- โคโค่ ลี นักร้องเพลงป๊อป ผู้โด่งดังในยุค 90 เสียชีวิตแล้วขณะมีอายุเพียง 48 ปี ที่บ้านของเธอในฮ่องกง โดยสาเหตุเกิดจากการจบชีวิตตัวเอง
- พี่สาวของเธอเปิดเผยบนโลกออนไลน์ว่า โคโค่ต่อสู้กับโรคซึมเศร้ามานานหลายปีแล้ว และอาการแย่ลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา จนกระทั่งเกิดเหตุสลดขึ้น
- ตลอดเส้นทาง 29 ปีในสายอาชีพนักดนตรีของเธอ โคโค่ สร้างผลงานเอาไว้มากมาย และกลายเป็นนักร้องเชื้อสายจีนคนแรกที่ตีตลาดเพลงของสหรัฐฯ ได้สำเร็จ เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ
โคโค่ ลี นักร้องเพลงป๊อประดับดีว่า ผู้มัดใจแฟนเพลงในเอเชียและในอเมริกาด้วยเสียงอันทรงพลังในช่วงยุค 1990-2000 และฝากผลงานเพลงเอาไว้มากมาย เสียชีวิตแล้วเมื่อวันพุธที่ 5 ก.ค. 2566 ขณะมีอายุเพียง 48 ปีเท่านั้น
พี่สาวของโคโค่แจ้งข่าวร้ายผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ เปิดเผยว่า น้องสาวของพวกเธอเสียชีวิตหลังจากพยายามทำอัตวินิบาตกรรม เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (2 ก.ค.) ซึ่งทำให้เธออยู่ในอาการโคม่า แม้ว่าแพทย์จะพยายามอย่างเต็มที่แล้ว ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตของเธอเอาไว้ได้ ส่วนสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้พวกเธอระบุว่า เกิดจากโรคซึมเศร้า
ประวัติโคโค่ ลี
ตลอดเส้นทาง 29 ปีในสายอาชีพนักดนตรีของเธอ โคโค่ สร้างผลงานเอาไว้มากมาย และกลายเป็นนักร้องเชื้อสายจีนคนแรกที่ตีตลาดเพลงของสหรัฐฯ ได้สำเร็จ ได้ร่วมงานกับฮอลลีวูด และผู้กำกับชื่อดังหลายคน จนเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ
...
โคโค่ ลี ช่วงชีวิตในวัยเด็ก
โคโค่เกิดเมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2518 โดยมีชื่อเดิมว่า เฟอร์เรน ลี เป็นลูกคนเล็กจากทั้งหมด 3 คน ของบิดาชาวมาเลเซีย และมารดาชาวฮ่องกง โดยพี่สาว 2 คนของเธอมีชื่อว่า แนนซี ผู้ที่จะกลายเป็นผู้จัดการส่วนตัวของเธอในเวลาต่อมา กับแครอล
อย่างไรก็ตาม บิดาของโคโค่เสียชีวิตตั้งแต่ก่อนที่เธอจะลืมตาดูโลก พออายุได้ 9 ขวบ ผู้เป็นแม่ก็พาเธอกับพี่ๆ ย้ายไปอาศัยในเมืองซานฟรานซิสโก ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเธอได้เข้าเรียนชั้นมัธยมต้นที่โรงเรียน เพรซิดิโอ มิดเดิล สคูล และชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียน ราอูล วอลเลนเบิร์ก เทรดิชันนัล ไฮสคูล
ในฤดูร้อนหลังจากเรียนจบชั้นมัธยมปลายในปี 2535 โคโค่ก็เดินทางกลับฮ่องกงเพื่อเชียร์พี่สาวทั้ง 2 คนที่เข้าประกวดนางงามฮ่องกง ในขณะที่ตัวเธอเองเข้าประกวดร้องเพลงประจำปีรายการ นิว ทาเลนต์ ซิงกิง อวอร์ดส์ ครั้งที่ 12 และได้ตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 1 จากการร้องเพลง Run to you ของวิตนีย์ ฮิวสตัน
