข้างหน้า ซึ่งถึงตอนนั้น ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดอินเดียอาจจะเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่โตติด 1 ใน 3 ของโลก (สหรัฐฯจีน อินเดีย)

ปัจจุบันอินเดียมีประชากร 1.375 พันล้านคน แบ่งการปกครองออกเป็น 28 รัฐ และ 9 ดินแดนสหภาพ เดิมอินเดียมีพื้นที่มากถึง 5 ล้านตารางกิโลเมตร พอปากีสถานและบังกลาเทศแยกตัวออกไป อินเดียก็เหลือพื้นที่ 3.2 ล้านตารางกิโลเมตร เป็นประเทศที่มีความเจริญแบบอารยธรรมมาตั้งแต่ 2,600 ปีก่อนคริสต์ศักราช มีความเก่าแก่พอๆ กับจีน

ตอนที่เข้ามาตอนแรกๆ อังกฤษเข้ามาเพียงทำการค้า ตอนหลัง ก็มาตั้งสถานีการค้าที่บอมเบย์ (ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นมุมไบ) มัทราส (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นเชนไน) และกัลกัตตา (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นโกลกาตา) เมื่อการค้าเข้มแข็งแล้ว อังกฤษก็เริ่มตีอินเดียและบั้นปลายท้ายที่สุด อังกฤษก็เนรเทศพระเจ้าบะฮาดูร์ชาห์ที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าแห่งราชวงศ์มุคัลองค์สุดท้ายไปอยู่ที่พม่า อินเดียจึงตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษอย่างเป็นทางการตั้งแต่ ค.ศ.1858 และมอบเอกราชให้อินเดียใน ค.ศ.1947 เป็นเวลานานถึง 89 ปีที่อินเดียเป็นทาสอังกฤษ

อินเดียเหมือนจีนคือเป็นประเทศส่งออกประชาชนของตนไปอยู่ต่างประเทศ เดินทางไปทุกตรอกซอกมุมของโลกก็จะพบชาวอินเดียและชาวจีน ทำมาหากินอย่างขยันขันแข็ง และจำนวนไม่น้อยที่ประสบความสำเร็จมากกว่าคนท้องถิ่น แม้แต่นายกรัฐมนตรีอังกฤษคนปัจจุบันก็มีเชื้อสายอินเดีย รองประธานาธิบดีสหรัฐฯก็มีเชื้อสายอินเดีย ผู้บริหารบริษัทใหญ่ๆของโลกจำนวนไม่น้อยที่มีเชื้อสายอินเดีย

สิ่งหนึ่งซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความพ่ายแพ้ในอดีตคือชื่อประเทศ คนอินเดียจำนวนไม่น้อยจึงเห็นด้วยกับการจะเปลี่ยนชื่อในครั้งนี้

ส่วนความสำเร็จในการเปลี่ยนชื่อ ว่าจะทำได้หรือไม่

ต้องคอยดูกันต่อไปครับ.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com

คลิกอ่านคอลัมน์ "เปิดฟ้าส่องโลก" เพิ่มเติม