การก่อเหตุโจรกรรมรถยนต์ในญี่ปุ่นเพิ่มสูงขึ้น หลังจากราคารถใช้แล้วยังคงราคาดี โดยมีทั้งนำไปแปลงเลขตัวถังรถแล้วขายในประเทศ รวมทั้งลักลอบส่งออกไปต่างประเทศ

ตำรวจในญี่ปุ่นต้องกุมขมับ หลังพบการก่อเหตุขโมยรถยนต์เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากราคารถยนต์ในตลาดยังคงราคาสูง โดยรถยนต์ที่ถูกขโมยไปจะถูกนำมาปลอมแปลงทะเบียน และดัดแปลงเปลี่ยนเลขประจำตัวรถก่อนนำมาขายใหม่ ขณะที่อีกส่วนหนึ่งจะถูกแยกชิ้นส่วนลักลอบส่งออกไปขายต่างประเทศ

โดยเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ในจังหวัดไอจิ ตำรวจสามารถจับกุมชาย 2 คน รวมทั้งตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ในฐานะผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง และมีการปลอมแปลงเลขประจำตัวรถ โดยพบว่าผู้ต้องหาทั้งสอง ไปตัดเอาเลขประจำตัวรถที่เกิดอุบัติเหตุ และถูกลบทะเบียนประวัติไปแล้ว มาสวมให้รถยนต์รุ่นเดียวกันที่ถูกขโมยมา ก่อนจะนำไปขาย

นอกจากนี้ เมื่อเดือนที่แล้ว ตำรวจจังหวัดไอจิ ยังสามารถจับกุมชายอีก 1 คน ที่ต้องสงสัยว่าจะมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับคดีคล้ายๆ กันด้วย ซึ่งตำรวจเชื่อว่า ยังมีรถที่ถูกขโมยอีกจำนวนมากที่นำมาขายในตลาดรถมือสองในญี่ปุ่น โดยเมื่อปีที่แล้วจำนวนของรถที่ถูกขโมยเพิ่มขึ้นมาถึง 552 คัน จากปีก่อนโดยมีรถที่ถูกขโมยทั้งสิ้น 5,734 คัน ซึ่งนับว่าเป็นการเพิ่มจำนวนครั้งแรกในรอบ 9 ปี ขณะที่ในปี 2022 มีเคสของรถที่ถูกขโมยในจังหวัดไอจิ 884 คดี

ส่วนภาพรวมของเหตุโจรกรรมรถยนต์ทั่วประเทศเพียงครึ่งแรกของปี 2023 พบว่ามีรถถูกขโมยมากถึง 2,948 คันแล้ว ซึ่งนอกจากการเปลี่ยนแปลงเลขประจำตัวรถแล้ว ยังมีรถอีกจำนวนมากที่ถูกนำไปแยกชิ้นส่วนขายในญี่ปุ่น และลักลอบส่งออกไปขายในต่างประเทศด้วย

ซึ่งทางตำรวจได้ฝากย้ำเตือนถึงผู้ที่จะซื้อรถมือสองว่าควรจะต้องระมัดระวังและตรวจสอบให้ดีหากพบว่ารถยนต์คันดังกล่าวมีราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป เพราะแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญบางครั้งยังไม่สามารถสังเกตเห็นความผิดปกติของเลขตัวถังได้ หากคนปลอมแปลงมีฝีมือ รวมทั้งฝากเตือนไปยังเจ้าของรถให้ติดตั้งเครื่องล็อกรถ หรือล็อกพวงมาลัยที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อเป็นการป้องกันการถูกโจรกรรมรถเอาไว้ก่อน.

...

คลิกอ่านข่าวเกี่ยวกับ "ญี่ปุ่น"