เส้นทางการเป็นศิลปินของโคโค่ ลี
เพียงวันเดียวหลังจากการประกวด ค่ายเพลง แคปิตอล อาร์ติสต์ (Capital Artists) ก็ยื่นข้อเสนอสัญญาทำเพลงให้แก่โคโค่ ทำให้เธอตัดสินใจยุติการเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย ในเมืองเออร์วิน เพื่อตั้งสมาธิทำงานสายอาชีพเพลงป๊อปของเธอเพียงอย่างเดียว โดยเธอได้เปิดตัวเพลงของตัวเองในอัลบั้มรวมมิตรเพลงดังต่างๆ เช่นอัลบั้ม Red Hot Hits ปี 93 ฉบับฤดูใบไม้ร่วง ในปี 2536
ปีต่อมา โคโค่ ทำงานกับค่าย แฟนซี พาย เรคคอร์ดส์ (Fancy Pie Records) และได้เปิดตัวอัลบั้มเดี่ยวภาษาแมนดารินของตัวเองเป็นครั้งแรกชื่อว่า Love from Now On ตามด้วยอัลบั้ม Promise Me จากนั้นในปี 2538 โคโค่ปล่อยอัลบั้มเพลงคัฟเวอร์ภาษาอังกฤษออกมาในชื่อว่า Brave Enough to Love พร้อมทั้งอัลบั้มภาษาแมนดารินอัลบั้มที่ 3 คือ Woman in Love
ในปี 2539 โคโค่ทำสัญญากับบริษัท โซนี่ มิวสิก เอนเตอร์เทนเมนต์ และอัลบั้มเปิดตัวของเธอกับค่ายใหม่ซึ่งมีชื่อว่า “Coco Lee” ก็กลายเป็นอัลบั้มขายดีที่สุดในเอเชียในปีนั้น และจากนั้นเธอก็ออกอัลบั้มอย่างต่อเนื่อง ทั้งอัลบั้ม Sincere ในปี 2540 และ Di Da Di ในปี 2541 ซึ่งทำยอดขายได้ 1 ล้านตลับภายในเวลาเพียง 3 เดือนเท่านั้น
เส้นทางอาชีพของโคโค่เริ่มขยายไปสู่ระดับนานาชาติ เมื่อในปี 2541 บริษัท วอลต์ ดิสนีย์ พิคเจอร์ส จ้างเธอให้ร้องเพลง “Reflection” ประกอบภาพยนตร์แอนิเมชัน “มู่หลาน” และให้พากย์เสียงเป็นตัวละคร ฟา มู่หลาน ในภาพยนตร์เวอร์ชันภาษาแมนดาริน
ในปีเดียวกัน โคโค่ได้โอกาสจัดแสดงคอนเสิร์ตต่อหน้าผู้ชมมากกว่า 30,000 คนที่ไต้หวัน ซึ่งนับเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ที่เคยเกิดขึ้นในไต้หวัน ทาบสถิติของราชาเพลงป๊อป ไมเคิล แจ็กสัน ที่เคยทำไว้ในอดีต
ต่อมาในปี 2542 โคโค่ภายใต้การดูแลของค่ายเพลงใหม่ 550 มิวสิก (550 Music) ปล่อยอัลบั้มเพลงภาษาอังกฤษของตัวเองชุดแรกในชื่อ Just No Other Way ออกมา ซึ่งมีเพลงสุดฮิตอย่าง “Do You Want My Love” ที่สามารถไต่อันดับเข้าสู่ชาร์ตเพลงของสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ ทำให้โคโค่เป็นนักร้องเชื้อสายจีนคนแรกที่ทำได้
เส้นทางในสายอาชีพนักร้องของโคโค่ ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยจนถึงปี 2543 เธอปล่อยอัลบั้มในเอเชียไปแล้วมากกว่า 20 อัลบั้ม และได้ปรากฏตัวในภาพยนตร์อย่างน้อย 3 เรื่อง รวมถึงเรื่อง Master of Everything ของผู้กำกับ หลี่ ซิน และเรื่อง No Tobacco ของ สแตนลีย์ กวัน และร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ Crouching Tiger, Hidden Dragon
