งานวิจัยก่อนหน้านี้เผยว่าไดโนเสาร์ยุคแรกๆ ส่วนใหญ่กินพืช แต่ก็มีความแตกต่างในวิธีที่สัตว์เหล่านี้จัดการกับการกินอาหารที่มีพืชเป็นส่วนประกอบ ทำให้นักวิจัยให้ความสนใจและอยากไขความกระจ่าง ล่าสุด ดร.เดวิด บัตตัน นักวิทยาศาสตร์จากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ มหาวิทยาลัยบริสตอล และเบอร์มิงแฮม ในอังกฤษ เผยการวิจัยใหม่ที่ช่วยมีความเข้าใจว่าการกินอาหารของไดโนเสาร์มีวิวัฒนาการอย่างไร

จากการสแกนด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ที่ 5 กะโหลกไดโนเสาร์กลุ่มออร์นิธิสเชีย (Ornithischia) คือ เฮเทอโรดอนโทซอรัส (Heterodontosaurus), เลโซโทซอรัส (Leso thosaurus), เซลิโดซอรัส (Scelidosaurus), ฮิปซิโลโฟดอน (Hypsilophodon) และซิตตะโกซอรัส (Psittacosaurus) ทั้งหมดเป็นพวกกินพืชยุคแรกสุด ทีมได้สร้างกล้ามเนื้อกรามขึ้นใหม่ สำหรับวัดแรงกัด เพื่อปลดล็อกนิสัยการกินของพวกมัน ซึ่งพบว่า เฮเทอโรดอนโทซอรัสดูจะมีกล้ามเนื้อกรามที่ใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดกะโหลกของมัน ทำให้เกิดแรงกัดสูง เหมาะอย่างยิ่งต่อการกินพืชที่มีความเหนียว ขณะเซลิโดซอรัสก็มีแรงกัดคล้ายกัน แต่กล้ามเนื้อกรามค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับกะโหลกของมัน ทั้งนี้ โดยรวมไดโนเสาร์พวกนี้มีขนาดใหญ่และกัดได้รุนแรง ในทางตรงกันข้าม กะโหลกศีรษะของฮิปซิโลโฟดอนไม่มีกล้ามเนื้อขนาดใหญ่ มันจึงปรับกล้ามเนื้อให้กัดอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยใช้แรงกล้ามเนื้อน้อยลง

นักวิทยาศาสตร์เผยว่า ความต่างอย่างมีนัยสำคัญในขนาดกล้ามเนื้อกราม แรงกัด ความแข็งแรงของกราม ชี้ว่าไดโนเสาร์เหล่านี้แม้จะดูคล้ายกัน แต่มีวิวัฒนาการวิธีที่แตกต่างกันมากในการจัดการอาหารที่เป็นพืช.

Credit : David Button