นักวิทยาศาสตร์สหรัฐฯ เผย ปรากฏการณ์เอลนีโญเริ่มขึ้นแล้วในมหาสมุทรแปซิฟิก โดยคาดว่าจะทำให้อากาศร้อนขึ้นจนปี 2567 กลายเป็นปีที่โลกร้อนที่สุด

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นักวิทยาศาสตร์สหรัฐฯ ยืนยัน ปรากฏการณ์สภาพอากาศตามธรรมชาติที่เรียกว่า เอลนีโญ เริ่มต้นขึ้นแล้วในมหาสมุทรแปซิฟิก โดยคาดว่ามันจะทำให้โลกที่อุ่นขึ้นอยู่แล้วเพราะภาวะสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงร้อนขึ้นไปอีก และอาจทำให้ปี 2567 เป็นปีที่โลกร้อนที่สุดเท่าที่เคยเป็นมา

นักวิทยาศาสตร์ยังกังวลว่า อากาศที่ร้อนขึ้นเพราะเอลนีโญจะทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส และอาจกระทบต่อสภาพอากาศของหลายพื้นที่ทั่วโลก เช่น ที่ออสเตรเลียอาจทำให้เกิดภัยแล้งรุนแรงขึ้น ขณะที่ภาคใต้ของสหรัฐฯ อาจเผชิญกับฝนตกมากขึ้น ส่วนที่มรสุมที่อินเดียอาจมีกำลังอ่อนลง

ทั้งนี้ สัญญาณที่บ่งชี้ว่าเอลนีโญเริ่มต้นขึ้นแล้วสำหรับนักวิทยาศาสตร์สหรัฐฯ คือ อุณหภูมิของน้ำทะเลต้องอุ่นกว่าปกติมากกว่า 0.5 องศาเซลเซียส ติดต่อกันนานกว่า 1 เดือน ในขณะที่ชั้นบรรยากาศมีการตอบสนองต่อความร้อนนี้ และต้องมีหลักฐานบ่งชี้ว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะคงอยู่ต่อเป็นเวลานาน

ตามแถลงการณ์ของ องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐฯ (NOAA) นักวิทยาศาสตร์ตรวจพบเงื่อนไขทั้งหมดในเดือนพฤษภาคม พวกเขาจึงเชื่อว่าเอลนีโญเริ่มขึ้นแล้ว “นี่เป็นสัญญาณที่อ่อนมากๆ แต่เราเชื่อว่าเรากำลังเริ่มเห็นเงื่อนไขเหล่านี้ และมันกำลังรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ” ดร.มิเชล ลูรู นักวิทยาศาสตร์ของ NOAA กล่าว

นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกคาดการณ์มาหลายเดือนแล้วว่าปรากฏการณ์เอลนีโญกำลังจะเกิดขึ้นในแปซิฟิก “ตอนนี้มันกำลังสะสมกำลังขึ้น มีสัญญาณหลายอย่างในการคาดการณ์ของเราช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่มันน่าจะไปถึงจุดสูงสุดในช่วงสิ้นปี 2566 นี้ในแง่ของความรุนแรง” นายอดัม สคาอิฟ จากสำนักงานอุตุนิยมวิทยาสหราชอาณาจักร กล่าว

...

“มีความเป็นไปได้แน่นอนที่อุณหภูมิโลกในปีหน้าจะทำสถิติใหม่ มันขึ้นอยู่กับว่าสุดท้ายแล้วเอลนีโญจะใหญ่แค่ไหน เอลนีโญขนาดใหญ่ในช่วงสิ้นปีนี้จะทำให้มีโอกาสสูงที่เราจะได้บันทึกสถิติอุณหภูมิโลกใหม่ในปี 2567” นายสคาอิฟ กล่าวและคาดว่าเอลนีโญจะอ่อนกำลังในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า หรือราวเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม.

ที่มา : bbc