โคโค่ ออกอัลบั้มสุดท้ายของเธอในวันที่ 31 พ.ค. 2546 ในชื่อ Illuminate แต่ยังคงมีเพลงซิงเกิลใหม่ออกมาอยู่เรื่อยๆ โดยเพลงล่าสุดชื่อว่า Tragic เพิ่งปล่อยเมื่อ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา
โคโค่ยังเคยเข้าร่วมการแข่งขันเรียลลิตี้โชว์ I Am A Singer ซึ่งเป็นรายการประกวดร้องเพลงยอดนิยมในประเทศจีน โดยเธอเข้าร่วมการแข่งซีซั่นที่ 4 ในปี 2559 และคว้าตำแหน่งชนะเลิศมาได้สำเร็จ ทำให้เธอกลายเป็นนักร้องที่ไม่ได้มาจากแผ่นดินใหญ่ของจีนคนที่ 2 เท่านั้นที่ทำได้
โคโค่ ลี แต่งงานกับนักธุรกิจชาวแคนาดา
ในด้านชีวิตส่วนตัว โคโค่ แต่งงานกับนายบรูซ ร็อกโควิตซ์ นักธุรกิจชาวแคนาดาเชื้อสายยิว อดีตซีอีโอของบริษัท ซัพพลายเชน Li & Fung ในฮ่องกง ในวันที่ 27 ต.ค. 2554 โดยจัดพิธีสมรสอย่างอลังการที่ฮ่องกง และใช้เพลง “I just wanna marry u” ทั้งเวอร์ชันภาษาแมนดารินและภาษาอังกฤษ ซึ่งเพิ่งเปิดตัว 4 วันก่อนหน้านั้น ในงานด้วย
โคโค่กับร็อกโควิตซ์ ไม่ได้มีลูกด้วยกัน แต่ในปี 2559 นักร้องสาวเปิดเผยว่า เธอรับเลี้ยงลูกสาว 2 คนซึ่งเป็นลูกติดของฝ่ายสามี และในปี 2561 โคโค่ยอมรับว่า เธอเคยพยายามทำเด็กหลอดแก้วเพื่อที่จะมีลูกเป็นของตัวเอง
...
โรคซึมเศร้าและการเสียชีวิต
โคโค่ยังคงปรากฏตัวตามงานอีเวนต์บันเทิงต่างๆ เป็นครั้งคราว แต่จู่ๆ ในวันพุธที่ 5 ก.ค. 2566 แครอลกับแนนซี ลี พี่สาว 2 คนของเธอก็แจ้งข่าวร้ายผ่านโพสต์บนอินสตาแกรมและเฟซบุ๊กว่า โคโค่ จากไปแล้วในวัย 48 ปี
“ด้วยความเศร้าเสียใจอย่างยิ่ง เรามาที่นี่เพื่อแจ้งข่าวที่เลวร้ายที่สุด โคโค่ทนทุกข์จากโรคซึมเศร้ามาตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา และอาการของเธอก็ทรุดลงอย่างยิ่งในช่วงไม่กี่เดือนหลัง” โพสต์ของแครอลกับแนนซีระบุ
“ถึงแม้ว่า โคโค่ ลีจะขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อต่อสู้กับอาการซึมเศร้า น่าเสียดายที่ปิศาจในตัวเธอเป็นฝ่ายชนะ” แนนซี กับ แครอล ระบุ และเสริมด้วยว่า โคโค่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ควีน แมรี หลังจากเธอพยายามจบชีวิตตัวเองที่บ้านในฮ่องกงเมื่อวันอาทิตย์ (2 ก.ค. 2566)
“แม้ทีมแพทย์จะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อช่วยเหลือ และรักษาเธอจากอาการโคม่า สุดท้ายเธอก็จากไปในวันพุธ”
“เธอพยายามอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อเปิดโลกใบใหม่ให้แก่นักร้องชาวจีนในเวทีดนตรีนานาชาติ และเธอทุ่มเทความพยายามอย่างเต็มที่เปล่งประกายเพื่อชาวจีน” พี่สาวของโคโค่ระบุ
“เราหวังว่าทุกคนจะไม่เพียงคิดถึงโคโค่ แต่จะแบ่งปันรอยยิ้มที่สดใสของเธอ, ปฏิบัติกับทุกคนด้วยความจริงใจ, มีน้ำใจ และความรัก และสานต่อความปรารถนาของเธอ ที่ต้องการให้ทุกคนรอบตัวรู้สึกถึงความรักและความสุขของเธอ”
ผู้เขียน : ทิตชนม์ สว่างศรี
ที่มา : reuters, thesun, bbc
...
...